Skip to main content
sharethis

กก.ติดตามสถานการณ์วุฒิฯ ค้าน ศอฉ.เตรียมเผยแพร่ซีดีชี้แจงปฏิบัติการณ์ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ด้าน “ผช.เสธ.ทบ.” อ้างเนื้อหาซีดีนำภาพจากสื่อนอก ปัดฝ่ายการเมืองตัดสินใจกระชับพื้นที่สวนลุม ส.ว.จี้ กองทัพแจงจำนวนพลสไนเปอร์-กระสุนยางหมดอายุ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ส.ค.53 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา โดยมีนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ประธานคณะกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม เชิญนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้าชี้แจงถึงการปฏิบัติการณ์ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายสุเทพ มอบหมายให้ พล.ท.อักษรา เกิดผล ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ หัวหน้าส่วนยุทธการ ศอฉ.และนายสมเกียรติ ศรีประเสริฐ รักษาการผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงระหว่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าชี้แจงแทน 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงแรก ผู้มาชี้แจงเปิดซีดีภาพเคลื่อนไหวประกอบเสียงบรรยายความยาวประมาณ 20 นาที โดยระบุว่า เป็นซีดีที่ ศอฉ.เตรียมจะนำออกอากาศเพื่อชี้แจงสาธารณะ ทั้งนี้ ในเนื้อหาของซีดีมีการเล่าเรื่องความเป็นมาของเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เน้นการนำเสนอว่า ฝ่ายรัฐได้เจรจากับผู้ชุมนุมแล้ว ตัดสลับกับภาพชายชุดดำในหมู่คนเสื้อแดงถืออาวุธไปมา ภาพชายชุดดำยิงทหาร ทั้งนี้ภาพที่นำมาเรียงต่อกันเป็นภาพจากหลากหลายช่วงการชุมนุม ประกอบเสียงบรรยายที่ระบุถึงความจำเป็นที่ศอฉ.ต้องดำเนินการใช้กำลังเข้าไปปฏิบัติการณ์ 
 
จากนั้นได้เปิดให้ที่ประชุมซักถาม โดยกรรมการหลายคน คัดค้านการเผยแพร่ซีดีดังกล่าวสู่สาธารณะเพราะเนื้อหาเป็นข้อมูลด้านเดียว ยิ่งสร้างความเกลียดชัง ไม่ทำให้ประชาชนเข้าใจเหตุการณ์อย่างรอบด้าน อาทิ นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตอนนี้จับชายชุดดำได้กี่คน มีผู้ก่อการร้ายเท่าไหร่ ศอฉ.อย่าคลุมเครือ เพราะศอฉ.ประกอบด้วยนักการเมืองรวมกับกองทัพ ตอนนี้คนที่ไม่เชื่อรัฐบาลและ ศอฉ.ไปแล้วก็ยิ่งไม่เชื่อ ทำแบบนี้จะยิ่งสร้างความเกลียดชัง ส่วนคนที่หนุนรัฐบาลก็ยิ่งกดดันให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนเสื้อแดงได้
 
นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง กล่าวว่า ก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม ศอฉ.ประเมินหรือไม่ว่า ถ้าใช้กำลังจะมีคนตายและตายเท่าไหร่ ทั้งนี้หลังวันที่ 19 พฤษภาคม พบว่า ผู้เสียชีวิต 90 กว่าราย โดนยิงหัว 30-40 คน ศอฉ.ได้ประเมินหรือไม่ เพราะต่อไป ถ้ามีการชุมนุมประท้วง แล้วฝ่ายรัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็จะมีคนตายแบบนี้อีก รัฐจึงต้องระวังการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ให้มากที่สุด
 
นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ก่อนรัฐบาลจะสั่งกองทัพปฏิบัติการณ์ มีข่าวออกมาว่า มีการประเมินใน ศอฉ.ว่า ตาย 500 ไม่เป็นไร เรื่องนี้จริงหรือไม่ นอกจากนี้ ตอนเย็นวันที่ 18 พฤษภาคม มีตัวแทน ส.ว.ไปเจรจากับแกนนำ นปช.แต่ตอนนั้น ส.ว.ที่เข้าไปเจรจาก็ทราบแล้วว่า มีการเคลื่อนกำลัง ทำไมไม่นำข้อมูลตรงนี้ไปประเมินด้วยก่อนที่จะเข้าปฏิบัติการณ์ที่นำมาซึ่งความสูญเสีย หรือรัฐบาลได้ตัดสินใจไปก่อนที่ ส.ว.จะเป็นคนกลางไปเจรจาแล้ว 
 
ด้าน พล.ท.อักษรา ชี้แจงว่า ศอฉ.ประกอบด้วยหน่วยงานหลายส่วน ซึ่งส่วนของกองทัพก็ได้ดำเนินการในกรอบกฎหมาย และพยายามหามาตรการต่างๆที่จะไม่ใช่ความรุนแรง หลีกเลี่ยงความสูญเสีย ยืนยันว่า ได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว ส่วนซีดีที่ทำขึ้นมา เป็นการการนำเหตุการณ์ต่างๆ มาเชื่อมโยงจากการประเมินร่วมกับทุกหน่วย ทั้งผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ฝ่ายกฎหมาย หน่วยงานด้านการข่าว หน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งภาพส่วนใหญ่ที่ได้ มาจากสื่อต่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นกลาง ซีดีดังกล่าวพยายามจะบอกว่า ศอฉ.มองแบบนี้ โดยเอาหลักฐานที่มีมาเรียบเรียงตามสมมติฐาน ซึ่งถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ผิดถูกอย่างไรก็ให้ว่ามา ส่วนเรื่องชายชุดดำเป็นใครนั้น สมช.กำลังพิสูจน์อยู่เพราะมีปืนทราโว่หายไป 24 กระบอก โดยกำลังขยายพลหลังจากที่จับกุมนายเมธี อมรวุฒิกุล ดารานักแสดง ที่มีปืนทราโว่ในรถ 1 กระบอก
 
พล.ท.อักษรา กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติการณ์ใช้กำลังใดๆ ศอฉ.ประเมินทุกครั้ง จึงไม่เข้าไปที่ราชประสงค์ แต่เพียงขยับแนวเข้ามากระชับพื้นที่รอบสวนลุมพินี เพราะก่อนหน้านั้นมีเหตุอาวุธสงครามบริเวณแยกศาลาแดง สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง โรงแรมดุสิต ในสวนลุมพินีก็มืดลึกลับ สถานทูตแถวนั้นก็ร้องเรียนมาด้วย ศอฉ.ตัดสินใจสั่งการใช้เจ้าหน้าที่กระชับเข้าไป หลังปฏิบัติการณ์ก็พยายามคุมความเสียหาย แต่พอมีการเผาบริเวณพื้นที่ชุมนุม ศอฉ.ก็เปิดสนามศุภฯ เป็นสถานที่รอส่งคนกลับภูมิลำเนา แต่ผู้ชุมนุมก็ไม่ออกมาแต่กลับไปรวมตัวที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งพื้นที่นั้น ไม่อยู่ในแผนปฏิบัติการณ์ แต่ ศอฉ.ก็พยายามสื่อสารเข้าไป ซึ่งผู้ชุมนุมที่นั่นก็รับข่าวสาร แต่สมัครใจอยู่ต่อ เพราะกลัว ซึ่งที่มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ ต้องรอผลการชันสูตจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์นอกจากนี้ พอเกิดเพลิงไหม้หลายพื้นที่ เจ้าของก็ขอให้ ศอฉ.ช่วย แต่เมื่อกทม.ส่งรถดับเพลิงเข้าไปก็ถูกยิงจากกำลังไม่ทราบฝ่าย แม้แต่ เซนเตอร์วัน อนุสาวรีชัยสมรภูมิ ใช้ตำรวจสามกองร้อยคุ้มครองเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ก็ยังเข้าไปไม่ได้ ยืนยันว่า ได้ประเมินทุกขั้นและหยุดทบทวนการปฏิบัติทุกขั้น ทั้งนี้เมื่อมีการสูญเสีย ทหารไม่สบายใจ เพราะเป็นรั้วของชาติ และเมื่อมารักษาความสงบภายในประเทศ ก็ตระหนักว่า ทุกคนไม่ว่าใครเป็นประชาชนคนไทย
 
“ทหารไม่อยากใช้กำลัง แต่ขึ้นกับฝ่ายการเมืองจะตัดสินใจ ซึ่งที่ทำบริเวณศาลาแดง เพราะบริเวณนี้มีแกนนำเช่น นายพายัพ ปั้นเกตุ หรือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ซึ่งเป็นสายฮาร์ดคอร์ และไม่รู้ว่า เวทีใหญ่คุมแกนนำสายนี้ได้หรือไม่ และบริเวณแถวนี้มีใช้ความรุนแรงก่อนหน้านี้แล้วจนคนสีลมต้องใช้กำลังออกมาตอบโต้ ซึ่งกองทัพได้พยายามป้องกันการเผชิญหน้ากันหลายรอบแล้ว เหตุแถวสวนลุมพินี เสื้อแดงก็ปฏิเสธตลอด แต่เมื่อวัดวิถีแล้ว มาจากฝั่งที่มีคนเสื้อแดง” พล.ท.อักษรา กล่าว 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการชี้แจง กรรมการหลายคนไม่ค่อยพอใจ และตำหนิการจัดทำซีดีชุดดังกล่าว อาทิ พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ว.อุดรธานี กล่าวว่า อย่าไปเถียงเลยใครยิงก่อนยิงหลัง เพราะผู้สั่งการใช้กำลังไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และตอนนั้นชุลมุน ทหารเข้าไปเกรงว่ามีอันตราย โดยสัญชาตญาณก็อาจยิงก่อนได้ อีกฝ่ายก็ยิงได้ ฉะนั้นอย่าพูดมาก ให้พนักงานสอบสวนทำ ยิ่งพูดยิ่งต่อความยาวสาวความยืด ซีดีดังกล่าว ตนเห็นว่า จะสร้างความเกลียดชังในสังคมมากขึ้น
 
ส่วน ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ข้อมูลการแพทย์หลายหน่วยงาน และดีเอสไอก็มี ทำไม ศอฉ.ชอบบอกว่า ข้อมูลไม่ครบถ้วน ตนคิดว่า ฝ่ายรัฐอยากปิดเป็นความลับมากกว่า ไอโม่งชุดดำจมูกโด่งที่หนังสือพิมพ์ลงข่าว คือใคร ทำไมยังไปทำบุญให้ผู้เสียชีวิตหลังเหตุการณ์ได้อยู่ ซีดีนี้ ฉายภาพที่ไปกล่าวหาคนเสื้อแดงทั้งหมด ซึ่งไม่สมควรมาก แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่า มีแกนนำคนเสื้อแดงบางคนที่นิยมความรุนแรงจริง เช่น แกนนำที่เป็นนักร้องที่พูดบนเวทีว่า ให้ถือน้ำมันไปที่ศาลากลางจังหวัดหากทหารทำร้ายประชาชน และมีกรณีที่คนมาชุมนุมแล้วเสียชีวิตจะได้เงิน 1 แสน หรือผู้ชุมนุมที่ขับรถกลับบ้านแล้วประสบอุบัติเหตุ ก็มีคนเอาเงินไปให้ ข้อมูลเหล่านี้ก็ละเลยไม่ได้เช่นกัน
 
นายไชยา ยิ้มวิไล กรรมการ กล่าวว่า ที่มีเหตุใช้อาวุธ หรือมีระเบิดไม่ว่าในช่วงการชุมนุม หรือตอนนี้ ไม่เป็นธรรมที่จะผูกโยงไปที่ เสธ.แดงทุกเรื่อง และเห็นว่า อย่าออกซีดีนี้เด็ดขาด เพราะชี้นิ้วตัดสินไปที่คนเสื้อแดงอย่างเดียว ซึ่งไม่ยุติธรรม
 
พล.ต.อ.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ไม่ควรนำซีดีนี้ออกอากาศ เพราะเอาเข้าจริงแล้ว ภาพถือปืนสไนเปอร์ กองทัพรู้ดีที่สุดว่า ใครมีศักยภาพยิงได้บ้าง ซึ่งมีไม่กี่คนต่อแต่ละหนึ่งหน่วยทหาร ถ้าจะไปกล่าวหาคนเสื้อแดง ตนคิดว่า คนเสื้อแดงไม่มีศักยภาพเพียงพอ หรืออาจมีแค่บางคนที่ไปฝึกมา แต่ตนคิดว่า ตั้งแต่กรณี 10 เมษายน แล้ว ทำไมทหารก็รู้ว่าค่ำมืด ใช้กำลังเข้าไปปฏิบัติการณ์ไม่ได้ แต่ก็ยังเข้าทำ ส่วนพล.อ.อ.อาคม กาญจนหิรัญ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า อาวุธในการควบคุมการชุมนุมต้องทันต่อสถานการณ์ ตนสงสัยว่า การใช้กระสุนยาง ตกลงแล้วมีคนเสียชีวิตหรือไม่ เพราะไม่มีใครพูดถึงเลย ตอนปี 48 มีเหตุการณ์ที่ กองทัพจะใช้กระสุนยาง แต่พบว่า ยางเสื่อม ยางจึงแข็ง ถ้ายิงโดนคงเสียชีวิต ตอนนั้นกองทัพจึงจะจัดหาใหม่ อย่างไรก็ดี ขอร้องว่า อย่าไปกล่าวหาทหารว่าฆ่าประชาชน เพราะคนสั่งการคือรัฐบาล 
 
ด้าน พล.ท.อักษรา ชี้แจงว่า ในเวลากลางคืน จะไม่มีการใช้กำลังปฏิบัติการณ์อยู่แล้ว และกรณี 10 เมษายน ได้วิทยุสั่งการแล้ว แต่เหตุการณ์วันนั้นมันต่อเนื่อง การจะเอากำลังเข้ามาก็ต้องให้พร้อมเพื่อมั่นใจ จึงเริ่มปฏิบัติการณ์ตอนบ่าย ส่วนกรณีสาเหตุการตายทั้งหมดในเดือนเมษายน-พฤษภาคม กำลังรวบรวมสาเหตุอยู่ และจะส่งเอกสารมาให้ 
 
จากนั้น นายจิตติพจน์ กล่าวสรุปว่า ที่ประชุมมีมติว่า ศอฉ.ไม่ควรนำซีดีไปเผยแพร่ เพราะเป็นข้อมูลด้านเดียว แต่ต้องให้มีข้อเท็จจริงจากหลายฝ่าย ไม่เช่นนั้นจะยิ่งปลุกปั่นสร้างความเกลียดชัง นอกจากนี้ ขอเสนอให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้เร็วที่สุด ซึ่งนายสมเกียรติ ศรีประเสริฐ รักษาการผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงระหว่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า จะนำข้อเสนอของ ส.ว.หารือใน ศอฉ.เพื่อยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในทุกจังหวัดให้เร็วที่สุด
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net