Skip to main content
sharethis

ก.ต่างประเทศ แจงจุฬาราชมนตรีไม่ไปพิธีฮัจญ์เหตุเพราะขอวีซ่ากระชั้นชิด นายกฯ ตรวจสอบซาอุฯงดรับวีซ่าจุฬาราชมนตรี พท.จวกรัฐดันทุรังตั้ง "สมคิด" กระทบสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 53 ที่ผ่านมา นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องการขอวีซ่าเพื่อไปร่วมทำอุมเราะห์ในช่วงเดือนรอมฎอนของจุฬาราชมนตรีว่า เท่าที่ทราบสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทยได้รีบประสานเรื่องการยื่นขอวีซ่าของท่านจุฬาราชมนตรี  และกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียก็อนุมัติวีซ่าให้แต่ติดเรื่องการ ประสานงานซึ่งเป็นช่วงวันหยุดทั้งของไทยและซาอุดีอาระเบีย จึงทำให้ท่านจุฬาราชมนตรีได้รับแจ้งในเวลาค่อนข้างกระชั้นชิดและเนื่องจากท่านติดภารกิจที่กรุงเทพฯจึงตัดสินใจไม่เดินทางไป

"ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาการที่คนไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ซาอุดีอาระเบียก็ราบรื่นมาโดยตลอดแม้ว่าในบางช่วงความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดี อาระเบียจะสะดุดไปบ้าง เพราะการอำนวยความสะดวกในเรื่องการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ฝ่ายซาอุดีอาระเบียเขาจะแยกจากประเด็นการเมือง" นายธานี กล่าว

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่สโมมสรทหารบก ถนนวิภาวดี-รังสิตว่าตนจะตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของเดือนรอมฎอน

พท.จวกรัฐดันทุรังตั้ง"สมคิด"กระทบสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย  แถลงว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านงานต่างประเทศของพรรค ต่างแสดงความกังวลว่า วันนี้รัฐบาลนำประเทศไทยไปเปิดศึกรอบด้านมากเกินไปความเสี่ยงสูงแล้ว ที่สำคัญกรณีประเทศ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา กรณีวิคเตอร์บูท ก็ยังไม่จางชนิดความวัวไม่หายความควายเข้ามาแทรกแต่เดินหน้าแต่งตั้งพลตำรวจ โทสมคิด บุญถนอม มาเป็น ผู้ช่วยผบ.ตร ก็ยิ่งไปกันใหญ่ พรรคเชื่อว่าวันนี้รัฐบาลยังไม่ควรเร่งรีบนักเพราน่าจะรู้ทั้งรู้ว่า การด่วนตั้งพลตำรวจโทสมคิด นั้นอาจจะกระทบความสัมพันธ์ของประเทศไทยกับซาอุดิอาระเบียที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ให้หนักข้อขึ้นไปอีกแต่รัฐบาลนี้กลับกล้า เลือกที่จะทำ

ทั้งนี้ไม่ทราบว่าพลตำรวจโทสมคิด มีบุญคุณอะไรกับรัฐบาลมากนักที่จะต้องเร่งตอบแทนทั้ง ๆ ที่สามารถรอซักนิดให้เรื่องคลี่คลายหรือผ่านกระบวนการตัดสินคดีให้เรียบร้อย ก่อนได้ หรือเป็นเพราะวันนี้รัฐบาลเลือกผลประโยชน์ของตนเองแบบอุ้ม มากกว่าผลประโยชน์ของประเทศกับตำรวจคนหนึ่งซึ่งยังมีเวลาอีกมากพอที่จะปูน บำเหน็จให้ และหากรัฐบาลยึดกฎหมาย ตามมาตรา 95 พรบ.ข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547 นั้นก็ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลสามารถชะลอการตั้งหรือนำเรื่องเข้ากตร.ให้พิจารณาได้แต่กลับเลือกเอา คน 1 คนไปแลกกับคน 65 ล้านคนในความเสี่ยงระหว่างประเทศ

วันนี้พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ประเทศไทย คือประชาชนคนไทยกว่า 65 ล้านคน ที่กำลังถูกรัฐบาลทำตัวเป็น “ฑูตสงคราม”เจรจาเปิดศึกรอบด้านชนิดถึงขั้นอันตรายแบบขีดสุดไช่หรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นศึกนอกศึกใน อย่าง กัมพูชา ลาว มาเลเซีย และประเทศในอาเซียน เลยเถิดไปถึง อเมริกา รัสเซีย หากวันนี้รัฐบาลมีรัฐมนตรีต่างประเทศ แต่งานอาจไม่เข้าตาประชาชนนั้นก็ขอให้อยู่นิ่ง ๆ บ้าง อย่าเปิดศึกรอบบ้านมากนัก วันนี้รัฐบาลลองถามกระทรวงแรงงานว่ามีคนงานไทยไปทำงานที่ซาอุฯปีละกี่หมื่น กี่แสนคน นักท่องเที่ยวรัสเซียมาเที่ยวไทยเท่าไร นำเงินเข้าประเทศมาให้รัฐบาลถลุงปีละเท่าไร ที่สำคัญพรรคยังได้รับความคิดเห็นของพี่น้องมุสลิมผ่านสาขาพรรคในภาคใต้ว่า หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไขความสัมพันธ์กับซาอุฯ จะส่งผลต่อการขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศของพี่น้อง ชาวไทยมุสลิมจำนวนมากที่จะเดินทาง ไปประกอบพิธีฮัจในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน รวมทั้งจุฬาราชมนตรี ที่ถูกรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ตอบว่า โรงแรมเต็ม ไม่มีโควตาสำหรับเดินทาง รัฐบาลต้องตอบว่า ซาอุดิอาระเบียให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างไร

นอกจากนี้พรรคเชื่อว่าปัญหาทั้งหมดนับตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้บริหารมานั้น รัฐบาลไม่ควรบริหารงานแบบสะใจ ไม่เห็นหัวใครหรือทำเพียงเพื่อรักษาเก้าอี้เพียงอย่างเดียว เพราะปัญหาการค้าชายแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านวันนี้ มีปัญหาที่ต้องแก้ไขแบบด่วนที่สุด รัฐบาลได้สนใจดำเนินการแก้ไขแล้วหรือยังอย่างกรณี ชายแดนไทย-พม่าวันนี้ พม่าปิดด่านฝั่งตะวันตกและด้านเหนือของไทยมากี่วันแล้วทำให้สูญเสียการค้า ที่ได้เปรียบดุลการค้าอย่างมากไปแล้วเท่าใดรัฐบาลรู้สึกหรือไม่ รัฐมนตรีต่างประเทศนั่งตีขิม อยู่หรืออย่างไร

นอกจากนี้ด้วยธรรมเนียมประเพณี ทางการทูตในฐานะที่ไทยสง่างามในเวทีอาเซียนนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯมา 2 ปี เดินทางไปเยือนประเทศในอาเซียนครบหรือไม่ และวันนี้ความสัมพันธ์ของประเทศ ไทยกับ พม่าเป็นอย่างไร คำที่ว่ารัฐบาล พม่า ไม่พร้อมที่จะต้อนรับไทย นั้น ความหมายคืออะไรวันนี้เราเชื่อว่ารัฐบาลพม่าอาจไม่ได้แสดงอาการเกลียดรัฐบาล ไทย แต่เราเชื่อว่ารัฐบาลพม่าที่ปฎิเสธการเยือนของนายกฯไทยคงเป็นเพราะอาจจะ รังเกียจรัฐบาลชุดนี้ก็เป็นได้ และที่สำคัญพรรคเพื่อไทยรู้สึกเสียดายงบประมาณในการเดินทางไปงาน เอ็กซ์โป ที่นครเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน ของนายอภิสิทธิ์ นอกจากการไปเดินชมงานใส่แว่นดำทำเท่ห์ตามที่เป็นข่าวแล้วได้เจริญความสำ พันธ์ทางการทูตระดับชาติกับจีนอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้มาตรา 95 พระราชบัญญัติข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2547 ระบุว่า ข้าราชการตำรวจผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้ง กรรมการสอบสวน หรือ ต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาหรือถูกฟ้องคดีอาญา เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ผู้มีอำนาจตามมาตรา 72 หรือผู้บังคับบัญชาอื่นตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร. มีอำนาจสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัยได้ แต่ถ้าภายหลังปรากฏผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัยว่าผู้นั้นมิได้กระทำผิดหรือ กระทำผิดไม่ถึงกับถูกลงโทษปลดออกหรือไล่ออก และไม่มีกรณีที่จะต้องออกจากราชการด้วยเหตุอื่น ก็ให้ผู้มีอำนาจดังกล่าวสั่งให้ผู้นั้นกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งเดิมหรือ ตำแหน่งในระดับเดียวกันที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับ ตำแหน่งนั้น

เมื่อได้มีการสั่งให้ข้าราชการตำรวจผู้ใดพักราชการหรือออกจากราชการไว้ ก่อนตามวรรคหนึ่งแล้ว หากภายหลังปรากฏว่าผู้นั้นมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงใน กรณีอื่นอีก ผู้มีอำนาจตามมาตรา 72 หรือผู้บังคับบัญชาอื่นตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร. มีอำนาจดำเนินการสืบสวนหรือพิจารณาตามมาตรา 84 และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 86 ตลอดจนดำเนินการทางวินัยตามที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้ต่อไปได้ ในกรณีที่ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้รับคำสั่งให้กลับเข้ารับ ราชการหรือได้รับคำสั่งให้ออกจากราชการด้วยเหตุใด ๆ ที่มิใช่เป็นการลงโทษ ให้ผู้นั้นมีสถานภาพเป็นข้าราชการตำรวจตลอดระยะเวลาระหว่างที่ถูกสั่งให้ออก จากราชการไว้ก่อน เงินเดือน เงินอื่นที่จ่ายเป็นรายเดือน และเงินช่วยเหลืออย่างอื่น และการจ่ายเงินดังกล่าวของผู้ถูกสั่งพักราชการและผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการ ไว้ก่อน ให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบว่าด้วยการนั้น หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งพักราชการ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระยะเวลาให้พักราชการและให้ออกจากราชการไว้ก่อน และการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามผลการสอบสวนพิจารณาให้เป็นไปตามที่กำหนดใน กฎ ก.ตร.

ที่มาข่าว:

แจงจุฬาราชมนตรีขอวีซ่ากระชั้นชิดเหตุไม่ไปฮัจญ์ (คมชัดลึก, 11-9-2553)
http://www.komchadluek.net/detail/20100911/72915/แจงจุฬาราชมนตรีขอวีซ่ากระชั้นชิดเหตุไม่ไปฮัจญ์.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net