Skip to main content
sharethis

“พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด” ยอมรับต่อศาล เผยแพร่ “แผนผังล้มเจ้า” หลังมีการใส่ร้าย “ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์” ว่าโทร.มาสั่งการ ศอฉ. จึงแถลงตอบโต้พร้อมแจกแผนผังเพื่อให้สังคมพิจารณา แต่ที่แจกไปมิได้หมายความว่าผู้ที่มีชื่อในเอกสารอยู่ในขบวนการล้มล้าง สถาบันฯ แต่ให้สังคมวินิจฉัยเอาเอง ส่วนที่สื่อมวลชนเอาไปขยายผล ผู้ที่มีรายชื่อในผังจะไปฟ้องร้องก็สุดแล้วแต่จะพิจารณา


พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก. และอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอฉ.) (ที่มา: สำนักโฆษก)

     
คำแถลงต่อศาลเมื่อ 22 มี.ค. 54 ของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

เมื่อ เวลา 09.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีที่นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก อดีตโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอฉ.) โดยในวันดังกล่าวเป็นการนัดพร้อมเพื่อประนอมข้อพิพาท โดยมีนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ โจทก์ และนายประเวศ ประภานุกูล ทนายโจทก์ เดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยมี พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด จำเลยที่ 3 และทนายจำเลยที่ 3 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ส่งทนายมาศาล

โดย พ.อ.สรรเสริญ จำเลยที่ 3 แถลงต่อศาลว่า "ประการที่หนึ่ง ศอฉ. ในขณะนั้นเชื่อมั่นว่ามีขบวนการที่จ้องจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์จริง

ประการ ที่สอง ในช่วงเวลานั้น มีข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินเตอร์เน็ตกล่าวหาในลักษณะทำนองว่า ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ซึ่งเป็นราชเลขาธิการในพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โทรศัพท์มาสั่งการ ศอฉ. อยู่ตลอดเวลา ให้ดำเนินการนานัปการ กับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งข้อเท็จจริงมิได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งหมายความว่ามีความพยายามยามจะสร้างภาพให้สังคมเห็นว่า พระองค์ท่านมีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องการเมือง ซึ่งมิได้เป็นความจริง ศอฉ. ก็มีความจำเป็นที่ต้องชี้แจงข้อมูลข่าวสารให้สังคมได้รับทราบความจริงเป็น เช่นไร นอกจากนั้นแล้ว ศอฉ. ก็ได้ขยายความลงไปเพราะว่าทางราชการมีหน่วยงานทางด้านความมั่นคง ที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดตั้งขึ้น โดยมีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงก็มีการรวบรวมข้อมูลข่าวสารของขบวนการที่จ้องจะ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด จึงได้นำข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้มาประกอบเพื่อใช้ในการชี้แจงทำความเข้าใจกับ สังคม

ประการที่สาม ในช่วงเวลาเช้าของวันเกิดเหตุ ข้าฯ ได้มีการแถลงข่าวให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าไม่เป็นความจริง ตามข้อมูลที่พยายามกล่าวหาใส่ร้ายท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ โดยแถลงกำกับตอบไปด้วยว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้านั้น ในขณะนั้นมีคุณดาตอร์ปิโด กับคุณจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งทั้งสองคนนี้มีหมายจับไว้แล้ว ในช่วงเวลาเย็นเกิดจากการประชุมในช่วงบ่ายของ ศอฉ.ได้มติของ ศอฉ. ที่ต้องการจะให้นำเสนอข้อมูลข่าวสารแก่สังคมเป็นลายลักษณ์อักษรอีกทางหนึ่ง เพื่อให้สังคมพิจารณา

ข้าฯ ได้รับมอบหมายให้นำเอกสารเหล่านั้นไปแจกแก่สื่อมวลชน ซึ่งเอกสารที่ไปแจกนั้นมิได้หมายความว่าผู้ที่มีชื่อในเอกสารเป็นผู้เกี่ยว ข้องในฐานะอยู่ในขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในลักษณะต่างๆ ซึ่งให้สังคมพิจารณาและวินิจฉัยเอาเอง ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในเอกสาร ว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร เช่น เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะญาติพี่น้อง เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะผู้ทำธุรกิจร่วมกันอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมิได้แถลงเลยว่า บุคคลทั้งปวงเหล่านั้นมีความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้อยู่ในขบวนการ และมิได้ให้หมายความเช่นนั้น

แต่หลังจากนั้นมีสื่อมวลชนนำเรื่องราว ต่างๆเหล่านี้ไปขยายผล ขยายความ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในแผนผังดังกล่าว ทำให้ได้รับความเสียหายจากมุมมองของสังคม เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจะต้องตัดสิน ส่วนผู้ที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจะฟ้องร้องกับผู้ที่นำไปขยายความใน ทางที่ผิดจากเจตนารมณ์ของ ศอฉ. ก็สุดแล้วแต่บุคคลเหล่านั้นจะพิจารณา" พ.อ.สรรเสริญแถลง

ทั้งนี้ศาลได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อ พิพาท เมื่อโจทก์คือนายสุธาชัย รับฟังข้อเท็จจริงจากจำเลยที่สาม จึงไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีต่อจำเลยทั้งสามอีกต่อไป จึงขอถอนฟ้องจำเลยที่สาม

ด้าน นายประเวศ ประภานุกูล ทนายความ ดร.สุธาชัย ในคดีนี้ให้สัมภาษณ์ “ไทยอีนิวส์” ว่า คดีนี้นายสุธาชัยได้ถอนฟ้องตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา แต่เหตุที่เพิ่งมาแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ก็เพราะเพิ่งได้สำเนารายงานกระบวนพิจารณาฉบับจริง ซึ่งมีการรับรองสำเนาถูกต้องโดยศาลอาญา ซึ่งในที่ประชุมแถลงข่าวก็มีสื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์จำนวนมากมาทำข่าว “ส่วนที่ว่าทำไมสื่อไม่นำเสนอข่าวนี้เลย ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน อาจเป็นเพราะ ดร.สุธาชัย ตอกกลับ ศอฉ. แรง และตอนนั้นสื่อก็นำไปขยายผลอย่างคึกโครมหรือเปล่าก็ไม่ทราบ"


แผน ผังที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด แจกต่อผู้สื่อข่าวเมื่อ 26 เม.ย. 53 โดยล่าสุดได้ยอมรับต่อศาลแล้วเอกสารที่ไปแจกนั้นมิได้หมายความว่าผู้ที่มี ชื่อในเอกสารเป็นผู้เกี่ยวข้องในฐานะอยู่ในขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหา กษัตริย์

อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ปีที่แล้ว ในการแถลงข่าวของ ศอฉ. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงว่า แกนนำคนเสื้อแดงพยายามจะยกระดับการชุมนุม ซึ่งโดยปกติผิดกฎหมายอยู่แล้วไปสู่การก่อการร้าย อย่างที่เห็นเป็นการซ่องสุมอาวุธกันเป็นจำนวนมาก แล้วก็พยายามที่จะผูกโยงเรื่องราวต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จมุ่งโจมตีสถาบันเบื้องสูง อันเป็นที่รักเคารพของคนไทยทุกคน

โดยมีการดำเนินการกันแบบเป็นระบบ ผ่านทางกลุ่มบุคคลทั้งที่เป็นแกนนำหลัก แกนนำรอง ซึ่งผู้ที่คุ้นชื่อมีคดีติดตัว บางคนก็อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะมีคดีหรือไม่ ก็หนีไปก่อน เช่น ดา ตอร์ปิโด สุชาติ นาคบางไทร จักรภพ เพ็ญแข ชูพงษ์ ถี่ถ้วน ที่เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีพฤติกรรมอย่างไร ไม่ว่าจะผ่านทางสื่ออินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ นปช.ยูเอสเอ องค์กรเสื้อแดงระหว่างประเทศ หรือ Red Shirt International Organization สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ความจริงวันนี้ Thai Red News, Voice of Thaksin รวมถึงวิทยุชุมชนต่างๆ คนรักแท็กซี่ของนายชินวัฒน์ หาบุญพาด เหล่านี้คือสื่อสีแดงที่ให้ข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่หมิ่นเหม่ และจาบจ้วงต่อสถาบันเบื้องสูงอันเป็นที่รักเคารพของคนไทยอยู่ตลอดเวลา

นอก จากนี้มีการแจกแผนผังโดย พ.อ.สรรเสริญ ซึ่งนอกจากมีการเขียนรายชื่อนักการเมือง แกนนำคนเสื้อแดง เชื่อมโยงกับ นปช. ว่าจาบจ้วงสถาบันฯ แล้ว ยังมีการกล่าวหาว่านายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ถือเป็นผู้นำทางความคิดของขบวนการ นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ซึ่งแกนนำนปช. เป็นบุคลากรหลักของโรงเรียน มีความพยายามที่จะสร้างวาทกรรม มีชุดความคิดอำมาตย์ ไพร่ เนื้อหาในเชิงของการบิดเบือน ปลุกปั่น กระทบต่อความมั่นคงของรัฐอยู่ตลอดเวลา

ต่อมา เมื่อวันที่ 28 เม.ย. เมื่อปีที่แล้ว นายสุธาชัย ได้แถลงจะดำเนินคดีต่อ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิดกับพวก หลังจากที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด แถลงข่าวว่ามีเครือข่ายที่มีการส่อถึงการล้มสถาบันเบื้องสูง ซึ่งมีชื่อของนายสุธาชัยอยู่ด้วย

“อนุสนธิจากการที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกของ ศอฉ.ได้แถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2553 โดยกล่าวถึงเครือข่ายที่มีการส่อถึงการล้มสถาบันเบื้องสูง ปรากฏว่าในแผนผังของเครือข่ายกลุ่มบุคคลที่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวถึง ได้ปรากฏชื่อของข้าพเจ้า สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อยู่ในเครือข่ายนั้นด้วย และทำให้พี่น้อง เพื่อนฝูง โทรมาถามข่าวว่า เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร จากนั้น ต่อมา ในวันที่ 27 เมษายน รายการต่างๆ ทางวิทยุ และโทรทัศน์ก็นำเอาข่าวและแผนผังนี้มาเผย และมีรายการบางรายการ ได้โจมตีกลุ่มบุคคลที่ปรากฏชื่อในแผนผังอย่างรุนแรง เป็นการจงใจบิดเบือนให้ร้าย โดยไม่ไต่ถามที่มา หรือข้อเท็จจริงแต่อย่างใด และคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ยังออกมาแถลงต่อด้วยซ้ำ ว่าจะออกหมายจับตามรายการนี้อีกด้วย

ในกรณีเช่นนี้ ข้าพเจ้าในฐานะครูสอนประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ที่คงจะไม่มีมหิทธานุภาพที่จะไปต่อกรอำนาจกับ ศอฉ.ได้ แต่ข้าพเจ้าก็มีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องสิทธิของตนเอง ก่อนที่จะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องสกปรกทางการเมืองที่มากกว่านี้” คำแถลงของนายสุธาชัย ระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net