Skip to main content
sharethis
วานนี้ (8 พ.ย.53) นางสุจิน รุ่งสว่าง ประธานเครือข่ายบำนาญภาคประชาชน เปิดเผยว่าตัวแทนเครือข่ายบำนาญภาคประชาชนได้เข้ายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ... ถึงข้อเสนอต่อ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .. ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
 
ในหนังสือระบุว่าจากการสัมมนาเรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติกับการสร้างระบบบำนาญพื้นฐานที่เป็นจริง” เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมาซึ่งจัดโดยเครือข่ายบำนาญประชาชนคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ได้มีข้อสรุปตรงกันว่า แม้วัตถุประสงค์ของพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อสร้างหลักประกันทางการเงินให้แก่ประชาชนยามชราภาพเพิ่มเติมจากเงินเบี้ยยังชีพ500 บาทต่อคนต่อเดือนสำหรับผู้สูงอายุทุกคนยกเว้นข้าราชการแต่ยังมีบางจุดที่อาจทำให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่สามารถสร้างระบบบำนาญพื้นฐานของประชาชนทุกคนได้อย่างเท่าเทียมได้อย่างแท้จริง
 
นางสุจิน กล่าวว่าที่ประชุมจึงมีข้อเสนอต่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ 1.ให้พิจารณาถึงความครอบคลุมประชาชนทุกคนโดยไม่แบ่งแยกอาชีพหรือสถานภาพการทำงานโดยให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มลูกจ้างเอกชนในระบบประกันสังคมด้วยเพราะไม่ว่าผู้ออมจะเปลี่ยนงานอย่างไรจะยังคงสามารถสะสมเงินในระบบบำนาญได้อย่างต่อเนื่อง
 
2.ความเป็นสมาชิกกองทุนการออมควรจะสิ้นสุดเมื่อเสียชีวิตเท่านั้นเพื่อให้ประชาชนมีหลักประกันไปจนวันสุดท้ายของชีวิตแม้ว่าผู้ออมจะออมเงินมาน้อยก็ควรที่จะจ่ายให้เป็นบำนาญชราภาพไปตลอดชีวิตควบคู่ไปกับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพเพื่อเป็นหลักประกันที่มั่นคงจนสิ้นอายุขัยเพราะหากอนุญาตให้ผู้ออมลาออกได้ก็เท่ากับหลักประกันที่มั่นคงจะหายไป
 
3.การบริหารจัดการกองทุนและการบริหารนโยบายบำนาญในภาพรวมควรมีคณะกรรมการนโยบายบำนาญแห่งชาติเพื่อกำกับดูแลกองทุนบำนาญแห่งชาติและบริหารนโยบายบำนาญในภาพรวมของประเทศเพื่อให้การสร้างหลักประกันยามชราภาพในอนาคตให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพและสอดคล้องกันในแต่ละระบบบำนาญที่มีอยู่โดยให้พิจารณาถึงการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสรรหาผู้ที่เหมาะสมเข้าไปบริหารกองทุนอย่างเต็มความสามารถ
 
“ข้อเสนอดังกล่าวจะช่วยอุดช่องว่างของร่าง พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ... ของรัฐบาลให้สามารถสร้างระบบบำนาญพื้นฐานของประชาชนทุกคนได้อย่างเท่าเทียมทุกคนเข้าเป็นสมาชิกร่วมออมได้ ไม่แยกส่วนโดยมีการบริหารจัดการอย่างโปร่งใสและเป็นระบบ” นางสุจินกล่าว
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net