Skip to main content
sharethis

ลือ ตานฉ่วยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อคืนที่ผ่านมา

แหล่งข่าวในเนปีดอว์รายงานว่า นายพลอาวุโสตานฉ่วย ผู้นำหมายเลข 1 ของรัฐบาลพม่า ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในกรุงย่างกุ้งเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อคืนวันพุธ (4 ส.ค.53) ที่ผ่านมา แต่ไม่มีรายงานชัดเจนว่าป่วยด้วยสาเหตุใด

ทั้งนี้ มีรายงานว่า  ผู้นำพม่าวัย 77 รายนี้พบว่ามีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนานาชาติ พันหล่าย ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงย่างกุ้งเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่แหล่งข่าวรายงานว่า นายพลอาวุโสตานฉ่วยเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลแห่งนี้เพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น และคาดว่าน่าจะออกจากโรงพยาบาลแล้วในเช้าวันนี้

ด้านพระสงฆ์ชาวพม่าในอินเดียระบุว่า จากที่ได้พบปะกับนายพลอาวุโสตานฉ่วยที่เยือนอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดว่า ตานฉ่วยกำลังเผชิญกับปัญหาทางด้านสุขภาพ

เดือนธันวาคม ปี 2550 ที่ผ่านมา นายพลอาวุโสตานฉ่วยเคยเดินทางไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลในสิงคโปร์นาน 2 อาทิตย์ โดยแหล่งข่าวรายงานว่า ผู้นำรัฐบาลพม่าได้เข้ารักษามะเร็งลำไส้เล็ก แต่มีรายงานในครั้งนั้นว่า ตานฉ่วยปฏิเสธที่จะเข้ารับการผ่าตัดจากแพทย์ ซึ่งแหล่งข่าวเชื่อว่า ตานฉ่วยจะเดินทางไปรักษาตัวที่สิงคโปร์อีก หากอาการป่วยยังไม่ดีขึ้น

(ที่มา Irrawaddy 4 ส.ค.53)


พบ HIV ในรัฐคะฉิ่นมีอัตรา 16 เท่าของค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ

กลุ่ม NGO เปิดเผยว่า การแพร่เชื้อ HIV มีอัตราเพิ่มขึ้นในเขตควบคุมของกลุ่มหยุดยิงในตอนเหนือของรัฐคะฉิ่น โดยมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นกว่า 16 เท่าจากค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลถึงการระบาดของโรคเอดส์ในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือและแก้ไขอย่างเร่งด่วน

นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 รัฐบาลทหารพม่าได้ปฏิเสธหน่วยงานด้านสุขภาพเข้ามาในเขตพื้นที่ที่มีการระบาด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ป้องกันการเพิ่มขึ้นโรคเอดส์ และในปีนี้แผนการช่วยเหลือดังกล่าวก็ถูกระงับ

ขณะที่กลุ่ม NGO ในพื้นที่ได้ทำการสำรวจอัตราการติดเชื้อไวรัส HIV ในสองพื้นที่เขตปกครองพิเศษในรัฐคะฉิ่นเป็นระยะเวลานาน 3 เดือน พบว่า 11 % ของประชากรในพื้นที่ทั้งหมดติดเชื้อเอชไอวี

จากรายงาน สำรวจขององค์การอนามัยโลก ในปีพ.ศ.2550 ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของการติดเชื้อเอชไอวีทั้งประเทศ อยู่ในอัตรา 0.67% หรือ 240,000 คน ของจำนวนประชากรทั้งหมด 

อย่างไรก็ตาม การสำรวจในเขตปกครองพิเศษแห่งที่หนึ่ง อย่างในเมืองปั่งหว่า ก่ำไปตี และ ซีปวย (Panwa, Kanpitete, Chibway) ซึ่งควบคุมโดย กองทัพประชาธิปไตยก้าวหน้าคะฉิ่น และเขตปกครองพิเศษแห่งที่สองในเมือง ไลส่า และไมจายัง (Laiza, Maijayan) ในเขตควบคุมขององค์กรคะฉิ่นอิสระ (KIO - Kachin Independence Organization) กลับพบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้น 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ KIO ที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า “ผลการสำรวจระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งกลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรฐานระบบสุขภาพในพื้นที่ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 15-35 ปี เฉพาะในพื้นที่ของเรามีคนเป็นโรคเอดส์แล้วกว่า 500 คน”

เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวว่า หลังแผนการช่วยเหลือโดยตรงจากภาคNGO เพื่อหยุดการแพร่เชื้อถูกสั่งระงับในปีนี้ ในขณะที่องค์กรด้านสุขภาพกลุ่มต่างๆ ถูกรัฐบาลพม่าเข้มงวดไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ ยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น

เจ้าหน้าที่อีกคนของ KIO กล่าวอีกว่า “KIO เป็นองค์กรด้านการปฏิวัติ ดังนั้นเราจึงไม่มีงบประมาณพอที่จะจัดการกับปัญหาโรคเอดส์ มันจะดีถ้าหากองค์กร AZG (Artsen Zonder Grenzen องค์กรแพทย์ไร้พรมแดนจากประเทศเนเธอร์แลนด์) สามารถช่วยคนในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ แต่ความช่วยเหลือก็ยังไม่เพียงพอ มากไปกว่านั้นรัฐบาลทหารก็ไม่อนุญาตให้ NGO กลุ่มไหนเข้าไปพื้นที่ นอกจากนี้ ในพื้นที่ก็กำลังประสบกับปัญหายาเสพติด” เจ้าหน้าที่อีกคนกล่าว 

ในปี พ.ศ.2551 องค์กร AZG ได้พยายามจะเข้าไปในเมืองไลซา ซึ่งอยู่ในเขตของ KIO เพื่อดำเนินการโครงการป้องกันการแพร่ของโรคเอดส์ แต่กลับถูกปฏิเสธและห้ามดำเนินการจากนายพลอูมิ้น อดีตผู้บังคับบัญชาภาคเหนือ

ด้านเจ้าหน้าที่ NGO ในพื้นที่กล่าวว่า “ถ้าหากเราลดความพยายามลง สถานการณ์ของโรคก็จะกลายเป็นว่าเลวร้ายมากขึ้น และสถานการณ์ในขณะนี้เรียกร้องให้เราต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อให้ความรู้กับชาวบ้านในพื้นที่”

อดีตประธาน KIO นาย บลัน เซียง (Bran Saing) ได้ออกมาประกาศว่า หนึ่งในเหตุผลที่ KIO ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลทหารพม่า เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ที่ส่งผลกระทบหนักในพื้นที่

“เราไม่มีหมอและผู้ที่มีความรู้เรื่องสุขอนามัยเพียงพอ แม้กระทั่งการต่อสู้กับโรคเอดส์ เราก็ทำไม่สำเร็จ” เจ้าหน้าที่ KIO กล่าว

(ที่มา : Mizzima by Phanida 4 สิงหาคม 2553)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net