Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

สืบเนื่องจากการปะทะกันของทหารไทยและทหารกัมพูชาบริเวณพื้นที่พิพาทชาย แดนที่เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้วทั้งผู้นำไทยและผู้นำกัมพูชา ก็ต่างสาดโคลนใส่กันโดยการกล่าวหาอีกฝ่ายว่า เป็นฝ่ายรุกล้ำหรือเริ่มยิงก่อน ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหกเป็นแน่แท้ การปะทะดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาที่คนไทยจะมารวมใจเป็นหนึ่งและสนับสนุนผู้นำทางการเมืองโดยไม่ ตั้งคำถาม หากนี่เป็นเวลาที่ประชาชนของทั้งสองประเทศควรจะตั้งสติให้มั่น และตั้งคำถามกับคำพูดและการกระทำของผู้นำของตนรวมถึงตรวจสอบเรื่องราวและข้อ เท็จจริงของสงครามการปะทะพร้อมทั้งประณามและปฏิเสธสงครามอย่างแน่วแน่

การปะทะครั้งนี้ ได้ทำให้หลายชีวิตต้องไม่มีที่อยู่อาศัย บาดเจ็บและล้มตายไปเป็นจำนวนไม่น้อยแล้วและคนเหล่านี้หาใช่นักการเมืองและ นักการทูตปากเก่งที่กรุงเทพฯ และพนมเปญ รวมทั้งไม่ใช่กลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงที่ออกมาร้องหาสงครามอย่างพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหากแต่เป็นชาวบ้านตาดำๆ และพลทหารเล็กๆ ของทั้งสองประเทศ

นี่จึงควรเป็นเวลาที่เราจะได้ตระหนักเห็นถึงความเลวร้ายของลัทธิชาตินิยม ซึ่งทำให้คนตาบอดไร้เหตุผล และนำไปสู่การอาฆาตเกลียดชังทำลายล้างกันของมนุษย์

ขณะที่สื่อไทยกระตือรือร้นเสียเหลือเกินในการรายงานยอดตัวเลขคนไทยที่บาด เจ็บและเสียชีวิตและยังให้น้ำหนักกับคำพูดของผู้นำฝ่ายตนอย่างไม่ตั้งคำถาม สื่อกัมพูชาก็คงกำลังประพฤติมิตนไม่ต่างกัน

คนไทยคลั่งชาติจำนวนหนึ่งได้เรียกร้องให้ทำลายวัดพุทธที่สร้างขึ้นโดยชาว กัมพูชาในบริเวณพื้นที่พิพาทราวกับว่าไม่มีอะไรผิดตรงไหน ในการจะเรียกร้องแบบนั้นแม้ว่าพวกเขาเป็นชาวพุทธ

คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากเป็นสถานการณ์กลับกันที่มีวัดพุทธสร้างโดยชาวไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่พิพาทบ้างชาวไทยพุทธจำนวนมากคงออกมาประณามชาวกัมพูชาที่ เรียกร้องเช่นนั้นว่าเป็นพวก "ชาวพุทธจอมปลอม"

ในใบปลิวหนึ่งของกลุ่มคนไทยรักชาติ ซึ่งนำโดยนายวีระ สมความคิด มีเนื้อหาที่มุ่งย้ำเตือนให้คนอ่านเห็นว่า "ดินแดนของประเทศสยาม" นั้นถูกเฉือนไปให้กับสองประเทศอาณานิคมใหญ่อย่างอังกฤษและฝรั่งเศสหลายครั้ง หลายคราหากทว่าใบปลิวนี้หาได้มีการพูดถึงเมื่อครั้งประเทศสยามไปรุกราน ประเทศเพื่อนบ้านจนไปยึดครองพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นของตนซึ่งหาก ไม่มีการรุกรานเหล่านั้นเพื่อนบ้านของไทยก็น่าจะเป็นเจ้าของแผ่นดินบางผืนใน วันนี้

ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่บริเวณอีสานตอนล่าง ซึ่งคนท้องถิ่นส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดที่เป็นตะเข็บชาย แดนไทย-กัมพูชา นั้นมีคนไทยที่มีเชื้อสายเขมรอาศัยอยู่และยังคงพูดภาษาเขมรอยู่

กลับไปที่เหล่านักการเมืองและนายพลระดับสูง แน่นอนว่าไม่ผู้นำไทยก็ผู้นำกัมพูชาคนใดคนหนึ่งต้องโกหก เพราะทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าอีกฝ่ายเปิดฉากการปะทะก่อน แต่คุณจะเชื่ออภิสิทธิ์เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนไทยเหมือนคุณและคนกัมพูชาก็จะ เชื่อฮุนเซ็นเพียงเพราะเป็นคนกัมพูชาเหมือนกัน โดยบอกว่า จะเชื่อเพียงเพราะเป็นคนชาติเดียวกันอย่างนั้นหรือ

การเชื่อตามผู้นำง่ายๆ เช่นนี้ย่อมนำมาซึ่งปัญหา แทนที่ฟังแล้วจะเชื่อเลย สิ่งแรกที่ควรถามคือ ใครจะเป็นคนได้ประโยชน์หากมีการปะทะเกิดขึ้น เราควรจะถามด้วยว่า ทำไมปัญหานี้จึงแก้ด้วยสันติวิธีไม่ได้เสียที

ลองมาคิดเล่นๆ ดูว่ากองทัพไทยหรือกองทัพกัมพูชาจะได้งบประมาณจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่ม เติมถ้าหากเกิดสงครามขึ้นใช่หรือไม่? ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงงบประมาณดังกล่าวก็แลกมาด้วยเงินภาษีของประชาชน ความเดือนร้อนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนรวมถึงชีวิตของพลทหารและชาว บ้านที่ต้องตายไป และเป็นไปได้ไหมว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะมีคนต้องการสร้างสถานการณ์ให้ วุ่นวายเพื่อเป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร

เหตุการณ์ทั้งหมดดูไม่ชอบมาพากลเป็นอย่างยิ่ง เริ่มตั้งแต่ที่อยู่ดีๆ กลุ่มของนายวีระก็เดินทางไปที่พื้นที่ชายแดนที่มีปัญหาจนเกิดการจับกุมตัว ของคนไทยทั้งเจ็ดคนจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต เป็นเหตุให้กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติออกมาประท้วงพักค้างแรมหน้าทำเนียบ ตามด้วยการประท้วงของพันธมิตรฯซึ่งเรียกร้องให้ใช้กำลังทหารในการจัดการกับ ปัญหาชายแดนเกิดเป็นแรงกดดันไปที่ชายแดนมีการเสริมกำลังทหารไปตรึงที่ชายแดน ทั้งสองฝ่ายและต่อมาก็เกิดการปะทะในวันศุกร์ที่ผ่านมา

ผู้เขียนนั้นไม่ทราบว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชามีวาระซ่อนเร้นหรือจะได้ประโยชน์อันใดจากการปะทะครั้ง นี้ แต่ท้ายสุดแล้วทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาก็ควรพินิจพิจารณาทั้งคำพูดและการ กระทำของผู้นำของประเทศตนอย่างรอบคอบ อย่าตกเป็นเหยื่อของวาระซ่อนเร้นทางการเมืองภายในประเทศ รวมทั้งอย่าได้ให้มีชีวิตไหนต้องมาสังเวยเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองและ นายพลบางคนอีกเลย

เวลาเราชื่นชมความยิ่งใหญ่ของพิรามิดกิซ่าที่อียิปต์ ทัชมาฮาลของอินเดียหรือนครวัดแห่งกัมพูชา เรามิควรแค่รู้สึกอัศจรรย์ในความยิ่งใหญ่ งดงาม ของสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น หากพึงระลึกด้วยว่า โบราณสถานเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นจากการเกณฑ์แรงงาน และเอารัดเอาเปรียบไพร่ทาส จนต้องล้มตายไปมิน้อย

ฉันใดก็ฉันนั้น ลัทธิชาตินิยมก็มีด้านที่น่ารังเกียจอยู่มากพอๆ กัน

 

 

หมายเหตุ: ปรับปรุงและตรวจทานโดยผู้เขียนเมื่อ 10 ก.พ. 54 เวลา 23.00 น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net