ชาวบ้านน้ำชีโวยโครงการพัฒนาของรัฐทำน้ำท่วม เสนอแก้ปัญหาก่อนทำโครงการอื่นต่อ

ชาวบ้านอนุรักษ์และฟื้นฟูแก่งละว้า ร้องแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหมู่บ้านและนาข้าว ชี้เหตุจากทางภาครัฐทำโครงการพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำแก่งละว้า ให้เป็นแหล่งสำรองน้ำดิบเพื่อการทำน้ำประปาของคนในภาคเมือง-สร้างสิ่งกีดขวางทางเดินน้ำ

 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 เมื่อเวลาประมาณ 11 น. ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์และฟื้นฟูแก่งละว้าจำนวน 10 คน ประกอบด้วยตัวแทนเกษตรกรจากบ้านชีกกค้อ อ.บ้านไผ่ และบ้านหนองแปน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้มีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหมู่บ้านและนาข้าวกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น โดยทางกลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์และฟื้นฟูแก่งละว้า กล่าวว่า สาเหตุหนึ่งของน้ำท่วมในครั้งนี้ คือ การปล่อยน้ำของฝายชนบท สิ่งกีดขวางทางเดินน้ำ เช่น คันไดน์ (dike) หรือขอบอ่างเก็บน้ำ และสะพานเชื่อมระหว่างบ้านชีกกค้อและบ้านหนองแปน
 
 
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ณ.ห้องประชุมสำนักงานบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดขอนแก่น นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้เป็นประธาน ในการประชุมหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ร่วมกับตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
 
นายคงเดช เข็มนาค สมาชิกกลุ่มกลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์และฟื้นฟูแก่งละว้า ได้เล่าถึงลำดับเหตุการณ์การพัฒนาของรัฐที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชุ่มน้ำแก่งละว้า และกล่าวว่า การพัฒนาดังกล่าวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมขังพื้นที่นาข้าวและหมู่บ้านรุนแรงและยาวนานกว่าเดิมก่อนที่จะมีสิ่งก่อสร้าง
 
ด้านนายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวว่า สภาพพื้นที่เดิมนั้นไม่ได้มีน้ำท่วมขังเกิน 5-7 วันอยู่แล้ว จากสาเหตุสภาพพื้นที่แม่น้ำชีบริเวณก่อนถึงหมู่บ้านชีกกค้อ มีความแคบและไม่สามารถรับปริมาณน้ำฝนที่ตกมาอย่างหนักจึงทำให้น้ำท่วมนาข้าวและหมู่บ้านโดยเฉพาะ 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตนเองในฐานะผู้อำนวยการสำนักชลประทานจังหวัดขอนแก่น ยินดีดำเนินการเปิดช่องระบายน้ำเพิ่มเพื่อให้ปริมาณน้ำจากแม่น้ำชีได้ไหลเข้าสู่พื้นที่แก่งละว้าตามขอเรียกร้องของชาวบ้าน แต่การเปิดครั้งนี้จะไม่มีการถมปิดอีกแล้ว แม้เกิดปัญหาขึ้นจากการเปิดช่องระบายน้ำ ซึ่งอยากให้ชาวบ้านคำนึงถึงปัญหาน้ำไหลย้อนเข้าสู่พื้นที่นาข้าวเมื่อปริมาณน้ำเต็มความจุของแก่ง 
 
ด้านนางอุไรวรรณ บุญวัฒน์ หนึ่งในผู้ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ได้กล่าวในที่ประชุมว่า แม้ว่าครัวเรือนของตนเองจะอาศัยอยู่ทางฝั่งบ้านชีกค้อ แต่พื้นที่นาของตนเองอยู่ฝากหมู่บ้านหนองแปน และสะพานที่ตัดเชื่อมหมู่บ้านชีกกค้อ-หนองแปนที่มีลักษณะขนานกับผิวน้ำนั้นได้เป็นตัวขว้างกั้นการไหลของน้ำทำให้น้ำได้เอ่อทะลักเข้าท่วมนาข้าวของตนเอง จึงอยากให้ชลประทานจังหวัดขอนแก่นหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขให้สะพานมีลักษณะโค้งเพื่อที่จะให้น้ำได้ไหลอย่างสะดวก 
 
นายคำตัน เอ็นอ่อน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มชาวบ้านและอนุรักษ์แก่งละว้า กล่าวเสริมด้วยว่า “ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ก่อสร้างสะพาน ผมถามว่าทำไมสร้างไม่สร้างให้สะพานโค้ง นายช่างบอกว่าน้ำไม่ท่วมถึงหรอก หลังจากสร้างสะพานเสร็จปีถัดมาน้ำได้ท่วมถึงสะพาน ผมไม่เคยเห็นหน้านายช่างคนนั้นอีกเลย ” 
 
นางสาวจรูญพิศ จันทะศรี ที่ปรึกษาเครือข่ายชาวบ้านอนุรักษ์และฟื้นฟูแก่งละว้า กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริงที่ผ่านมาว่า นาข้าวและที่อยู่อาศัยของชาวบ้านได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะหลังจากที่ทางภาครัฐได้ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำแก่งละว้า เพื่อเป็นแหล่งสำรองน้ำดิบเพื่อการประปา เพื่อให้มีน้ำประปาอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอในภาคเมือง 
 
“ชาวนาเหล่านี้เป็นผู้เสียสละ ที่ต้องทุกข์กับปัญหาน้ำท่วมพื้นนาข้าวและชุมชนซ้ำซากปีแล้วปีเล่า จึงอยากให้มีการตั้งกองทุนให้การดูแลเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับเกษตร และให้ภาครัฐได้ยุติโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำชี โดยเฉพาะโครงการโขง-ชี-มูล เพราะอาจจะเกิดผลกระทบอย่างเช่นที่แล้วมา และให้เร่งศึกษาถึงผลกระทบ ความเสียหายของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำของภาครัฐที่ผ่านมา เพราะหากยังดำเนินโครงการอื่นใด ก็จะตามแก้ไขปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด” นางสาวจรูญพิศ ย้ำ 
 
ในช่วงท้าย ที่ประชุมได้มีมติว่า ควรมีการตั้งคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วย เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบ ภาคประชาชน นักวิชาการ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวของ เพื่อศึกษาข้องเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น เพราะในตอนนี้ต่างฝ่ายต่างเชื่อว่าสาเหตุน้ำท่วมนั้นเกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะเป็นผู้ศึกษา กลั่นกรองข้อเท็จจริง ซึ่งได้แต่งตั้งให้นายอนุกุล ตังคณานุกูลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน และแต่ละภาคส่วนจะเสนอรายชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท