“สมยศ” ร่อนจดหมายจากคุกถึง คอป. เสนอแนวทางปรองดอง

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2554 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา และผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เขียนจดหมายเปิดผนึกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ถึงคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เสนอแนะแนวทางการปรองดอง โดยให้ คอป. ศึกษาปัญหาและแก้ไขปรับปรุงกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่ลิดรอนสิทธิและเสรีภาพ เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และหยุดการปิดกั้นสื่อต่างๆ เช่น วิทยุชุมชน หรือเว็บไซต์ รวมถึงให้มีการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมให้ประชาชนทั้งผู้ที่ถูกดำเนินคดี ทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดง

องค์กรแรงงานต่างประเทศร้องรัฐบาลใหม่ ปล่อยสมยศทันที

ขณะเดียวกัน การรณรงค์ของนักกิจกรรมประเทศต่างๆ ให้ปล่อยสมยศยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา องค์กรด้านแรงงานในต่างประเทศ ประกอบด้วยองค์กร Globalization Monitor ประเทศฮ่องกง, Cambodia Center for Workers Development ประเทศกัมพูชา, United Labour Federation ประเทศบังคลาเทศ และ Persatuan Sahabat Wanita Selangor (Selangor Friends Of Women Association) ประเทศมาเลเซีย ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ไปยังสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ปล่อยตัวสมยศ พฤกษาเกษมสุขในทันที นอกจากนี้ ยังชี้ด้วยว่าการขยายเวลาการคุมขังสมยศโดยไม่ให้ประกันตัว เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยอมรับไม่ได้

อนึ่ง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักกิจกรรมด้านแรงงาน และบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ออฟทักษิณและเรดพาวเวอร์ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุมเมื่อ 30 เม.ย. ในหมายจับตามข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และถูกควบคุมตัวที่เรือนจำกลางคลองเปรมจนถึงปัจจุบันโดยไม่ได้รับการประกัน ตัว

0000000000

จดหมายเปิดผนึก
จากนักโทษการเมือง ถึง คอป. เพื่อสิทธิมนุษยชนและการปรองดอง

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
33 งามวงศ์วาน ลาดยาว
จตุจักร กรุงเทพ 10900

วันที่ 10 กรกฎาคม 2554

เรื่อง ขอเสนอเพื่อสิทธิมนุษยชน และการปรองดอง

เรียน คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อแนวทางการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)

ขอแสดงความยินดีกับการทำงานครบรอบ 1 ปีของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อแนวทางการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) จนเป็นที่ยอมรับในการทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระ ตรงไปตรงมา โปร่งใส หลากหลายนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรง สร้างความปรองดองในสังคม ในฐานที่กระผม นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความขัดแย้งทางการเมือง และความรุนแรงในสังคม ต้องถูกกล่าวหา และถูกจองจำให้สูญเสียอิสรภาพ ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ อันเกิดจากการมีส่วนร่วมต่อต้านการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จึงเรียนนำเสนอแนวความคิดเพื่อการปรองดองดังต่อไปนี้

  1. นับตั้งแต่รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 สถาบันกษัตริย์ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการเมือง และเป็นเครื่องมือทางกฏหมายเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทำให้มีการดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” หรือ มาตรา 112 เพิ่มมากขึ้น มีนักการเมือง นักศึกษา นักวิชาการ สื่อมวลชนถูกดำเนินคดี และถูกจองจำ หรือต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ การนำสถาบันกษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเป็นเหตุให้มีความขัดแย้ง แตกแยกอย่างรุนแรงในสังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา มีความคลุมเครือ และถูกตีความเกินขอบเขต มีบทกำหนดโทษเกินกว่าเหตุ ทำให้มีช่องว่างใช้จำกัดสิทธิการประกันตัว ซึ่งขัดต่อหลักปฏิญญาณสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาเลือกวิธีการรับสารภาพ หรือไม่ต่อสู้คดี เพราะไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว และการพิจารณาคดีเป็นไปด้วยอคติทางการเมือง นำมาซึ่งความอยุติธรรม ดังนั้นจึงขอให้ คอป. ได้ศึกษาถึงปัญหาการใช้มาตรา 112 เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความเป็นธรรม และปกป้องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน รวมทั้งให้กระบวนการยุติธรรม ให้ความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหาด้วยการให้สิทธิประกันตัวเพื่อการต่อสู้คดี
  2. กระผมได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนในการจัดทำนิตยสาร RED POWER วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และยังได้เปิดเนี้อที่เป็นเวทีการแสดงความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการ์บ้าน เมืองจนเป็นเหตุให้รัฐบาลพยายามสั่งปิดนิตยสาร RED POWER กระทั่งใช้มาตรา 112 มาดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว นอกจากนี้รัฐบาลยังสั่งปิดวิทยุชุมชน 13 แห่ง สั่งปิดเว็บไซต์กว่า 20,000 แห่ง เป็นการคุกคามเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ปิดกั้นข่าวสารของประชาชน จึงขอให้ คอป. ศึกษาข้อเท็จจริงดังกล่าว และเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการให้ความเป็นธรรมในคดีมาตรา 112 ต่อตัวกระผม และให้รัฐบาลใหม่คืนเสรีภาพวิทยุชุมชน เว็บไซต์ เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศสิทธิมนุษยชน และการปรองดองในสังคม
  3. คนเสื้อแดงจำนวนมาเป็นประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย ต้องถูกกล่าวหาเป็นผู้วางเพลิง ลักทรัพย์ มีอาวุธสงคราม อันเกิดจากการจัดฉากของทหาร และตำรวจ เพื่อยัดเยียดข้อกล่าวหาดังกล่าว ทั้งๆ ที่เป็นความบกพร่องของรัฐบาลที่ไม่มีการป้องกันทรัพย์สินเอกชน อีกทั้งการปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงย่อมเกิดเหตุการณ์จลาจล มีผู้ฉวยโอกาสสวมรอยเข้าไปลักทรัพย์ รวมทั้งมีผู้บริสุทธิ์ซึ่งหลบหนีความตายไปหลบอยู่ภายในอาคารห้างสรรพสินค้า ดั้งนั้นรัฐบาลควรเป็นผู้ดำเนินการให้มีการประกันตัวให้ต่อสู้คดี รวมทั้งสอบสวนหาความจริงกรณีทหารและตำรวจบกพร่องต่อการทำหน้าที่ปกป้อง ทรัพย์สินในเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553
  4. คอป. ควรศึกษาบทเรียนกรณีรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 มีนักศึกษาเข้าร่วมกองกำลังอาวุธตอบโต้รัฐบาลเผด็จการ ต่อมารัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ออกกฏหมายนิรโทษกรรมทำให้เกิดการปรองดอง และหันกลับมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อนำมายกร่างกฏหมายนิรโทษกรรมเป็นการเร่งด่วน ให้กับประชาชนทั้งกลุ่มเสื้อเหลือง และกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีเพื่อนำมาสู่การปรองดองในที่สุด
  5. คอป. ควรศึกษาการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เพราะกฏหมายดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือปราบปรามประชาชน สร้างความตึงเครียด ทำให้การชุมนุมโดยสงบส่อเค้าบานปลายให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงได้ จึงควรทบทวนการใช้กฎหมายดังกล่าว เพื่อแก้ไขหรือยกเลิกต่อไป เพื่อสร้างหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน

จึงเรียนมายังคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อแนวทางการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ทุกท่านเพื่อประกอบการดำเนินงานอย่างรอบด้านเพื่อสิทธิมนุษยชน ความเป็นธรรม และปรองดองในสังคม โดยกระผมยินดีจะให้ความร่วมมือ และมีส่วนร่วมต่อการแสวงหาข้อเท็จจริง และแนวทางปรองดองต่อไป

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

(นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข)
นักโทษการเมืองคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท