Skip to main content
sharethis

ชาวบ้านแม่เมาะ บุกยื่นหนังสือต่อประธานศาลปกครองสูงสุด วอนช่วยเร่งรัดคดีอุทธรณ์ของโรงไฟฟ้า กฟผ.แม่เมาะ วันนี้ (12 พ.ค.54) ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ. ลำปาง ประมาณ 15 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดการพิจารณาคดีที่ชาวบ้าน อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพจากการแพร่กระจายของมลพิษจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมีนายเสริมพงษ์ รัตนะ เจ้าหน้าที่ศาลปกครองชำนาญการพิเศษ ผอ. ศูนย์บริหารจัดการคดีปกครอง สำนักประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นตัวแทนรับเรื่องร้องเรียนพร้อมนำเสนอต่อประธานศาลปกครองสูงสุดทันที นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คณะทำงานจากสภาทนายความได้รับมอบจากกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแพร่กระจายของก๊าซพิษจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ. ลำปาง ให้ฟ้องคดีมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2546 โดยยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ จากกรณีที่กฟผ.ได้ปล่อยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกมาจากกระบวนการผลิตไฟฟ้า และจากการสันดาปกันของถ่านหินลิกไนต์ในเหมืองและกระบวนการเก็บ การขนส่งและขนถ่ายในพื้นที่จนเป็นเหตุให้ชาวบ้าน สัตว์เลี้ยงและพืชพรรณในพื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จนในที่สุดศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2552 สั่งให้กฟผ.จ่ายค่าชดเชยและเยียวยาให้กับชาวบ้านผู้ฟ้องคดีทั้งหมด ซึ่ง กฟผ.ก็น้อมรับคำตัดสินดังกล่าวและเจรจากับชาวบ้านว่าจะไม่อุทธรณ์คดีเพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบสิ้นโดยเร็ว แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 52 ทางบอร์ด กฟผ. กลับมีมติที่จะยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งปัจจุบันคดีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า แม้การต่อสู้คดีจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายมาตั้งปีพ.ศ.2546 จน มาถึงปัจจุบันกว่า 9 ปีแล้ว แต่ตามข้อเท็จจริงปรากฏพบว่า ยังมีชาวบ้านหลายรายเจ็บป่วยจากสาเหตุของการแพร่กระจายมลพิษจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพบว่ามีชาวบ้านที่เป็นผู้ร่วมฟ้องคดีได้เสียชีวิตไปหลายรายก่อนที่จะได้รับการเยียวยา ในระหว่างรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่ง กฟผ.ที่เป็นผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้มาเอื้ออาทรหรือช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใด เพราะต้องรอคำพิพากษาของศษลปกครองสูงสุดอยู่ ดังนั้นชาวบ้านผู้ฟ้องคดีทั้งหลายจึงทนสภาพรอคอยไม่ไหวแล้ว จึงได้เดินทางมาขอความเมตตาจากประธานศาลปกครองสูงสุด ให้พิจารณาเร่งรัดให้ตุลาการเจ้าของสำนวนหรือองค์คณะที่รับผิดชอบในคดีดังกล่าวมีคำพิพากษาออกมาโดยเร็ว เพื่อที่จะได้ใช้เป็นเหตุให้ กฟผ. เร่งรัดดำเนินการจ่ายเงินค่าชดเชยเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ตามแนวคำพิพากษาของศาลปกครองต่อไป ซึ่งในรัฐธรรมนูญมาตรา 40 ได้บัญญัติให้การคุ้มครองไว้ว่าคดีของชาวบ้านจะได้รับการพิจารณาอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม เพราะความล่าช้าถือว่า “ไม่เป็นเป็นธรรม” ด้วย นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net