นายกสั่งเปิดประตูระบายน้ำอยุธยา ศภช.เตือน 9 คลอง กทม.น้ำจ่อล้นตลิ่ง

นายกสั่งกรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม หลังนิคมอุตสาหกรรมโรจนะยังอ่วม ประสานเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ ด้าน ศภช.เตือน 9 คลองกทม.น้ำจ่อล้นตลิ่ง ให้เตรียมพร้อมช่วยเหลือ ติดตามข้อมูลใกล้ชิด นายกสั่งกรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม หลังนิคมอุตสาหกรรมโรจนะยังอ่วม 8 ต.ค. 54 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ดอนเมือง โดยได้สอบถาม และได้แสดงความห่วงใยกรณีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงของ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รายงานถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะสถานการณ์ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งได้ขอให้มีการตัดถนนเพื่อระบายน้ำ ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยังกรมชลประทานให้เปิดประตูระบายน้ำจำนวน 1 ประตู ซึ่งทำให้น้ำลดลงประมาณ 30 ซ.ม. ทันที โดยไม่ต้องมีการตัดถนน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เดินตรวจเยี่ยมการรับเรื่องขอความช่วยเหลือจากประชาชน ในห้องปฏิบัติการ และได้สั่งการให้ประสานเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกเครือข่ายในการรับร้องเรียนจากประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือและให้ประมวลข้อมูลกลับมายังส่วนกลางเพื่อให้ช่วยเหลือในทันท่วงที และให้ช่วยเหลือชีวิตคนให้มาอันดับ 1 ส่วนเส้นทางที่มีน้ำท่วม จนต้องมีการปิดการจราจรนั้น ให้ประสานขอประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ เพื่อเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนได้รับทราบข้อมูลด้วย นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผย วันที่ 8 ตุลาคม ว่าขณะนี้น้ำได้ไหลเข้าท่วมบริเวณเกาะเมือง อ.พระนครศรีอยุธยา แล้วหลายจุด รวมถึงบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทำให้ต้องเริ่มย้ายอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ รวมถึงผู้ป่วยขึ้นที่สูงแล้ว ทางด้าน นายไพจิตร โพธิ์จันทร์ ผู้อำนวยการแขวงการทางพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่เกาะเมืองและรอบนอกเกาะเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตั้งแต่ 2 นาฬิกาวันนี้ น้ำทะลักเข้าท่วมในเกาะเมืองและรอบเกาะเมืองอย่างหนัก จนทำให้การเดินรถยากลำบาก โดยเฉพาะรถเล็ก จึงขอแนะนำให้ใช้รถ 6 ล้อขึ้นไป ศภช.เตือน 9 คลองกทม.น้ำจ่อล้นตลิ่ง ให้เตรียมพร้อมช่วยเหลือ ติดตามข้อมูลใกล้ชิด ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ได้แจ้งเตือนภัยล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม ว่า พื้นที่ใน กทม.มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น อาจล้นตลิ่งเข้าท่วมบางพื้นที่ โดยเฉพาะคลองบางพรม (ถ.กาญจนาภิเษก) คลองฉิมพลี คลองบางแวก (พุทธมณฑลสาย 1) คลองบางแวก (ถ.รัชดาภิเษก) คลองเปรมประชากร (ดอนเมือง) คลองลาดพร้าว (วัดลาดพร้าว) ปากคลองตลาด คลองบางซื่อ (ฝั่งขวา ถ.พหลโยธิน) คลองมหาสวัสดิ์ (ทั้งสองฝั่ง ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) อย่างใกล้ชิดต่อไป ศปภ.เพิ่มช่องทางร้องเรียนผ่าน CALL CENTER ทุกค่ายมือถือ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่านายกรัฐมนตรีสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดทำงานบูรณาการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัย นอกจากนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการ โทร.แจ้งขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสายด่วนโทร 1111 กด 5 จึงเพิ่มช่องทางให้สามารถ โทร.แจ้งผ่าน CALL CENTER ของทุกค่ายมือถือได้ทันทีฟรีรวมทั้ง 191 ซึ่งทั้งหมดจะประมวลข้อมูลส่งมายัง ศปภ. เพื่อจัดส่งความช่วยเหลือไปได้อย่างทันท่วงทีต่อไป นายวิมกล่าวเชิญชวนประชาชนคนไทยทั้งประเทศร่วมบริจาคช่วยเหลือทั้งเงินและสิ่งของ หากต้องการบริจาคเงินสามารถบริจาคเข้าบัญชีกองทุนผู้ประสบภัยสาธารณะสำนักนายกรัฐมนตรี หรือเดินทางมาบริจาคสิ่งของด้วยตนเองที่ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง สำหรับสิ่งที่ผู้ประสบภัยต้องการมาก ได้แก่ นมผงสำหรับเลี้ยงทารก เรือท้องแบน น้ำยาล้างตา และของอุปโภคของแห้งพร้อมรับประทาน เป็นต้น เพราะยังมีความต้องการอีกมาก กรมเจ้าท่าเชิญเอกชนนำเรือส่วนตัวมาร่วมผลักดันน้ำลงทะเล นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า ตั้งโรงครัวทำอาหารแจกชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย ที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โรงครัวดังกล่าวจะให้บริการทั้งอาหารและน้ำดื่มทุกวัน รวมถึงได้ขอความร่วมมือจากนักเรียนของโรงเรียนพาณิชย์นาวี เพื่อเป็นอาสาสมัครจำนวน 70 คนในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่รับผลกระทบจากน้ำท่วมในการขนสิ่งของและบรรจุกระสอบทราย และรับส่งขน ประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วมประงานไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเดินเรือไทย ในการเข้ามาช่วยลำเลียงอาหารเพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน จ.พระนครศรีอยุธยา และหากประชาชนรายใดหากมีความประสงค์จะนำเรือเข้ามาช่วยผลักดันน้ำออกสู่ทะเล ขอให้มาลงชื่อกับกรมเจ้าท่า เพื่อรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการเข้าร่วมการผลักดันน้ำลงทะเล กรมเจ้าท่าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ค่าน้ำมัน และ ค่าดำเนินการต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการนำเรือเข้าร่วมการผลักดันน้ำออกสู่ทะเล มาลงทะเบียนได้ที่ศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ 1199 สถานการณ์น้ำท่วมที่ปทุมธานี ยังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น สถานการณ์น้ำท่วมที่ปทุมธานี ยังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น หลังแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงต่อเนื่อง โดยที่ตำบลบางพูน เตรียมอพยพชาวบ้านแล้ว ชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี เกือบ 200 หลังคาเรือน ซึ่งอาศัยอยู่ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต้องอพยพขึ้นมาอาศัยบนถนนโรโคโรด ในเต็นท์ที่หน่วยงานจัดไว้ให้ พร้อมเตรียมอพยพชาวบ้าน หากสถานการณ์เข้าสู่ขั้นวิกฤติ ขณะที่คลองเปรมประชากร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้จะมีประตูระบายน้ำติดเครื่องสูบขนาด 24 นิ้ว ผลักน้ำลงสู่เจ้าพระยา แต่ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่จังหวัดร้อยเอ็ด น้ำชีที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบขยายเป็นพื้นที่วงกว้าง น้ำไหลบ่าล้นกระสอบทรายเข้าท่วมหมู่บ้านสูงกว่า 1 เมตร 70 เซนติเมตร ทางจังหวัดเร่งอพยพย้ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และร้านค้าออกมาตั้งนอกหมู่บ้าน ขณะที่ชาวบ้านกำลังขาดแคลนน้ำดื่มเป็นอย่างมาก ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก : สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น, มติชนออนไลน์, สำนักข่าวไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท