Skip to main content
sharethis

โฆษก ปชป เผย \มาร์ค\" ไม่ร่วมวงถกนิติราษฎร์ หากอยากแลกเปลี่ยนแจ้งมาที่ตนจะประสานสถานที่เหมาะสมให้ ไม่เห็นด้วยใช้พื้นที่มหาวิทยาลัย แน่จริงให้เลิกเป็นนักวิชาการแล้วออกมาเคลื่อนไหว “ถาวร” พร้อมดีเบต “วรเจตน์” ผ่านเวทีสาธารณะ ส่วน\"ผบ.ทบ.\" ชี้ข้อเสนอ \"นิติราษฎร์\" ทำชาติแตกแยก 24 ก.ย. 54 - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ไปร่วมงานแถลงข่าวและแลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มคณะนิติราษฎร์ ว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่นายอภิสิทธิ์จะไม่เดินทางไป เนื่องจากหากกลุ่มคนดังกล่าวต้องการแลกเปลี่ยนความเห็นก็สามารถเดินทางมาพบได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ หรือโทรศัพท์นัดมายังตน ซึ่งจะประสานงานหาสถานที่ที่เหมาะสม เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มคณะนิติราษฎร์ยังคงใช้เวทีของมหาวิทยาลัย ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงอยากให้เลิกใช้มหาวิทยาลัยในการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวหรือส่วนกลุ่ม เพราะยังมีบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยจำนวนมากที่ไม่ได้เห็นด้วยกับการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ ถ้าแน่จริงเลิกใช้หมวกมหาวิทยาลัยและหมวกนักวิชาการในการออกมาเคลื่อนไหว “ถาวร” พร้อมดีเบต “วรเจตน์” ผ่านเวทีสาธารณะ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ อาจารย์ หรือกลุ่มนิติราษฎร์ ที่ออกมาท้าให้พรรคประชาธิปัตย์ หรือตนไปแสดงวิสัยทัศน์ต่อเวทีสาธารณะ ว่า คนอย่างนายวรเจตน์ไม่มีค่าพอ เพราะจากคำพูดและพฤติกรรมที่แสดงออกก็ชัดเจนว่าเป็นการทำเพื่อใคร และคิดหวังถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร “ทำไมต้องเสนอให้ล้างมลทินแค่ปี 49 ทำไมไม่ย้อนกลับไปทั้งหมดที่มีการปฏิวัติรัฐประหาร มีเจตนาที่จะช่วยคดีความของใครเป็นการเฉพาะหรือไม่ ถ้าอยากแสดงวิสัยทัศน์กับผมหรือพรรคประชาธิปัตย์จริง ก็ขอให้ไปบอกรัฐบาลให้จัดการแสดงวิสัยทัศน์ผ่านฟรีทีวี ผมพร้อมที่จะไป ขณะนี้สังคมต่างเคลือบแคลงว่า ข้อเสนอที่กลุ่มนิติราษฎร์เสนอมา โดยอ้างความเป็นนักวิชาการว่ามีความสุจริต ถูกต้องในความเป็นนักวิชาการหรือไม่อย่างไร” นายถาวร กล่าว นายถาวร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เมื่อปี 53 โดยให้ส่งเรื่องย้อนกลับไปที่กรมราชทัณฑ์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายชาติชาย สุทธิกลม อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เคยระบุแล้วว่ากระบวนการขั้นตอนในการตรวจสอบการถวายฎีกาขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ผ่านพ้นขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ไปแล้ว เรื่องนี้เป็นอีกความพยายามที่จะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถ้าเป็นคดีความของชาวบ้านธรรมดา เรื่องการขอความช่วยเหลือคงลงถังขยะไปแล้ว และเรื่องดังกล่าวก็ผ่านขั้นตอนฝ่ายผู้ปฏิบัติไปนานแล้ว “ดังนั้นการเสนอเรื่องกลับมาใหม่ก็สอดรับกับกรณีการแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ให้กลับมาทำหน้าที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อที่จะทำทุกวิถีทางช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นจากการถูกจำคุก จึงขอเตือนให้ระวังว่า ใครที่จะทำอะไรในเรื่องดังกล่าว และผิดหลักกฎหมายของบ้านเมือง ก็อาจจะติดคุกแทน เพราะทำผิดกฎหมายเสียเอง นอกจากนี้ ผมจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป” นายถาวร กล่าว \"ผบ.ทบ.\" ชี้ข้อเสนอ \"นิติราษฎร์\" ทำแตกแยก เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงข้อเสนอของนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ ที่ให้ผลพวงกฎหมายจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เสียเปล่า พร้อมทั้งให้แก้ไขม.112 ของประมวลกฎหมายอาญา ว่า เป็นแนวคิดของบรรดานักวิชาการ เพราะท่านมีเสรีในการคิด แต่เวลาจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม ต้องระวังว่า จะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นมาหรือไม่ ซึ่งวันนี้บ้านเมืองกำลังเดินทางไปสู่การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ดังนั้นเรื่องอื่นๆ ขอให้หยุดไว้ก่อนได้หรือไม่ แล้วค่อยมาหารือกัน เพราะทุกอย่างต้องเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ต้องใช้กระบวนการยุติธรรมแก้ไขปัญหา การพูดโต้ตอบไปมาไม่เกิดประโยชน์ ตนก็ไม่โต้ตอบดีกว่า เมื่อถามว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ต้องระดมความคิดหลายส่วนแทนที่จะมาจากส่วนเดียว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของประชาชน ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ 65 ล้านคน ซึ่งต่างคนก็มีความคิดต่างๆ แต่คิดว่าคนไทยทุกคนอยากให้ประเทศชาติบ้านเมืองเป็นสุข และผ่านพ้นภัยภิบัติต่างๆ ไปด้วยดี และที่สำคัญมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาติอยู่แล้วในปัจจุบัน มุ่งไปสู่จุดนั้นดีกว่า ส่วนจะเป็นฟื้นฝอยหาตะเข็บหรือไม่นั้น ก็ให้สังคมไปวิเคราะห์กันเอง ตนไม่บังอาจ เมื่อถามว่า แกนนำเสื้อแดงวิจารณ์กองทัพเข้มแข็งมากเกินไปเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย พร้อมท้าทายผบ.ทบ.ว่าไม่กลัว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ไม่เห็นมีใครต้องมากลัวผม เพราะผมเป็นทหาร และผบ.ทบ. คนที่ต้องกลัวคือผู้ใต้บังคับบัญชามากกว่า คนอื่นก็ไม่ควรกลัว ผมไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ กลัวหรือไม่กลัวก็ไม่เป็นไร ผมไม่ใช่มาเฟีย” ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net