ตรึกคิดจัดงาน 100 ปีสตรีสากล จากวันนั้นถึงวันนี้

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

3-8-11 วันสตรีสากลที่ 100 ก็ผ่านไปด้วยการเดินขบวนตามประเพณี ส่วนระบบ 3/8 ก็ต้องต่อสู้กันต่อไป เพียงแต่ไม่จำกัดที่แรงงานในโรงงาน คำถามคือมนุษย์เราโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง ทำงานเพื่ออะไร?

ในยุคไฮเทค คนมีโอกาสหลายคนกลายเป็น workaholic จนลืมดูแลสุขภาวะทั้งทางกาย จิตใจ จิตวิญญาณของตัวเองหรือไม่มีเวลากับครอบครัว ดูแลความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ และธรรมชาติ ในภาวะเช่นนี้ คนมีโอกาสก็ถูกคุกคามไม่น้อยไปกว่าคนด้อยโอกาสต่างกันเพียงที่คนด้อยโอกาส ทำเท่าไร ก็ไม่พอกิน หากยังติดในวัตถุ/บริโภคนิยมในด้านหนึ่ง ความไม่รู้จักพอเป็นเชื้อของความรุนแรงและการเบียดเบียนจากในสู่นอก

อีกด้านหนึ่ง คือความไม่เป็นธรรมในสังคมคนรวย แม้มีเงินซื้อที่ดินมากมายเป็นกรรมสิทธิ์ แต่ก็ได้ถอนรากตัวเองไม่สามารถเป็นชาวนา "ติดดิน" ส่วนชาวไร่ชาวนาที่ "ติดดิน"ก็มักจะด้อยโอกาสเมื่อเทียบกับชาวเมือง…ในที่สุดก็กำลังถูกถอนราก เช่นกัน เมืองที่เจริญรุ่งเรือง กำลังจู่โจมคุกคามชนบท "ที่ล้าหลัง" มากยิ่งขึ้น ในภาวะวิกฤตโลกร้อน มาตรการแก้ไข เช่นคาร์บอนเครดิต กลับถูกบิดเบือน "แปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน"

กลายเป็นเครื่องมือ(ผู้บริหารบรรษัทข้ามชาติและผู้บริหารใน ภาครัฐร่วมกันใช้กลไกอำนาจรัฐ)ลงโทษหรือสร้างความชอบธรรม ในการเบียดขับชาวบ้าน–หญิง ชาย เด็ก คนชราพิการ…ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่า กลุ่มชาติพันธุ์–ที่เคยอยู่อาศัยเคียงคู่ร่วมกับป่า … เพียงเพราะพวกเขาไม่เคยลงทะเบียน เพราะ "รัฐ"เข้าไม่ถึงพวกเขาในอดีต

ในนามของ "ความมั่นคงของมนุษย์" "ความมั่นคงของอาหาร" และ "ความมั่นคง…ทุกๆ อย่าง"ได้กลายเป็นวาทกรรมที่สร้างความชอบธรรมเพื่อลิดรอนสิทธิของคนตัวเล็ก ตัวน้อย ที่ได้ถูกรับรองด้วยวาทกรรมของ "สิทธิมนุษยชน" "สิทธิชุมชน" หรือ "อธิปไตยทางอาหาร" ฯลฯ ทั้งสองวาทกรรมรับรองโดยสหประชาชาติ

สังคมเมืองติดหล่มไฮเทค ที่หิวพลัง "มักง่าย"เพื่อให้เกิดไฟฟ้าขับเคลื่อนตั้งแต่เครื่องจักร … จนถึงแอร์และหม้อหุงข้าว วัดถูกแทนที่ด้วยมหกรรมช้อปปิ้ง–สวรรค์นักบริโภค— ที่ไม่มีวันสิ้นสุดเพราะผลิตโดยเครื่องจักรที่ไร้มนุษยธรรม ไร้จิตวิญญาณ แต่ประสิทธิภาพสูง ด้วยเหตุนี้ เม็ดเงินจึงกลายเป็นเทพเจ้าสูงสุดและความหลงงมงายจึงไม่เจือจางไปจากสังคม ไทย แรงงานของคนทำงานส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นเพียงเชื้อเพลิงให้เครื่องจักรเดินต่อ ไปได้ ตลอดเวลาชาวเมืองจึงมีความสะดวกสบายในการบริโภค มีแต่สินค้าสำเร็จรูปอาหารจานด่วน ฯลฯ ที่สร้างขยะมหาศาล … และความหิวโหยทางจิตวิญญาณ

100 ปี สตรีสากล สังคมกำลังมุ่งหน้าไปทิศไหน?
เสียงเพลงและดนตรี "หญิงกล้า"ที่ดังกระหึ่มต้อนรับนายกฯเมื่อออกจากลิฟต์ (6 มี.ค.) ยังกระหึ่มในหู แต่พวกเราเหล่าผู้หญิงยังเชื่อคำร้องในบทเพลงนั้นไหม? หรืองานฉลองทั้งหมด เป็นเพียงฉากหนึ่งสำหรับการถ่ายภาพที่ระลึก?

มันเป็นพิธีกรรมสัญลักษณ์ประจำปีที่พิเศษกว่าปีอื่นหรือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ศตวรรษหน้าด้วยความหวัง

100 ปีที่แล้ว บรรดาย่า ยายทวดที่เป็นแรงงานหญิงต่อสู้เพราะถูกกดขี่จนตรอก เป็นหรือตายมีค่าเท่ากันจึงฮึดสู้ หวังว่าชีวิตแรงงานคงจะดีขึ้นในศตวรรษหน้า วันนี้เราร่วมรำลึกและฉลองพงศาวดารนั้น เรามองเห็นอะไรใน 10 ปีข้างหน้า?

สำหรับดิฉัน ในภาพแรก เห็นแต่ความมืดมนเราทุกคนคลานออกมาจากครรภ์มารดา เมื่อตายแล้ว ก็คืนกลับสู่อ้อมกอดของพระแม่ธรณีแต่ที่ๆ เรามากับที่ๆ เราจะไป มันช่างดูไร้ศักดิ์ศรีเสียเหลือเกิน ครรภ์มารดา เป็นอู่ชีวิตที่หล่อเลี้ยงพวกเราแต่ละคนตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนอุปกรณ์ที่ ธรรมชาติมอบหมายให้เป็นสมบัติของสตรีเพศและพึงเป็นสิทธิ์ที่สตรีเพศจะบริหาร รักษา และใช้อุปกรณ์นี้ ทุกวันนี้ กลับถูกคุกคาม ย่ำยีอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่การข่มขืน ค้ามนุษย์เพื่อการประเวณีจนถึงการอุ้มบุญมันไม่ใช่เป็นการประทุษร้ายแค่ ปัจเจก แต่เป็นการลบหลู่แหล่งฟูมฟักมนุษยชาติ … จากตัวเรา จนถึงอนุชนต่อๆไป … และเมื่อเรากลับชาติมาเกิดเป็นคนในวัฏสงสารนี้อีก พระแม่ธรณี ในยุคของเรา เต็มไปด้วยขยะ สารเคมี ของเสียจากโรงงานและครัวเรือนเมือง … รวมทั้งจากบ้านและที่ทำงานของเราเองเราบริโภคเกินอัตภาพของเราหรือเปล่า? ในขณะเดียวกัน ป่าไม้ก็หดหายกลายเป็นหย่อมเรือนที่เหมือนเตาอบติดแอร์ผิวพื้นโลกปุปะด้วยรู เหมืองร้าง ขยะไม่เพียงเป็นมลพิษเจือปนไปในดิน น้ำ อากาศ แต่รวมถึงเสียงดัง และภาพโฆษณาอุดจาดในที่สาธารณะเมือง … นี่หรือคือความเจริญที่บรรดาย่ายาย ทวด ที่ต่อสู้เมื่อ 100 ปีก่อนอยากเห็น?

เมื่อเราทำลายและทำร้ายครรภ์มารดาทั้งสองแห่งนี้ได้ ทำไมเราจะฆ่ากันเองไม่ได้? หากเทียบอัตราการตายในสงครามโลกทั้งสองครั้งกับสงครามการค้าเสรี…ความ เจริญ…ที่กำลังเกิดขึ้น ตัวเลขคงน่าตกใจ

ถึงกระนั้น การฉลอง 100 ปี วันสตรีสากลโดยมีกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรีเป็นแกนนำครั้งนี้ก็ได้ฉายอีกภาพให้เห็น
ซึ่งอาจเป็นก้าวใหม่ที่มีความหวัง

1. การโอบผู้หญิงทำงานทุกภาคส่วน ให้เข้ามาร่วมฉลองโดยเปิดพื้นที่ให้ด้วยการเชิญเป็นวิทยากรขึ้นเวทีร่วมกัน ข้ามชนชั้น ข้ามสาขาอาชีพข้ามเพศและข้ามพรมแดน รวมทั้งมีผู้ชายร่วมในทุกระดับแต่ผู้หญิงร่วมกันตัดสินใจขั้นสุดท้าย เพราะเป็นงานฉลองของผู้หญิง

2. การจัดการกับวิกฤตและความขัดแย้ง ด้วยการใช้วิธีเจรจาต่อรอง เช่นกรณีคุณจิตรา

3. การปฏิสัมพันธ์แบบ "ร่วมคิดร่วมทำ" แม้จะดูเหมือนอ่อนแอในด้านการจัดการ การสื่อสารขาดการติดตามหรือบริการอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนแต่ก็มีการยื่นมือเข้าจัดการ ค้ำจุนตามกำลัง ในทุกๆ ช่องโหว่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่การแถลงข่าว เตรียมงาน จัดสถานที่จนถึงการสิ้นสุดรอบแรกด้วยการเดินขบวนในวันที่ 8 มีนาคมงานจึงลื่นไหลไปได้ด้วยดี เพราะมีคนไม่นิ่งดูดายและยังเชื่อในเพลง "หญิงกล้า"

หัวใจของงานฉลอง 100 ปีนี้ ที่เข้มข้นในวันที่ 6-7-8 มีนาคมเป็นเสมือนการมาบรรจบของแม่น้ำสามสาย อันมีสายแรงงานเป็นหลักเป็นวาระที่พบปะกับสายวรรณกรรม-ศิลปะและสาย การเมือง-การปกครองเป็นภาพของการผสมผสานของสายน้ำเป็นเกลียวที่มีพลังกระแทก เป็นคลื่นอย่างสนุกสนานรวมทั้งเกิดระลอกคลื่นกระทบฝั่ง…แสดงพลังและศักยภาพ ของหญิงไทย…ก่อนที่จะแยกกันไหลต่อไป

การปฏิสัมพันธ์ของกระบวนผู้หญิงเช่นนี้เป็นเหมือนน้ำในมหาสมุทรที่มี พลวัตตลอดเวลา ของเสียที่แข็งทื่อในที่สุดก็จะถูกตีแยกให้ขึ้นฝั่งหรือติดกับกิ่งกอให้เน่า ผุกลายเป็นดินต่อไป

ตราบเท่าที่ขบวนผู้หญิงยังคิดและเคลื่อน ไม่ใช่น้ำเน่าที่ขังเฉยแฉะพื้นที่เปิดนี้ ก็จะสามารถแยกแยะ ให้ของแข็งกลายเป็นดิน โคลนตมบัวที่เกิดจากโคลนตม คือ ปัญญาที่เกิดจากความกล้าหาญที่จะโอบ และเผชิญหน้ากับ "ความไม่มั่นคง" / ความเปราะบาง อย่างมีสติและไม่ใช้ความรุนแรง นี่เป็นภาพบวกหรือพลังบวกของผู้หญิงที่ดิฉันเห็นในการร่วมจัดงานฉลอง 100 ปีครั้งนี้ แสดงออกผ่านตัวพี่ๆน้องๆ ที่ร่วมมือร่วมใจ ให้อภัย ให้กำลังใจ ยืดหยุ่น เสียสละ ตามกาล ตามวาระ เพื่อส่วนรวม … หนทางเส้นนี้ ยังไม่สิ้นสุดมันเป็นเพียงก้าวแรกสู่การ "ต่อสู้" ร่วมกันในประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ต่อสู้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

ตราบเท่าที่ พี่ๆ น้องๆ หญิงทำงานทั้งหลาย ไม่หยุดที่จะเรียนรู้กลั่นกรอง นิยาม ตั้งคำถาม แสวงหาคำตอบ จากในสู่นอก และทบทวนความสัมพันธ์ที่มีชีวิตจากนอกสู่ในทุกลมหายใจ 10 ปีข้างหน้าก็ยังมีความหวัง เราเลือกได้ว่าจะเป็นน้ำเน่านิ่ง หรือน้ำหลากที่มีชีวิตและหล่อเลี้ยงชีวิต

สตรี สร้างสรรค์ สันติ

 


หมายเหตุ:
-เผยแพร่ครั้งแรกที่เว็บไซต์ VoiceLabour.org
-บทความนี้ เป็นฉบับปรับปรุงโดยเว็บไซต์ Voice Labour ได้มีการตัดข้อความบางส่วนออก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท