Skip to main content
sharethis

นักโทษเรือนจำนราธิวาสกว่า 1,000 คนก่อจลาจลหลังเจ้าหน้าที่เข้าค้นยาเสพติด ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสแถลงข่าวไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หากคุมสถานการณ์ได้แล้วจะส่งแกนนำกลุ่มไปควบคุมเรือนจำสงขลา กรณีผู้ต้องขังชายในเรือนจำ จ.นราธิวาสก่อความวุ่นวายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สำนักข่าวไทย รายงานว่าเมื่อช่วงบ่าย นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมนายอุดม คุ่ยนรา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา ในฐานะประธานเรือนจำเขต 9 และ พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ร่วมแถลงข่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลานำกำลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง จำนวน 100 นาย เข้าตรวจค้นเพื่อกวาดล้างยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนนอนของผู้ต้องขัง ปรากฏว่าผู้ต้องขังเกิดไม่พอใจ ลุกฮือเข้าทำร้าย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ขอสนับสนุนชุดหน่วยรบพิเศษจากค่ายจุฬาภรณ์มาช่วยควบคุมสถานการณ์ และหากควบคุมได้แล้วจะส่งแกนนำกลุ่มไปควบคุมที่เรือนจำสงขลา เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ขอยืนยันว่าการเข้าระงับเหตุไม่มีการทำร้ายผู้ต้องขัง ด้าน พ.ต.อ.นันทเดช กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุได้ระดมกำลังตำรวจ ทหาร กว่า 300 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์รอบบริเวณเรือนจำ และกำลังอีกส่วนหนึ่งขึ้นรถกระเช้าสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของภายใน พบว่าผู้ต้องขังใช้แท่นเหล็กและไม้ทุบกำแพงเรือนนอน 1 และเรือนนอน 2 ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ชุดที่อยู่ใกล้เหตุการณ์จำเป็นต้องใช้ปืนยางยิงข่มขู่ เพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังหยุดกระทำการดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ของกลางที่ยึดได้ภายในเรือนจำที่นำร่วมแถลงต่อสื่อมวลชนประกอบด้วย ยาบ้า 346 เม็ด ยาอัลฟาโซแรม 45 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 91 เครื่อง พร้อมที่ชาร์จ และหูฟัง นาฬิกาข้อมือ 4 เรือน เหล็กแหลม กรรไกร มีดคัตเตอร์ กรรไกรขาเดียว และช้อนซ้อมที่ดัดแปลงเป็นมีดจำนวนมาก สมุดโทรศัพท์ บัญชีค้ายา บัญชีธนาคาร อุปกรณ์การเสพยาบ้าและกัญชา และอื่น ๆ สำหรับเรือนจำนราธิวาสมีผู้ต้องขังประมาณ 800 คน ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุวุ่นวายมาแล้วเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บาดเจ็บกว่า 20 นาย ////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////// เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์รายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 ส.ค.เจ้าหน้าที่เรือนจำจ.นราธิวาส สนธิกำลังเจ้าหน้าที่จาก เขต 9 กว่า 70 นาย เข้าจู่โจมตรวจค้นยาเสพติดนักโทษชาย ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส โดยกระจายกำลังกันค้นล็อกเกอร์ อาคารเรือนนอนชาย พบโทรศัพท์มือถือกว่า 100 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ในเรือนนอน และอาวุธประเภท เหล็กแหลม และยาเสพติดจำนวนมาก ทำให้นักโทษภายในเรือนจำ กว่า 1,000 คน ไม่พอใจ และตะโกนโห่ร้องขับไล่เจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังได้ปาสิ่งของใส่ จนเกิดการจลาจลกันขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ ได้รับบาดเจ็บและยังติดอยู่ภายในเรือนนอน ทำให้ นายสุพจน์ สุวรรณทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.นราธิวาส ได้ประสานขอกำลังเสริมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง กว่า 300 นาย เข้าช่วยเหลือ พร้อมทั้งขอเจรจากับนักโทษ แต่นักโทษไม่ยอมฟัง โดยได้รวมตัวกันทุบฝาผนังกำแพงเรือนนอนชายที่ 1 ได้สำเร็จเจ้าหน้าที่ จึงได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าระงับเหตุ นายสุพจน์ สุวรรณทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จ.นราธิราช กล่าวว่า ได้ประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าล้อมรอบกำแพงเรือนจำ เพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยภายในเรือนจำ ผู้ต้องขังพยายามใช้ฆ้อนทุบอาคารเรือนนอนที่ 1 จนพังเสียหาย ซึ่งอาคารเรือนนอนที่ 1 มีความสูง 1.30 เมตร พังเสียหาย จากนั้นผู้ต้องขังพยายามที่จะกรูกันออกมา เจ้าหน้าที่จึงใช้แก๊สน้ำตาสกัด ทำให้ผู้ต้องขังวิ่งหลบหนีเข้าไปซ้อนตัวในอาคาร รวมทั้งรถกระเช้าเพื่อนำเจ้าหน้าที่พร้อมปืนยิงกระสุนยางเข้าสลายการจลาจลภายในเรือนจำขณะนี้ นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีที่มีนักโทษกว่าพันคน ได้ก่อเหตุจลาจลขึ้นที่เรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส ในวันนี้นั้น ได้สั่งการกับทางเรือนจำมาตลอด และยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ของเรือนจำ และกำลังตำรวจที่ส่งไปตรวจค้นยาเสพติดตามนโยบาย สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว ทราบเพียงว่า มีความไม่พอใจเกิดขึ้นจริง และโห่ไล่เจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่รับรายงานว่า มีการทำลายข้าวของ หรือ ทุบกำแพงเรือนนอน และจับเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกันแต่อย่างใด ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป ด้าน พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จัดเตรียมกำลังเตรียมพร้อม ไว้ที่หน้าเรือนจำ ซึ่งเบื้องต้น ยังไม่เข้าปฏิบัติการใดๆ เนื่องจากจะทำหน้าที่เป็นกำลังเสริม ในกรณีที่ทางเรือนจำร้องขอ ส่วนขณะนี้ เท่าที่ได้รับรายงานนั้น สถานการณ์อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์แล้ว โดยสามารถคุมให้นักโทษอยู่ในพื้นที่จำกัดได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ ที่อาจถูกกักขัง หรือติดอยู่ภายในนั้น ยังไม่มีรายงานดังกล่าว นอกจากนี้ทางเรือนจำจังหวัดนราธิวาสไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปโดยรอบแต่อย่างใด พร้อมทั้งนำป้ายประกาศติดงดเยี่ยมตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 14 ส.ค.นี้ ที่มา: เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ และ สำนักข่าวไทย หมายเหตุ: แก้ไขเนื้อหาข่าว เมื่อ 11 ส.ค.54 21.45น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net