เหยื่อกระสุนพฤษภาเฉียดตาย ได้ค่าชดเชย 2,800

 
 
3 ม.ค.54  นางสมพาน พุทธจักร อายุ 39 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พ.ค.53 เดินทางไปรับเงินเยียวยาที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม โดยได้รับเงินเป็นจำนวน 2,800 บาท ทั้งนี้ สมพารเป็นแม่ของลูกๆ 3 คน พยายามจะเข้าไปชุมนุมที่แยกราชประสงค์ แต่โดนยิงเข้าที่กลางหลังบริเวณบ่อนไก่เสียก่อน หลังผ่าตัดต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาน 14 วัน และต้องพักฟื้นที่บ้านนาน 4 เดือนจึงจะสามารถเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้
 
"ภรรยาผมทำงานไม่ได้เลยตั้งแต่ถูกยิงจนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า8 เดือนคุณชดเชยให้เราเท่านี้เองหรือ" สุวรรณ ทับทอง สามีของนางสมพานกล่าวและว่าทางกรมคุ้มครองสิทธิขอให้แพทย์เขียนใบรับรองแพทย์อีกครั้งโดยให้ประมาณการระยะเวลารักษาตัวแต่แพทย์ที่รพ.ราชวิถีปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถระบุได้
 
ทั้งนี้ ใบรับรองแพทย์เบื้องต้นของรพ.ราชวิถี ระบุว่า สมพานถูกระสุนปืนยิงเข้าที่หลังด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บ โดนลำไส้เล็ก, ตับอ่อน, ตับ, ไต ได้ทำการผ่าตัดรักษา รับไว้รักษาตัวที่รพ. ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.-31 พ.ค.53
 
 
สำหรับความเป็นมาของเหตุการณ์นั้น สมพารเล่าว่า เมื่อก่อนไม่เคยสนใจเรื่องการเมือง ไม่เคยไปร่วมชุมนุมจนมีครั้งหนึ่งพี่สาวมาจากต่างจังหวัดได้ชวนไปหาที่ผ่านฟ้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เข้าไปในที่ที่มีการชุมนุม แต่ไม่ได้คิดว่าจะไปอีก หลังจากนั้นพอกลับมาดูสื่อที่ออกข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงก็เห็นว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง ไม่เหมือนกับที่เราไปมา จึงกลับมาร่วมชุมนุมอีกครั้งเพราะรับไม่ได้กับข่าวสารที่บิดเบือนจึงอยากพิสูจน์ อีกทั้งตนยังเป็นคนที่ชื่นชอบคุณทักษิณ ชินวัตร ด้วย
 
“เหตุการณตอนที่โดนยิงจำได้ไม่เคยลืม วันนั้นได้ข่าวว่าจะมีทหารมาสลายการชุมนุม เป็นห่วงพี่น้องที่อยู่ที่ราชประสงค์ แต่เข้าไม่ได้จึงมาอยู่ที่บริเวณบ่อนไก่ ตอนมาถึงได้สักพักก็พลัดหลงกับสามีจึงเดินหา แล้วเดินเข้าไปอยู่ตรงใต้ทางด่วน ซึ่งบริเวณนั้นคนเยอะ แล้วก็มีคนตะโกนขึ้นมาบอกว่า "หมอบๆ ทหารยิง หลบเร็ว" พี่ยังไม่ทันหมอบก็โดนยิงเข้าที่หลังเสียก่อน รู้ว่าโดนยิงเพราะมันรู้สึกว่ามีอะไรทะลุเข้าหลังเรา ตอนนั้นลืมตาไม่ขึ้นแล้วแต่รู้สึกเจ็บปวด เรายังได้ยินทุกอย่างจำได้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีคนมาช่วยเรียกเราตลอดเวลาเพื่อให้เรารูู้สึกตัวไม่ให้หลับ กลัวเราตาย จนถึง รพ.” สมพานกล่าว
 
ส่วนสามีของนางสมพาน กล่าวว่า หลังจากพลัดหลงกับภรรยาได้พยายามตามหา และโทรเข้ามือถือหลายครั้ง จนมีคนเก็บโทรศัพท์ภรรยาได้ แต่เครื่องพังเขาจึงเอาซิมไปใส่เครื่องของเขาและเขาบอกให้ทราบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งถูกยิงเพิ่งมีคนนำส่ง รพ. ตนพยายามตามหาจนเจอที่ รพ.ราชวิถี
 
“ไปถึงรพ.หน้าห้องไอซี หมอก็ออกมาเจอแล้วบอกเราว่าให้ทำใจนะ ภรรยาคุณอาจไม่รอ ดเพราะกระสุนทำลายระบบภายในหมดแล้ว ผมได้แต่ภาวนาว่าขอให้บุญกุศลที่ทำมาทั้งชีวิตให้เขารอดตายด้วยเถิด แล้วคำภาวนาเป็นจริง”สามีสมพานกล่าว
 
สุวรรณกล่าวต่อว่า หลังออกจากห้องผ่าตัดพักฟื้นที่ รพ.ได้ 14 วันคุณหมอก็อนุญาตให้กลับบ้านทั้งๆ ที่เพิ่งทานอาหารได้เป็นมื้อแรก ก่อนหน้านั้นทานแล้วอาเจียนออกมาตลอด คิดว่าเขายังไม่หายดีจึงขอร้องคุณหมอว่าให้อยู่รักษาตัวที่ รพ.ก่อนแต่หมอบอกว่าให้มารักษาที่บ้านได้แล้ว พอกลับมาบ้านก็ต้องดูแลทุกอย่างแทนภรรยา ทั้งงานบ้าน ลูกๆ รวมทั้งตัวของภรรยาด้วย ต้องทำความสะอาดแผล ดูแลเรื่องอาหารการกินเพราะสมพานยังทานอาหารทั่วไปไม่ได้ ตอนล้างแผลต้องโทรไปถามพยาบาลที่ รพ.ว่าทำอย่างไร มือหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกมือทำแผล ตอนนั้นสมพานยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ตนเองเลยไม่ได้ไปขับรถ ทำให้ไม่มีรายได้เข้าบ้าน และรถที่ผ่อนไว้เกือบหมดก็โดนยึด จนผ่านไปเกือบ 4 เดือน ภรรยาจึงเริ่มพยุงตัวเองได้ ตนจึงกลับมาขับรถ ค่าเทอมลูกๆ ก็ไม่ได้จ่าย ทาง รร.ทวงมาก็ไปขอติดเขาไว้ก่อนเพราะยังไม่มีเงินจ่ายส่วนที่ค้างไว้
 
“เวลาหมอนัดตรวจอาการภรรยา บางครั้งไม่มีเงินค่ารถไปก็ไม่ได้พาไปรักษา ครั้งล่าสุดหมอนัดเอ็กซเรย์ก็ขอเลื่อนหมอไปอีก 6 เดือนเพื่อหาเงินมาตรวจ หมอก็เข้าใจ” สามีสมพานกล่าว
 
เมื่อถามถึงอาการในปัจจุบัน สมพานกล่าวว่า ตอนนี้ทานอาหารได้มากขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่หมอยังบอกว่าน่าเป็นห่วงเพราะร่างกายอวัยวะภายในเราถูกทำลายไปมาก หมอยังบอกว่าไม่รู้ว่ารอดมาได้อย่างไรแต่ที่ห่วงมากที่สุดตอนนี้คือลูกๆ เพราะความเป็นอยู่มันบีบคั้นมาก ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้
 
“แม้เราจะผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาแล้วไม่เคยลืมเลยว่ามันเกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร เราเป็นแค่ประชาชนมือเปล่าไม่มีอะไรจะสู้ คนตั้งเยอะทำไมยิงโดนเรา ผลกระทบของการทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งมันมีมากมหาศาล ยิ่งเราไม่ได้ตายเรายิ่งทรมาน ตอนนี้รู้สึกว่าสังคมนี้มันไม่มีความยุติธรรมเลย แต่แม้เราจะลำบากแต่อุดมการณ์ยังเหมือนเดิม เรายังคงต้องการแค่ประชาธิปไตยเท่านั้น” สมพานกล่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท