การสังหารโหด'แดง คชสาร'ถือเป็นศพที่ 5 หลังสลายม็อบ 91 ศพ เมื่อ 19 พฤษภาคม นี่ยังไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้าย
สุเทพ เทือกสุบรรณ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาปฏิเสธความผิดชอบในการตายของแดง คชสาร และเสื้อแดงรายอื่นๆ ซึ่งก็อาจเป็นไปตามที่ทั้งสองปฏิเสธ แต่ฆาตกรต่อเนื่องรายอื่นยังคงเงียบงัน!..
ไปสัมผัสชะตาสยองของเหยื่อฆาตกรฆ่าต่อเนื่องหลังสังหารหมู่ 19 พฤษภาคมทั้ง 5 ราย และย้อนไปดูผลงานฆาตกรฆ่าต่อเนื่องตั้งแต่ยุค 6 ตุลาคม 2519
หลังสลายการชุมนุม 19 พ.ค.เพียง 2 วันคือในวันที่ 21 พ.ค.ถูกกองทัพภาคที่ 2 เรียกเข้าไปรายงานตัวที่กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพราะเป็นแกนนำเสื้อแดงโคราช
เพื่อนร่วมงานนายศักรินทร์ให้ข้อมูลว่า ทราบว่ามีรถยนต์กระบะสีดำขับติดตามนายศักรินทร์มากว่า 3 วันแล้ว และได้เตือนให้นายศักรินทร์ได้ระวังตัว แต่นายศักดิ์นรินทร์ไม่เชื่อคำเตือน สุดท้ายก็มาถูกยิงดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ทั้งเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว, เรื่องชู้สาว และประเด็นทางการเมือง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปฏิเสธว่ารัฐบาลไม่เกี่ยวข้องการสังหาร ขณะที่ฝ่ายทหารโยนขี้ว่าถูกเสื้อแดงด้วยกันฆ่าตัดตอน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี
พฤติการณ์สังหารโหด-หลังเหตุการณ์สังหารอ้วน บัวใหญ่ และลอบสังหารหัวคะแนนยงยุทธ ที่เชียงรายเพียงวันเดียว ตำรวจพบนายสวาทเป็นศพเมื่อ 10 มิถุนายน 53 คนร้ายฆ่าสังหารโดยใช้เชือกมัดมือไพล่หลัง และใช้ผ้าขาวม้าผูกคอจนเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีระบุว่า นายสวาทได้หลบหนีหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบจลาจลในกรุงเทพฯ ไปหาญาติที่ระยอง แต่ถูกคนร้ายตามฆ่า เชื่อว่า ถูกฆ่ามาจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี
พฤติการณ์สังหารโหด-เมื่อเช้าวันที่ 26 มิ.ย.53 ขณะที่น้ำหวานขี่มอเตอร์ไซค์ บนถนนสายลำลูกกา-ธัญญบุรี บริเวณคลองเจ็ด จ.ปทุมธานี ถูกรถกระบะพุ่งชนกระดูกก้านคอหัก มีรอยช้ำที่ท้ายทอย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามคนใกล้ชิดต่างเชื่อว่าไม่ได้เป็นอุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากน้ำหวานเคยเปรยกับคนใกล้ชิดว่า ถูกติดตามและหมายเอาชีวิต
นางมาลัย เลิศสลุง อดีตภรรยาของน้ำหวานเล่าว่า หลังจากม็อบถูกสลาย น้ำหวานก็กลับมาที่บ้านพักย่านคลองเก้า อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โทรศัพท์พูดคุยกันตลอด ทราบว่าอยู่เป็นที่ไม่ได้ ต้องหลบหนีอย่างหัวซุกหัวซุน พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่ากำลังถูกไล่ล่า ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ครั้งสุดท้ายที่โทรศัพท์คุยกัน ประมาณ 15 วัน ก่อนเสียชีวิต
ตำรวจเจ้าของคดีสรุปสำนวนว่าน้ำหวานขับมอเตอร์ไซค์แฉลบเสียชีวิตเอง ซึ่งยังเป็นเรื่องยากจะเชื่อว่าอดีตพ.อ.อ.สังกัดหน่วยคอมมานโดจะพบจุดจบในชีวิตแบบที่ตำรวจสรุปคดีง่ายๆเช่นนี้
เหยื่อรายที่ 4 น้องเจมส์-กฤษฎา กล้าหาญ
พ.ต.ท.เอกรัฐ พัฒนสมบัติ สารวัตรเวร สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ระบุคนร้ายใช้อาวุธสงครามปืนเอ็ม 16 แต่จนถึงปัจจุบันครบ100 วันการเสียชีวิต คดียังไม่มีความคืบหน้า
เหยื่อรายที่5-แดง คชสาร
หลังสลายการชุมนุม19พ.ค. ดีเจอ้อมที่เป็นแกนนำสำคัญของคลื่นวิทยุรักเชียงใหม่ต้องหลบภัยมืดพร้อมกับ ผอ.เพชรวรรต มีผู้นำรุ่น2ขึ้นรับช่วงภารกิจ โดยมีแดง คชสาร เป็น 1 ในนั้น
พฤติการณ์สังหารโหด-เขาตกเป็นเหยื่อสังหารโหดรายที่ 5 หลังเสื้อแดงยุติการชุมนุม 19 พ.ค. การสังหาร"แดง คชสาร"ด้วยการยิงพรุนทั้งร่าง 18 รู และยัดยาบ้าใส่มือ 7 เม็ด
ฆาตกรได้ติดตามสะกดรอยตาม แดง คชสาร ตลอดเวลาเป็นอาทิตย์ การสะกดรอยตามครั้งนี้เขาก็รู้ตัวว่าถูกตาม และได้พูดให้เพื่อน และดีเจในคลื่น92.5 เชียงใหม่รับฟังว่า เขาถูกสะกดรอยตาม และถูกคุกคามอย่างหนัก จนไม่อาจพักอาศัยที่หอพักได้ ถึงขนาดต้องไปขอนอนตามปั้มน้ำมันที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา จะได้มีคนเห็น แต่ก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือฆาตรกร
สุเทพ เทือกสุบรรณ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาปฏิเสธความผิดชอบในการตายของแดง คชสาร และเสื้อแดงรายอื่นๆ ซึ่งก็อาจเป็นไปตามที่ทั้งสองปฏิเสธ แต่ฆาตกรต่อเนื่องรายอื่นยังคงเงียบงัน
ทั้งนี้ เคยเกิดเหตุสังหารในยุคความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองในยุคก่อนสังหารหมู่กรณี 6 ตุลาคม 2519 เหยื่อสังหารซึ่งเป็นที่จดจำเช่น ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน ผู้นำพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย,พ่อหลวงอินถา ศรีบุญเรือง ผู้นำสหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย,แสง รุ่งนิรันดรกุล และนิสิต จิรโสภณ ผู้นำนักศึกษา เป็นอาทิ (ดูรายละเอียด:ความรุนแรงและการลอบสังหาร ก่อน 6 ต.ค. 2519)
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:เหยื่อไล่ล่าศพที่5แดง คชสาร ปูดเป้าสังหารอีก5
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)