Skip to main content
sharethis

สืบเนื่องจากการประท้วงครั้งใหญ่ ในกรุงซานติเอโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 24-25 สิงหาคมที่ผ่านมา นำโดยกลุ่มฝ่ายค้าน ประกอบด้วยสหภาพแรงงาน นักศึกษาและประชาชนกว่า 600,000 คน เพื่อเรียกร้องการปฏิรูปการเมือง ทำให้รัฐบาลใช้กำลังตำรวจเข้าสลายการชุมนุม และเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ชุมนุมนั้น ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วหนึ่งราย เป็นเด็กชายวัย 16 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บในระหว่างการปะทะ จากการถูกยิงเข้าที่หน้าอก โดยมีพยานเห็นว่า กระสุนดังกล่าวมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนทางด้านรัฐบาลระบุว่า ในขณะนี้มีคนถูกจับแล้วราว 1,300 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส การประท้วงเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนำโดยสหภาพแรงงานกลางชิลี (Workers' United Center of Chile) และสมาพันธ์แห่งสหพันธ์นักศึกษาชิลี (the Confederation of Chilean Student Federations) เป็นไปเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลฝ่ายขวา เพิ่มงบประมาณทางด้านสวัสดิการสำหรับประชาชน เช่น การศึกษา การรักษาพยาบาล ประกันสังคม ให้มีการปฏิรูประบบภาษี และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ทั้งนี้ การประท้วงดังกล่าว นับเป็นการนัดหยุดงานระดับประเทศนาน 48 ชั่วโมง ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังจากที่ประเทศชิลีเป็นประชาธิปไตยในปีพ.ศ. 2533 โดยก่อนหน้านี้ ชิลีอยู่ภายใต้การปกครองของระบอบเผด็จการทหารปิโนเชต์ ระหว่างปี 2516 - 2533 ก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤษภาคม นักศึกษาชิลีกว่าแสนคน ออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูประบบการศึกษา โดยให้รัฐบาลเพิ่มเงินอุดหนุนงบประมาณ มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการ และปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาให้ดีขึ้น ทั้งในระดับมัธยมและอุดมศึกษา โดยหลายฝ่ายมองว่า นโยบายการแปรรูปการศึกษาของรัฐบาลชิลี เป็นสาเหตุของความเหลื่อมล้ำในสังคมที่มีอยู่สูง และเป็นชนวนของการประท้วงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศชิลี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net