Skip to main content
sharethis

เครือข่ายศิลปินเพื่อสิ่งแวดล้อมร่วมประกาศจุดยืน คัดค้านโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น และคัดค้านอีก 2 แห่งทั้งยมบน และยมล่าง ชี้นักการเมืองหนุนสร้างเพราะหวังผลาญป่าสักทองผืนสุดท้าย วันนี้ (1 ก.ย.54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเครือข่ายศิลปินเพื่อสิ่งแวดล้อม เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก คัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ระบุการก่อสร้างเขื่อนไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วม ดังที่นักการเมืองกระพือโหมข่าว พร้อมแจงข้อเท็จจริงต้นตอปัญหาอุทกภัย 4 ข้อ คือ 1.การทำงานที่ทับซ้อนไร้ระบบของกรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรมประมง และกระทรวงเกษตร 2.นักการเมืองท้องถิ่นเร่งพัฒนาที่ดิน นำชุ่มน้ำมาปั่นราคาขายเอากำไร 3.การสร้างถนนของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ทีเร่งรัดจัดสร้างโดยไม่พิจารณาทางเดินของน้ำ และ 4.ลมมรสุมฤดูฝนที่หนักขึ้นทุกปี เพราะการเปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกร้อน และจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในทุกพื้นที่ รายละเอียดของแถลงการณ์ดังกล่าว มีดังนี้ จดหมายเปิดผนึก คัดค้านโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น สืบเนื่องจากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เป็นระยะต้นของฤดูฝน แต่ปรากฏว่า มีปริมาณน้ำฝนตกมากกว่าปกติในภาคเหนือ จึงทำให้เกิดอุทกภัยมีผลกระทบกับพื้นที่และพี่น้องประชาชนในหลายจังวัดลุ่มน้ำ ปิง วัง ยม น่าน ซ้ำยังมีมรสุมเข้าเสริมอีกสามระลอก จึงเกิดความเดือดร้อนไปทั่ว บรรดานักการเมืองต่างส่งเสียงเรียกร้องให้ฟื้นโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นกลับมาอีก ทั้งยังไปให้ข้อมูลผิดๆ บิดเบือนว่า ถ้าสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแล้วจักเป็นการแก้ปัญหา ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้งได้เป็นยาขนานวิเศษ ว่าอย่างนั้นเถอะ แต่ข้อเท็จจริง ที่เครือข่ายศิลปินเพื่อสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามศึกษาถึงต้นตอของปัญหาอุทกภัยนั้นมีหลายองค์ประกอบเช่น ๑. การทำงานที่ทับซ้อนไร้ระบบ ของกรมชล ประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรมประมง และกระทรวงเกษตร ที่ทำให้การเก็บกัก และการปล่อยน้ำ ไร้ระบบ แบบแผน ทำให้ คนต้นน้ำ ท้ายน้ำต้องประสบภัยน้ำท่วมร้ายแรงขึ้น ในกรณีปี๒๕๓๘ ที่ท่วมยาวนาน พืชผลเสียหายหนัก เพราะระบายน้ำที่เขื่อนชัยนาทไม่ได้ จะท่วมข้าวนาปรังของคนเขื่อน ๒. นักการเมืองท้องถิ่น รวมหัวกัน เร่งพัฒนาที่ดิน ชุ่มน้ำมาปั่นราคาขายเอากำไร เพราะต้องใช้ดิน (หลอกชาวบ้านขุดบ่อปลาให้ฟรี แล้วขนดินไปถมที่ลุ่มไร้ราคา)ที่มันเป็นเจ้าของรถขุด และรถขนดิน ร่ำรวยเอามาเล่นการเมืองผูกขาดมาจนบัดนี้ โดยทำลายแหล่งเก็บกักน้ำธรรมชาติ (ต้องจัดการตรวจสอบทุกจังหวัด ยึดเงินมันคืนให้ชาวไร่ชาวนาที่เดือดร้อน) ๓.การสร้างถนน อย่างไร้สติ และมักง่าย ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ทีเร่งรัดจัดสร้างถนน โดยไม่พิจารณาทางเดินของน้ำ ดันเป็นคันสูงดังสันเขื่อนกักกันเส้นทางไหลธรรมชาติ ไม่เปิดสะพานให้น้ำเดิน จึงเกิดปัญหาหนักในหน้าน้ำทุกปี ๔.ลมมรสุมฤดูฝนที่หนักขึ้นทุกปี เพราะการเปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกร้อน และจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในทุกพื้นที่ ดังนั้น การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจึงไม่ใช่การแก้ปัญหาน้ำท่วม ดังที่นักการเมืองกระพือโหมข่าวปลุกเร้ากระแสให้สร้าง เพื่อสนองตอบความโลภบ้าของมัน เพราะมันต้องการกินป่าสักทองมูลค่ากว่าหกพันล้านบาท และต้องการรับเหมาสร้างสันเขื่อน ราคากว่าหมื่นหกพันล้าน! พวกมันจึงฝันหวาน และปลุกปั่นเจาะจ้างนักข่าวระยำบางคน เร่งเร้าให้ประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม เข้าใจว่า ถ้าสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแล้ว พวกเขาจะปลอดภัยจากน้ำท่วม เครือข่ายศิลปินเพื่อสิ่งแวดล้อม ได้ปรึกษาหารือร่วมกัน ประกาศจุดยืน คัดค้านโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น และคัดค้านอีกสองเขื่อนทั้งยมบน และยม ล่าง เพราะ มันต้องการผลาญป่าสักทองผืนสุดท้ายของโลกลูกเดียว เพราะหากสร้างเขื่อนแล้ว ป่าสักทองแม่ยม ก็หมดแล้ว พวกนักการเมืองชาติชั่วไม่กี่ตัวก็ตายห่าไปแล้ว หากน้ำยังท่วมอีก เราจักต้องไปขุดกระดูกพวกมันมาลงโทษ และยึดทรัพย์สมบัติของลูกเมียญาติพี่น้องมันทั้งหมดได้หรือไม่ ดังนั้นเครือข่ายศิลปิน เพื่อสิ่งแวดล้อม ขอประกาศเจตนารมณ์ ร่วมยืนหยัดคัดค้าน โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน ทั้งมวล ด้วยการขับเคลื่อนต่อสู้ในทุกรูปแบบ เพื่อปกป้อง สายน้ำ และป่าสักทองแม่ยม ให้คงอยู่สืบไป ด้วยจิตคารวะ-รักแม่ธรรมชาติและเคารพประชาชน เครือข่ายศิลปินเพื่อสิ่งแวดล้อม ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net