Skip to main content
sharethis

“กอร์ปศักดิ์” เขียนบลอก ระบุสินค้าแพงเราะถูกผูกขาดโดยยักษ์ใหญ่ในวงการสินค้าเกษตร กำหนดราคาทุกขั้นตอน ทั้งโครงสร้างการผลิตและโครงสร้างการตลาด

9 ม.ค. 54 - นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าคณะทำงานโครงการเร่งรัฐปฏิบัติการ ด่วนเพื่อคนไทย ได้เขียนบทความเรื่อง “กบผู้ฆ่ายักษ์”และ “กบพลังงาน” ในบลอกส่วนตัว www.korbsak.com หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศมอบของขวัญ 9 ข้อตามโครงการเร่งรัฐฯ โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งของบทความได้ระบุถึงต้นตอสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสินค้า ราคาแพงโดยเฉพาะเนื้อหมู, เนื้อไก่และไข่ไก่ เนื่องจากมีระบบการจัดการแบบผูกขาดโดยยักษ์ใหญ่ในวงการสินค้าเกษตรที่สามารถ กำหนดราคาได้เกือบทุกขั้นตอนของระบบทั้งโครงสร้างการผลิตและโครงสร้างการ ตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีอำนาจเหนือตลาด ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในแวดวงธุรกิจแต่ไม่ได้มีการพูดกันในที่สาธารณะ 

ทั้งนี้นายกอร์ปศักดิ์ ระบุว่า คณะทำงานได้เสนอให้แก้ไขปัญหาการผูกขาดและมีอำนาจเหนือตลาดด้วยการปรับปรุง กฎหมายการแข่งขันทางการค้า ที่ปัจจุบันเป็นเพียงเสือกระดาษ โดยจะปรับปรุงให้ครอบคลุมรัฐวิสาหกิจด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะ รวมทั้งจะทบทวนเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดใหม่ และจัดรูปแบบองค์กรการกำกับดูแลการแข่งขันให้ทำงานในเชิงรุก  มีความคล่องตัว   มีคณะทำงานติดตามข้อมูล – พฤติกรรม   เช่น กำหนดมาตรการแจ้งปริมาณ  สถานที่เก็บข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นต้นทุนอาหารสัตว์ โดยมีกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดำเนินการ รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างของคณะกรรมการนโยบายทั้งคณะกรรมการนโยบายไข่ไก่ (เอ้กบอร์ด)และคณะกรรมการนโยบายสุกร (พิคบอร์ด) เพื่ออุดช่องโหว่ที่ยักษ์ใหญ่ใช้กลไกของคณะกรรมการฯเพื่อเอื้อประโยชน์

นอกจากนี้รัฐบาลจะเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร ด้วยการส่งเสริมระบบสหกรณ์อย่างเต็มที่โดยเฉพาะให้เข้าถึงแหล่งทุนให้ง่าย เพื่อให้มีอำนาจต่อรองในด้านพันธุ์สัตว์และการกำหนดราคา รวมทั้งจะเข้าไปดูแลเกษตรกรที่มีพันธสัญญาในระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่งเพื่อไม่ ให้มีการเอาเปรียบทางสัญญา ขณะเดียวกันจะเร่งเพิ่มความสามารถในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกำหนดยุทธศาสตร์ในการวางแผนผลิตมันสำปะหลังให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และ การใช้ประโยชน์ เพื่อลดต้นทุนในเรื่องของอาหารสัตว์เพราะปัจจุบันยักษ์ใหญ่สามารถซื้อวัตถุ ดิบอาหารสัตว์ได้ในราคาถูก รวมทั้งกำหนดให้คณะกรรมการนโยบายอาหารสัตว์มีมาตรการโปร่งใสโดยต้องกำหนด มาตรการอนุญาตให้นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้ตรงตามเวลาที่กำหนดของทุกปี

ส่วนเรื่องค่าไฟฟ้าที่รัฐบาลกำหนดให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าฟรีหากไม่เกิน 90 หน่วย หลังจากนั้นผู้ใช้ไฟฟ้ามากต้องถูกคิดค่าไฟฟ้าแพงโดยจะมีการปรับค่าไฟให้มาก ขึ้นในช่วง 400 – 450กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เล็กน้อย  โดยใช้ระบบค่าเอฟทีเป็นตัวแปรในการคิดค่าไฟฟ้าใหม่ ซึ่งจะเริ่มในเดือนพ.ค. 54  หากทำสำเร็จจะเป็นมาตรการถาวรและไม่ต้องนำเงินภาษีปีละ 15,000 ล้านบาท มาอุดหนุนค่าไฟฟ้าฟรีอีกต่อไป

สำหรับก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีที่จะแยกเป็น 2 ราคาระหว่างครัวเรือนและขนส่ง กับภาคอุตสาหกรรมนั้น กำหนดให้เวลาเตรียมตัว 6 เดือนเพื่อไม่ให้ภาคอุตสาหกรรมกระทบกระเทือนมาก เมื่อยกเลิกการอุดหนุนแอลพีจีแล้วเท่ากับว่าน้ำมันขายปลีกหน้าปั๊มน้ำมันจะ ลดลงทันทีลิตรละ 1-2บาท กรณีที่รัฐไม่มีนโยบายกันเงินไว้อุดหนุนตอนราคาน้ำมันขึ้น  อย่างไรก็ตามในรายละเอียดทั้งหมดจะมีการเปิดเผยบนเว็ปไซต์ของกระทรวงที่รับ ผิดชอบเพื่อสร้างความเข้าใจให้ชัดเจนต่อไป.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net