กัมพูชาร้องนานาชาติช่วยกู้ระเบิดดาวกระจาย ไก่อูโต้ระเบิดคนละชนิด

สื่อกัมพูชารายงานต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเร่งด่วน เรียกร้องนานาชาติช่วยกู้ระเบิด ด้านโฆษกกองทัพบกไทยออกโรงโต้ ระเบิดที่ใช้แตกตัวทันทีไม่กลายเป็นทุ่นระเบิดเหมือนระเบิดดาวกระจาย ขณะที่ทีมสำรวจระบุพบระเบิดที่ไม่แตกตัวพร้อมถ่ายภาพเป็นหลักฐาน พนมเปญโพสต์รายงานเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมาโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของ เฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านกับระเบิดกัมพูชา ว่ามีพื้นที่ 12 พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ไทยใช้ระเบิดดาวกระจาย โดยรับว่ายังไม่แน่ใจว่าจะใช้เวลานานเท่าใดในการเก็บกู้ระเบิด อย่างไรก็ตาม ศูนย์ต่อต้านกับระเบิดกัมพูชาจะลงสำรวจพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 20 เม.ย. นี้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิด 50 คน “มีความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในระดับรุนแรงเมื่อมีการใช้ระเบิดเหล่านี้ เราต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน” เฮง รัตนากล่าว พร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ระเบิดดาวกระจายว่าใช้ที่ไหน เมื่อไหร่บ้าง ทั้งเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศกดดันประเทศไทยและให้ความช่วยเหลือประเทศกัมพูชาในการเคลียร์พื้นที่เสี่ยงด้วย การกล่าวอ้างว่าฝ่ายไทยใช้ระเบิดดาวกระจายเกิดขึ้นหลังการปะทะกันระหว่างกองกำลังฝ่ายไทยและกัมพูชา ในระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยหลังจากนั้นศูนย์ต่อต้านกับระเบิดกัมพูชาได้ลงสำรวจพื้นที่ปะทะในวันที่ 10 ก.พ. และพบว่าฝ่ายไทยได้ยิงระเบิดดาวกระจายเข้ามายังพื้นที่จังหวัดพระวิหารของกัมพูชา เว็บไซต์ขององค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจาย (CMC)ระบุว่า สมาชิกองค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนกัมพูชาเมือวันที่ 12 ก.พ. ได้พบลูกระเบิดที่ยังไม่มีการระเบิดและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน โดยตรวจพบระเบิดดังกล่าว 2 จุด ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของทหารและตำรวจกัมพูชาในหมู่บ้านเสวย์ชรัม และบริเวณเขาพระวิหาร ในหมู่บ้านเสวย์ชรัม สมาชิกของ CMC สำรวจพบระเบิดลูกปรายของระเบิดดาวกระจายและเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดดาวกระจายจำนวนมาก พร้อมทั้งสิ่งก่อสร้างและยานพาหนะที่มีร่องรอยความเสียหายเนื่องมาจากถูกแรงระเบิด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย และอีก 7 รายได้รับบาดเจ็บ จากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นระเบิดดาวกระจายชนิด M46 อย่างไรก็ตาม จากการลงสำรวจพื้นที่ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 เม.ย. CMC คาดว่ามีการใช้ระเบิดดาวกระจายชนิด M42, M46 และ/หรือ M85 ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจของกัมพูชาซึ่งได้รับบาดเจ็บจากระเบิด Photo by © Stéphane de Greef, Landmine and Cluster Munition Monitor การลงพื้นที่สำรวจของ CMC Photo by © Stéphane de Greef, Landmine and Cluster Munition Monitor ระเบิดที่ค้นพบในการลงพื้นที่สำรวจ Photos by © Stéphane de Greef, Landmine and Cluster Munition Monitor สรรเสริญโต้ ไม่ใช่ระเบิดดาวกระจาย เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30น. วันที่ 7 เม.ย. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงกรณีองค์กรระหว่างประเทศ เสนอข่าวทหารไทยใช้กระสุนระเบิดชนิด Cluster Bomb (คลัสเตอร์บอมบ์) ซึ่งนานาประเทศสั่งห้ามใช้ ยิงใส่กัมพูชา ในช่วงที่เกิดการปะทะกันบริเวณชายแดนภูมะเขือ รวมไปถึงบริเวณพื้นที่ทับซ้อน อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้มีทหารและประชาชนกัมพูชาเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โฆษก ทบ.กล่าวว่า ขอยืนยันว่าทหารไทยไม่ได้ใช้ระเบิดชนิดดังกล่าว ทางกองทัพได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ว่าข้อมูลมีการคาดเคลื่อน กระสุนที่ใช้ยิงเป็นกระสุนระเบิดแบบที่เรียกกันว่า ทวิ-ประสงค์ หรือคาโก้ ซึ่งลักษณะของกระสุนแบบนี้เมื่อยิงไปแล้วก็แตกออกเป็นลูกระเบิดย่อย แต่ลูกระเบิดย่อยๆ นี้ พอกระแทกเป้าหมายมันจะแยกตัวทันที ไม่ได้แตกออกมาเป็นทุ่นระเบิดที่รอให้ประชาชนหรือสัตว์เลี้ยงเดินมาเหยียบ หรือที่เรียกว่า \คลัสเตอร์บอมบ์\" เป็นไปตามสนธิสัญญาออตตาวา \"ส่วนตัวเชื่อว่าอาจเป็นการสื่อความหมายที่คาดเคลื่อน หรือผู้พูดสื่อความหมายหรือเข้าใจผิด คำว่า คลัสเตอร์บอมบ์ หมายถึงอะไร แต่เราหมายถึงอย่างนี้ และกองทัพยอมรับว่ามีความจำเป็นที่ต้องใช้กระสุนทวิ-ประสงค์ เพราะกัมพูชาพื้นที่ที่ยิงไม่ใช่พื้นที่ทหารอย่างเดียวแต่เป็นบ้านพลเรือนด้วย และทหารกัมพูชาใช้ระบบยิงแล้วเคลื่อนที่ไปจุดอื่น ถ้าใช้กระสุนยิงแค่จุดเดียว ไม่มีทางยิงโดน เราจึงต้องใช้กระสุนระเบิดแบบทวิ-ประสงค์\" โฆษก ทบ.กล่าว ด้านนายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณีเดียวกันนี้ว่า เข้าใจว่าเป็นการรายงานข่าวขององค์กรต่างประเทศ ที่ใช้การอ้างคำพูดของทูตไทยที่ประจำกรุงเจนีวา เข้าใจว่าเป็นการเอาคำพูดนอกบริบทของทูตไทยประจำเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ มาพูด ทั้งนี้ ทางกองทัพได้ประสานและชี้แจงมาที่กระทรวงต่างประเทศ เพื่อชี้แจงกับนานาชาติ แล้ว แต่ไม่ต้องถึงขั้นทำหนังสือชี้แจง ยืนยันว่าไทยไม่ได้ใช้กระสุนระเบิดชนิดคลัสเตอร์บอมบ์ ที่นานาชาติห้ามใช้ดังกล่าว แต่เป็นกระสุนระเบิดชนิดทวิ-ประสงค์ ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.landmines.org ระบุว่า ระเบิดดาวกระจายนั้นได้คร่าชีวิตและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก โดยเหยื่อกว่า 85 เปอร์เซ็นต์เป็นพลเรือน และในจำนวนนั้น 23 เปอร์เซ็นต์คือเด็ก ระเบิดดาวกระจายลูกหนึ่งอาจบรรจุระเบิดลูกปรายหรือระเบิดลูกเล็กๆ ราว 100 ลูกซึ่งอาจมีขนาดเท่าก้อนแบตเตอรี่เล็กหรือขนาดลูกเทนนิส โดยระเบิดลูกหนึ่งนั้นมีรัศมีทำลายล้างกว้างขนาด2-4 สนามฟุตบอล ระเบิดลูกเล็กๆ หรือลูกปรายที่บรรจุอยู่ในระเบิดดาวกระจายซึ่งถูกยิงออกมานั้นมีโอกาสที่จะไม่ทำงานทันทีถึงราว 30 เปอร์เซ็นต์และมันจะกลายเป็น 'กับระเบิดโดยสภาพ' ในที่สุด ปัจจุบันมีการผลิตระเบิดชนิดนี้ในรูปแบบที่หลากหลายถึง 210 ประเภท และยังมีการใช้งานโดยเฉพาะตามเส้นเขตแดนอยู่ราว 30 ประเทศ สหรัฐอเมริกาเคยทิ้งระเบิดชนิดนี้ในกัมพูชาราว 19 ล้านลูก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท