Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในกระแส “ยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์” ตอนนี้มีประเด็นร้อนมากมายไปหมดเมื่อการเมืองถูกเปลี่ยนขั้ว โดยเฉพาะประเด็นที่มีการถกเถียงและกำลังเป็นประเด็นร้อนไม่แพ้กันคือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศต่อสื่อมวลชลและพี่น้องกรรมกรทั้งประเทศว่า ค่าจ้างขั้นต่ำต้อง ๓๐๐ บาท และจบปริญญาตรีต้องได้ค่าจ้างไม่น้อยกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท หลายคนเริ่มเอาไปวิพากษ์วิจารณ์กันเสียยกใหญ่ว่ามันจะเป็นไปได้ไหมในความเป็นจริง และสภาพเศรษฐกิจในอนาคตจะเป็นอย่าง รวมกระทั่งนักกิจกรรมแรงงานฝ่ายขวาที่เคยต่อต้านทุนนิยมเสรีใหม่แต่รับใช้ทุนนิยมเก่า ก็ยังกระโดดออกมาทวงถามสัญญาจากพรรคเพื่อไทยได้อย่างไม่อาย ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการแต่รัฐมนตรีหลายตำแหน่งก็พอที่จะทราบได้ล่วงหน้าโดยการคาดการจากนักวิชาการและวิชาเกินทั่วไป ในช่วงขณะที่กำลังเกิดการเปลี่ยนผ่านอำนาจ ถ้าหลายคนนึกย้อนกลับไปวิเคราะห์ให้ดี หลายคนคงจะได้เห็นทั้งรอยยิ้ม(ของฆาตกร)และเสียงหัวเราะของผู้กุมอำนาจ แต่วันนี้ได้ประกาศให้เห็นชัดแล้วว่า “ประชาชนคนรากหญ้าหรือกรรมกรและชาวนาต้องสามารถกำหนดอนาคตตนเองได้” มันจะเป็นเพียงคำขวัญที่คอยปลอบประโลมนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ถูกเขียนไว้แต่เพียงในหนังสือเท่านั้น หรือมันจะเป็นจริงได้ในทางปฏิบัติหรือไม่นั้นทุกคนต้องร่วมกันตรวจสอบ และที่สำคัญขบวนการแรงงานว่าจะเดินก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงหรือไม่นั้นยังเป็นคำถามที่ยากแก่การพิสูจน์ กรรมกรทุกคนจะมานั่งรอให้ “เวลา” เป็นเครื่องพิสูจน์อีกต่อไปไม่ได้แล้ว วันนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเราชนชั้นกรรมาชีพทั้งหลายต้องลุกออกมาปกป้องสิทธิ์ ถามหาความยุติธรรมให้กับเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันกลับมาให้ได้ คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นตัวอย่างหนึ่งของกรรมกรที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่องวันนี้เขายังไม่ได้รับสิทธิ์ขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ วันนี้เขาเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดแต่เขากลับไม่มีโอกาสแม้แต่จะออกมาต่อสู้เพื่อแก้ข้อกล่าวหาด้วยตนเองได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ เราจะเรียกประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้นหลักการสำคัญที่ต้องยึดถือคือ “หลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม” มีอีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนของซากเดนจากทุนนิยมเก่า เรามักจะได้ยินคำพังเพยไทยค่อนข้างบ่อยว่า “เสร็จนาฆ่าโคถึกเสร็จศึกฆ่าขุนพล” วันนี้ คุณสาวิทย์ แก้วหวาน ผู้นำแรงงานที่ทำงานรับใช้มวลชลและเพื่อนพี่น้องกรรมกรรัฐวิสาหกิจมายาวนาน เพื่อให้ทุกคนได้กินอิ่มนอนอุ่นอยู่อย่างสุขสบายได้รับสวัสดิการที่สวยหรูกว่าลูกจ้างเอกชนมากมาย กลับถูกศาลแรงงานกลางอนุญาตให้เลิกจ้างได้ เหตุเพียงเพราะเขาหวังเพื่อที่ต้องการจะให้ประชาชนคนไทยได้มีความปลอดภัยในการใช้บริการของรัฐ ด้วยความเคารพมิได้มีเจตนาที่จะละเมิดอำนาจศาล แต่วันนี้กระบวนการยุติธรรมของเรากำลังเกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะบอกกับสังคมโลกได้อย่างไรว่าประเทศของเราใช้หลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ยึด “หลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม” ในการบริหารประเทศ ถึงเวลาหรือยังครับพี่น้องกรรมกรทั้งหลายที่เราจะต้องลุกออกมาเรียกร้องสิทธิความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติให้กับเขาเหล่านี้ อย่าปล่อยให้เขาต้องต่อสู้แต่โดยลำพัง ขณะที่เขาอยู่บนหอคอยทุกคนต่างห้อมล้อมแซ่ซ้องสรรเสริญ แต่เมื่อความทุกข์ยากมาเยือนความเป็นเพื่อนก็เลือนหาย พวกเรากรรมกรทั้งหลายจะเป็นคนเช่นนั้นหรือ หลักนิติรัฐ (Legal State) คือ หลักปกครองด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ปกครองตามอำเภอใจเป็นระบบที่สร้างขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็นหลักในการป้องกันและเยียวยาการใช้อำนาจรัฐตามอำเภอใจของฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน หลักนิติรัฐมีสาระสำคัญอยู่ 2 ประการ 1. การใช้อำนาจรัฐทุกชนิดต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของกฎหมาย 2. มุ่งที่การใช้อำนาจรัฐทุกประเภท หลักนิติธรรม (Rule of Law) คือ การปกครองที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หรือการแสวงหาความยุติธรรมซึ่งเป็นเหตุเป็นผลกันตามธรรมชาติหรือเป็นความยุติธรรมตามธรรมชาติอันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือตัวอักษรของตัวบทกฎหมายนั้นเอง หลักนิติธรรมมุ่งเน้นที่ 1. การตีความเพื่อใช้กฎหมายต้องเป็นธรรม 2. มุ่งเน้นที่ความยุติธรรมที่อยู่เหนือกฎหมายลายลักษณ์อักษร กว่าสองปีที่ผ่านมาประชาชนคนไทยเกิดความสงสัยกับการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาว่าท่านได้ทำอะไรไปบ้างในห้วงเวลากว่าสองปีที่อยู่ในอำนาจ “ถ้าท่านจับโจรยังไม่ได้ท่านก็อย่าคิดที่จะเป็นโจรเสียเอง” จากเหตุการณ์ เมษายนถึงพฤษภาคม ๒๕๕๒ มีคนถูกยิงตายกลางเมืองหลวงของประเทศ ๙๑ ศพ หาคนทำผิดมาลงโทษไม่ได้ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ ตากใบ กรือแซะ หรือเหตุการณ์วางระเบิดรายวันที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดภาคใต้ ในแต่ละปีพี่น้องร่วมชะตากรรมเดียวกันของเรากว่าพันชีวิตต้องมาตายโดยที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำผิดอะไร ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไข วันนี้มติมหาชนได้ให้โอกาสพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาแก้ไขปัญหาที่ยังไม่มีคำตอบ ทุกคนมีความหวังและอยากเห็นสิ่งที่ท่านพูดไว้เป็นความจริง ในอดีตผมเคยเข้าร่วมขับไล่นายทุนสามานย์ และเช่นเดียวกันผมก็เคยได้เข้าเป็นแนวร่วมต่อต้านเผด็จการฯ และรวมถึงต่อต้านอำนาจนอกระบบทุกรูปแบบเพราะสิ่งที่ผมอยากเห็นและอยากให้เป็นคือการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยที่รัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศต้องมาตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย คือ การเลือกตั้งโดยประชาชน และเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง วันนี้ประชาชนจำนวนมากกำลังเฝ้ามองนักการเมืองไทยว่าคุณจะเล่นบทไหนต่อไป วาทกรรมทางการ “สองมาตรฐานหรือตุลาการวิ...วัฒน์” จะยังคงอยู่ในสังคมไทยอีกต่อไปหรือไม่ เป็นสิ่งที่ท้าทาย “นายกรัฐมนตรีหญิงอย่างคุณยิ่งลักษณ์” เป็นอย่างมาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net