นายกฯ กางแผนที่ 7 คนไทยไม่ได้ล้ำแดน ชี้เป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันชัดเจน ย้ำ คำพิพากษาศาลเขมรไม่มีผลผูกพันเขตแดน เตรียมทำหนังสือโต้แย้ง ให้ยึดเอ็มโอยู 43 ลั่นฟันเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวผลประโยชน์ ด้าน 'พนิช' เผยผลตรวจเลือดพบเชื้อมาลาเรีย เตรียมแถลงข่าวเปิดใจ 24 ม.ค. ขณะที่กลุ่มหัวใจคนไทยรักชาติ กำหนดเคลื่อนขับไล่รัฐบาล เหตุเดินเกมผิดเดินเกมช่วยเหลือ 7คนไทย
ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นปัญหาที่สลับซับซ้อนยืดเยื้อเรื้อรังมาหลายสิบปี เหตุผลเพราะว่าสถานการณ์ชายแดนนั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการสู้รบ มีสงคราม มีการอพยพ การขยายตัวของชุมชน ไม่นับว่าในเชิงกฎหมายมีข้อตกลงสนธิสัญญาหรือการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเขตแดน จึงทำให้เกิดความสับสนเป็นอย่างมาก และเกิดความเข้าใจไม่ตรงกันว่าสภาพการณ์ต่างๆ นั้นเป็นอย่างไร บางพื้นที่ที่มีความสลับซับซ้อนไม่เหมือนกัน ทำให้มองไม่เหมือนกันด้วย บริเวณที่เกิดขึ้นที่จ.สระแก้วที่เราจะไปดูกันในวันนี้นั้น เป็นบริเวณที่มีหลักเขตอยู่แล้ว ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าเส้นเขตแดนเป็นเส้นตรงที่ลากระหว่างหลักเขตที่ 46 และ47 เพียงแต่ว่าเส้นเขตแดนยังไม่เป็นที่ยุติก็เพราะว่าทั้งสองฝ่ายยังโต้แย้งกัน อยู่ว่าหลักเขตที่ปรากฏปัจจุบันนั้นถูกต้องตามบันทึกที่เคยมีการตกลงกันไว้ ตามสนธิสัญญาหรือไม่อย่างไร ทีนี้เราก็ต้องมาดูว่า เหตุการณ์วันที่ 29 ธ.ค.นั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร และไปเกี่ยวข้องส.ส. พนิช วิกิตเศรษฐ์ ซึ่งสังกัดในพรรครัฐบาล
นับตั้งแต่มีข้อโต้แย้ง วิพากษ์วิจารณ์ ตนก็เห็นว่าจะเกิดปัญหาความตึงเครียดขึ้นระหว่างกลุ่มบุคคลที่มีความห่วงใย ในเรื่องนี้ ที่มีการทักท้วง ร้องเรียนมายังรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา เกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับชายแดนกัมพูชา ตนเห็นว่าถ้าเรื่องนี้ไม่สามารถทำความเข้าใจกันได้ ไม่รับฟังกันเลย ก็จะทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายออกไป เติมความขัดแย้งภายในประเทศมากขึ้น และอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประชาชนแนวชายแดนเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุผลนี้เมื่อนายพนิช อาสาบอกตนว่าจะไปรับฟังว่า กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวข้องกับชายแดนไทยกัมพูชาเขามีประเด็นอะไร อย่างไร ตนก็บอกว่าจริงๆ ก็ถือเป็นหน้าที่ของส.ส.อยู่แล้วที่จะต้องรับฟังประชาชน นายพนิชย์ก็ได้เข้าไปประสานงาน และบอกกับตนว่า 1 ในประเด็นที่หลายฝ่ายติดใจ ในบริเวณชายแดนมีอยู่บางจุดที่บอกว่ามีประชาชนเดือดร้อน เพราะที่ทำกินของตัวเอง แต่ไม่สามารถเข้าไปทำกินได้ เพราะเข้าไปแล้วจะมีปัญหา จึงเป็นการบ่งบอกหรือไม่ว่าเราสูญเสียดินแดนไปหรือไม่ 1 วันก่อนการเดินทางไป ก็มาถามตนว่าจะไปลงพื้นที่ชายแดน จ.ปราจีนบุรีกับทางกลุ่มที่จะไปดูข้อมูลได้หรือไม่ ตนก็บอกไปว่าสามารถที่จะไปลงพื้นที่บริเวณชายแดนได้ เช้าวันที่ 29 นายพนิช ก็ได้โทรมาหาตน แล้วบอกว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้อาจมีความจำเป็นที่ต้องประสานงานกับทางตชด. ตนจึงบอกว่าเมื่อเข้าไปถึงพื้นที่ แล้วพบกับตชด.แล้ว ก็ให้ประสานงานเข้ามาเราจะได้ดำเนินการให้ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ตนทราบข่าวครั้งแรกจากนายพนิชติดต่อมาจากการลงพื้นที่เมื่อถูกจับกุมแล้ว
"นี่คือที่มา ที่ผมจะยืนยันกับประชาชนว่า คนไทย 7 คนนี้ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลยครับ นอกเหนือจากการที่จะเข้าไปดูปัญหาในพื้นที่ที่มีการร้องเรียนจากประชาชน และผมก็ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าประชาชนกลุ่มนี้เคยร้องเรียนมาหลายสิบปีแล้ว หลายรัฐบาล แต่ไม่มีการดำเนินการอะไร" นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากการนำแผนที่มาโชว์ในรายการ จะเห็น ถ.ศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นที่มีการตัดเลียบตามแนวชายแดนกัมพูชา จากนี้บริเวณดังกล่าวยังมีความสลับซับซ้อนไปอีก เรามีจุดหลักเขตที่ 46 และ 47 แต่ยังไม่มีการเจรจาข้อยุติ นอกจากนี้ ยังมีชุมชนของกัมพูชามาคร่อมอยู่บนเส้นสีขาว หรือใครบางคนบอกว่ามีการรุกล้ำกันไปมาทั้งไทยและกัมพูชาตลอดแนว มีมากกว่า 10 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะมีความแตกต่างกันไป บ้างก็บอกว่ากัมพูชาได้เปรียบไทยเสียเปรียบ บางจุดก็บอกว่าไทยได้เปรียบกัมพูชาเสียเปรียบ เป็นต้น
ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้น เมื่อบุคคลทั้ง 7 ได้นั่งรถตาม ถ.ศรีเพ็ญ เมื่อเขาลงจากรถตรงจุดสีแดง และเดินลงมาบริเวณทุ่งนา ผ่านเส้นประ ซึ่งเป็นเส้นที่เป็นแนวลวดหนาม ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ชุมชนกัมพูชาเข้ามาในช่วงที่มีการสู้รบหลบหนีกัน ก็มาครอบรองพื้นที่อยู่ในบริเวณนี้ แต่ยังไม่สามารถกำหนดเส้นเขตแดนกันได้ ก็มีการตกลงกัน และปฏิบัติเป็นแนวแบบนี้หลายๆจุด โดยกำหนดว่าทำอย่างไรอย่าให้การรุกล้ำนั้นขยายตัว จึงจะมีการกำหนดแนวไว้เป็นรั้วลวดหนาม ซึ่งปัจจุบันไม่มีลวดหนามแล้ว แต่จะมีเส้นแนวปูนอยู่ เมื่อเขาเดินลงมาจะเห็นว่าเขาเดินเลี้ยวขึ้นถนนที่เป็นเส้นประ ความสำคัญคือ ก่อนหน้านี้มีการพูดกันมาก 1.บุคคลเหล่านี้ถูกจับกุมในบริเวณทุ่งนา ซึ่งไม่ใช่ เพราะบริเวณทุ่งนาเขาเดินผ่านมาเรียบร้อยแล้ว 2.มีการพูดกันว่าเขาถูกจับบนที่ดินมีเอกสารสิทธิ์นส.3ของนายเบ ปรากฎว่านส.3ดังกล่าวจะอยู่ที่หลักเขตที่ 46 ดังนั้นเมื่อเขาเดินมาตรงนี้แล้วเลี้ยวไป จะเห็นว่าเขาไม่ได้ถูกจับในทุ่งนาและนส.3 ถ้าดูแบบนี้เหมือนเขากำลังเดินลึกเข้ามาในเขตของไทย
จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างไร มีการถามว่าเราได้ปฏิบัติอย่างไรบ้าง หลังจากเป็นข่าวสิ่งที่รัฐบาลทำคือพยายามเจรจากับกัมพูชาว่าเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นระหว่างเขตแดนที่ยังไม่เป็นที่ยุติ เป็นไปได้ไหมที่จะมีการส่งคืนตัวบุคคล อย่าไปขึ้นศาลอะไรทั้งสิ้น แต่ทั้ง 7 คนก็ถูกนำตัวไป วันรุ่งขึ้นตนก็เรียกประชุมหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง และรมว.ต่างประเทศก็เดินทางไปกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาบอกว่า ทั้ง 7 ล้ำเข้าไปในเขตแดนกัมพูชา พร้อมกับให้วีดีโอ ที่ถ่ายโดยทั้ง 7 คนไทย
จากนั้นเราได้นำวีดีโอมาตรวจสอบ จากนั้นวันที่ 31 ธ.ค.53 ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไป เพื่อให้กัมพูชาชี้จุดว่าจับกุมตรงไหน เราจึงบอกว่าขอวัดพิกัด พบว่าไม่ว่าจะเป็นจุดสีน้ำเงิน หรือจุดสีแดง เมื่อทาบลงบนเส้นตรงระหว่างหลักเขตที่ 46และ47 ปรากฎว่าอยู่ฝั่งทางด้านนี้ ด้วยเหตุผลนี้ตนจึงต้องอธิบาย เพราะแนวปฏิบัติจะแตกต่างกันอยู่ เราพยายามเร่งรัดให้ 7 คนไทยสามารถกลับเมืองไทย เพื่อที่เราจะได้มีการดำเนินการต่างๆต่อไป ที่เหลืออีก 2 คนต้องการจะต่อสู้อีกแนวทางหนึ่ง ในวันที่ 1 ก.พ.54 ศาลจึงพิพากษาเฉพาะ 5 คน
"การที่ศาลกัมพูชาตัดสินเช่นนี้ เป็นการยอมรับหรือไม่ว่าบุคคลที่ถูกจับและเดินเข้าไปนั้นอยู่ในเขตแดน กัมพูชา ผมก็จะบอกว่าตามหลักแล้วการตัดสินของศาลภายในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมไม่มีผลชี้เรื่องของเขตแดนได้ ความผูกพันธุก็จะมีเฉพาะกับคู่ความ แต่จะมาบอกว่าคำพิพากษาของกัมพูชา ถือว่าอยู่ในเขตกัมพูชาไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกัมพูชาลงนามในMOU 2543ไว้แล้ว ว่าบริเวณทั้งหมดเขตแดนยังไม่เป็นที่ยุติ และจะยุติได้ตามกระบวนการที่กำหนดไว้ใน MOU เท่านั้น เบื้องต้นผมขอยืนยันว่า ไม่มีตรงไหนที่รัฐบาลจะไปยอมรับเนื้อหาสาระของศาลที่ตัดสินคดีนี้ในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับเขตแดน ตรงนี้จะเป็นคำตอบว่าเราไม่ได้สูญเสียดินแดนหรืออธิไตยแต่อย่างใด" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ในแง่พื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ในบริเวณนี้แต่เข้าทำกินไม่ได้ ตนได้มีการปรึกษาแล้ว จะมีการดำเนินการขอเปลี่ยนแนวปฏิบัติ เพื่อให้เข้าไปทำกินในพื้นที่ตัวเองได้ แต่จะมีประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่มีสค.1 หลายแปลง ยังไม่สามารถกำหนดแนวต่างๆชัดเจน แต่จะตรวจสอบอีกครั้ง และจะประสานงานเพื่อชี้แนวให้ชัด เพื่อเป็นข้อมูลใช้ประโยชน์การอ้างกำหนดเส้นเขตแดนต่อไป
กลุ่มหัวใจคนไทยรักชาติ กำหนดเคลื่อนขับไล่รัฐบาล เหตุเดินเกมผิดเดินเกมช่วยเหลือ 7คนไทย
นายทศพล กล่าวว่า ส่วนยุทธวิธีการต่อสู้กรณี 7 คนไทยนั้น ขณะนี้เครือข่ายฯ ต้องรอพูดคุยกับนางนฤมล จิตรวะรัตนา และคนอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ยังขอใช้เวลาส่วนตัวกับครอบครัว ส่วนนายตายแน่ มุ่งมาจน และร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ขณะนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบ้างแล้ว แต่เป็นเพียงข้อมูลในเบื้องต้นเท่านั้น คงต้องรอให้พร้อมและให้ข้อมูลกับเครือข่ายฯ อีกครั้ง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)