Skip to main content
sharethis

เสนอพิจารณาหลักการสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศว่าด้วยผู้ลี้ภัย ก่อนออกนโยบายปิดค่ายและส่งผู้ลี้ภัยกลับ เชื่อการเร่งผลักดันไม่ยั่งยืน วันที่ 8 มิถุนายน 2554 คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ร่วมกับมูลนิธิร่วมมิตรไทย-พม่า (มรพ.) ได้จัดแถลงข่าวเรื่อง \แก้ปัญหาผู้ลี้ภัย: จากหลักการไปสู่การปฏิบัติ\" นำเสนอสถานการณ์ผู้ลี้ภัยและการดำเนินการของรัฐต่อผู้ลี้ภัยในประเทศไทย พร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยที่รัฐมีแนวโน้มจะส่งผู้ลี้ภัยทั้งหมดกลับในเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากเชื่อว่า ประชาธิปไตยและความสงบในพม่ายังไม่เกิดขึ้นจริง สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และ ผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ กล่าวว่า “การที่รัฐอ้างว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพม่ามีความปลอดภัยเพียงพอที่จะส่งผู้หนีภัยการสู้รบที่อพยพมาอยู่บริเวณชายแดนไทยในฐานะผู้ลี้ภัยกลับประเทศได้แล้วนั้น ตนมองว่าเป็นการพิจารณาเพียงด้านเดียว คือการยกเอาการจัดตั้งรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตีความว่า พม่ามีความเป็นประชาธิปไตยและจะไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนกลุ่มชนกลุ่มน้อยใดๆอีก ซึ่งในความเป็นจริงกลับยังพบว่า การต่อสู้กันระหว่างกองกำลังทหารพม่าและกองกำลังของชนกลุ่มน้อยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังไม่มีหลักฐานใดที่จะชี้ชัดได้ว่ารัฐบาลพม่าจะไม่คุกคามสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นอยู่ของกลุ่มคนเหล่านี้เมื่อเดินทางกลับไป” “ทางออกที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ จะต้องไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย และจะต้องสามารถป้องกันไม่ให้เกิดกรณีการลี้ภัยขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้น รัฐบาลไทยในฐานะประเทศภาคีของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) และอนุสัญญาว่าด้วยอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี(CAT)จะต้องนำเอาหลักการไม่ผลักดันกลับ (Non-Refoulement) จากกฎหมายระหว่างประเทศทั้งสองฉบับนี้มาพิจารณาเป็นแนวทาง เพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามหลักการกลับคืนสู่ถิ่นฐานด้วยความสมัครใจ” ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่พักพิงเพื่อลี้ภัยอย่างน้อย 140

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net