ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก "วีระ สมความคิด" 8 ปี ปรับ1.8 ล้านเรียล ส่วน "ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์" ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี ปรับ 1.2 ล้านเรียลจาก 3 ข้อหา โดยไม่รอลงอาญา และนำตัวเข้าเรือนจำทันที
ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก "วีระ - ราตรี" ไม่รอลงอาญา
วันนี้ (1 ก.พ. 54) เมื่อเวลา 19.00 น. ศาลชั้นต้นกัมพูชานัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น (คปต.) และนางราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ เป็นจำเลย โดยถูกตั้ง 3 ข้อหา คือ เข้าเมืองผิดกฎหมาย เข้าพื้นที่ทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ประมวลข้อมูลอันเป็นภัยต่อการป้องกันประเทศ หรือ จารกรรมข้อมูล
โดยศาลกัมพูชาตัดสินคดีจำคุก นาย วีระ สมความคิด 8 ปี ปรับ 1 ล้าน 8 แสนเรียล และตัดสินจำคุก นางราตรี 6 ปีปรับ 1 ล้าน 2 แสนเรียล ไม่รองลงอาญา โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวทั้ง 2 คนกลับเข้าเรียนจำเปรยซอว์ทันที
มีรายงานด้วยว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อนประชาธิปไตย ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลกัมพูชา และพร้อมต่อสู้จนถึงที่สุด
ก่อนหน้านี้ ระหว่างการไต่สวนในช่วงเช้า ทั้งสองคนยืนยันปฏิเสธข้อหาจารกรรมข้อมูล โดยเฉพาะนายวีระยืนยันต่อศาลว่าถูกจับในดินแดนไทย ส่วนกล้องวิดีโอเป็นของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ใช้บันทึกการทำงาน
ศาลอาญายกฟ้อง หลังสันติอโศกฟ้อง มาร์ค และ 3 รัฐมนตรี ละเว้นปฏิบัติหน้าที่
วันเดียวกัน มติชนออนไลน์รายงานว่า ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้องในคดีที่ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ และนายตายแน่ มุ่งมาจน กลุ่มสันติอโศก สองในกลุ่ม 7 คนไทยที่ถูกประเทศกัมพูชาจับกุม เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อธิปไตยของรัฐต่างประเทศ กรณีพิพาทเรื่องที่ดินชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยศาลพิจารณาคำฟ้องแล้วเห็นว่า โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรี กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น ที่มีอำนาจพิพากษาได้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 275 วรรคหนึ่ง จึงให้ยกฟ้อง