Skip to main content
sharethis

ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดแห่งชาติ แจ้งสันติบาลดำเนินการกับวารสาร “ฟ้าเดียวกัน” เนื่องจากไม่จดแจ้งการพิมพ์ และอาจเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง ด้านธนาพล อิ๋วสกุล บก. โต้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานและไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พร้อมขอบคุณที่ช่วยโฆษณา ย้ำเดินหน้าผลิตวารสารต่อไป

จากกรณีนางวิลาวัณย์ ทรัพย์พันแสน ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดแห่งชาติ ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ได้แจ้งความไปยังกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (ฝ่ายสิ่งพิมพ์) ให้ดำเนินการกับวารสารดังกล่าว เนื่องจากตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการจดแจ้งการพิมพ์ตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้ยื่นขอให้ตรวจสอบเนื้อหาในวารสารที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงด้วย เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น

วันนี้ (14 ก.ย.) นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณานิตยสารฟ้าเดียวกัน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับประชาไท ด้วยเสียงกลั้วหัวเราะว่า “ขอขอบคุณที่ช่วยโฆษณาให้เรา” พร้อมระบุว่าการแจ้งความดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขายและการผลิตวารสารฟ้าเดียวกันแต่อย่างใด

“ที่ผ่านมา ร้านหนังสือใหญ่ๆ คือ นายอินทร์ ศูนย์หนังสือจุฬา B2S และ ซีเอ็ด เขาก็ไม่ขายหนังสือเราอยู่แล้ว ก็ไม่มีผลอะไร พื้นฐานเลยคือเรื่องของเสรีภาพในการพิมพ์ ไม่ได้อยู่ที่กฎระเบียบ และคนอ่านก็อ่านเนื้อหา ไม่ได้อ่านว่าเราจดทะเบียนหรือไม่”

ส่วนกรณีที่วารสารดังกล่าวไม่จดทะเบียนการพิมพ์ ตามพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 นั้น นายธนาพลอธิบายว่า เป็นความจงใจของเขาเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการมีพระราชบัญญัติดังกล่าว

“เราจงใจไม่จด เพราะเราคิดว่าเป็นสิทธิเสรีภาพในการโฆษณา เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญรับรองอยู่แล้ว และพระราชบัญญัติที่ออกมานั้นงี่เง่า” นายธนาพลกล่าวว่า เขาเชื่อว่าคดีดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องการเมือง เนื่องจากยังมีวารสารและสิ่งพิมพ์จำนวนมากที่ไม่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์แต่ไม่ถูกดำเนินการใดๆ โดยเขายืนยันว่าเขาจะยังดำเนินการผลิตวารสารดังกล่าวต่อไป พร้อมชี้แจงถึงกรณีวารสาร “ฟ้าเดียวกัน” ออกวางจำหน่ายล่าช้าไปถึง 2 ไตรมาสว่าเป็นปัญหาในกระบวนการผลิต ไม่ใช่ปัญหาการเมืองแต่อย่างใด

“สำหรับเล่มถัดไปก็จะออกตรงตามเวลา คิดว่าฉบับหน้าจะออกมาวางจำหน่ายภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้อย่างแน่นอน” นายธนาพลกล่าวพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

เมื่อถามว่า นางวิลาวัณย์ ทรัพย์พันแสน ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้แจ้งความไปยังกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (ฝ่ายสิ่งพิมพ์) ขอให้ตรวจสอบเนื้อหาในวารสารที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง ด้วยนั้น นายธนาพลกล่าวว่า เรื่องไหนที่คิดว่าเข้าข่ายหมิ่นก็ขอให้ฟ้องเป็นเรื่องๆ ไป

สำหรับวารสารฟ้าเดียวกัน เป็นวารสารราย 3 เดือน ขณะนี้ได้ดำเนินการพิมพ์และเผยแพร่มาเป็นปีที่ 8 ฉบับล่าสุด คือฉบับปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม-กันยายน 2553 “ประวัติศาสตร์ไทย ใต้ร่มพระบารมี”

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์เนชั่นทันข่าว รายงานเมื่อวันที่ 14 ก.ย. เวลา 16.46 น. ว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้รับทราบการรายงานผลการประชุมปรึกษาหารือการจดแจ้งการพิมพ์ของ วารสาร ฟ้าเดียวกัน ซึ่งเป็นวารสารที่วิพากษ์วิจารณ์การเมือง จากสำนักหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามนโยบาย วธ. ในการดำเนินการกับวารสาร สิ่งพิมพ์ ที่ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550

โดยเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา นางวิลาวัณย์ ทรัพย์พันแสน ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดแห่งชาติ ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ได้แจ้งความไปยังกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (ฝ่ายสิ่งพิมพ์) ให้ดำเนินการกับวารสารดังกล่าว เนื่องจากตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการจดแจ้งการพิมพ์ตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้ยื่นขอให้ตรวจสอบเนื้อหาในวารสารที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง ด้วย อย่างไรก็ตามตนได้รายงานกรณีดังกล่าวนี้ทางวาจาไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“พร้อมกันนี้ผมได้สั่งการให้ ผอ.สำนักหอสมุดแห่งชาติ และผอ.สำนักศิลปากร 15 แห่งทั่วประเทศในฐานะเจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.การพิมพ์ ไปตรวจสอบสิ่งพิมพ์ทุกชนิดในทุกจังหวัด ที่ยังไม่ได้ยื่นจดทะเบียนตามกฎหมายให้ไปดำเนินการให้เรียบร้อย หรือแม้แต่ในกรณีที่มีการจดแจ้งการพิมพ์แล้วก็จะต้องตรวจสอบเนื้อหาและภาพใน สิ่งพิมพ์ต่างๆ ด้วย โดยต้องไม่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงหรือจาบจ้วงสถาบัน และหากพบจะถือเป็นความผิดอาญาให้ดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ทั้งนี้ในเบื้องต้นผมได้รับรายงานว่ามีสื่อสิ่งพิมพ์จำนวนมากที่ยังดำเนิน การไม่ถูกต้อง ซึ่งภายหลังจากมีการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ทางสำนักหอสมุดแห่งชาติจะได้รายงานจำนวนที่แน่นอนมาให้ผมรับทราบต่อไป” รมว.วธ. กล่าว
 

ที่มาของข่าวบางส่วนจาก เนชั่นทันข่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net