Skip to main content
sharethis

สมัชชาคนจนแถลงเรียกร้องให้ตรวจสอบวินัยผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เนื่องจากออกหนังสือถึงหน่วยราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในจังหวัดแพร่ให้สนับสนุนการสร้างเขื่อนแก่งเสื้อเต้น แฉบังคับนักเรียนลงชื่อเรียกร้องสร้างเขื่อน

โดยสมัชชาคนจนเรียกร้องให้รัฐยุติโครงการดังกล่าวเนื่องจากส่งผลกระทบต่อป่าสักทองผืนใหญ่ของประเทศด้วย

แถลงการณ์

ยืนยันคัดค้านเขื่อนแก่งเสือเต้น และ ให้ตรวจสอบวินัยผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่

จากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในจังหวัดแพร่ ให้สนับสนุนการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยให้รวบรวมรายชื่อและระดมคนออกมาเรียกร้องเขื่อนแก่งเสือเต้นใน วันที่ 16 กรกฎาคม 2553 ที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ ซึ่งแม้แต่เด็กนักเรียนยังถูกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแพร่เขต 1 บังคับให้ลงชื่อเรียกร้องเขื่อนอย่างน่าละอายด้วยนั้น

โครงการเขื่อน แก่งเสือเต้นเป็นโครงการที่ได้เคยมีการศึกษาทั้งในและนอกประเทศ ที่น่าเชื่อถือหลายสถาบันระบุถึงความไม่เหมาะสมของโครงการทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์ และนิเวศวิทยา

นอกจากนี้ชาวบ้านสะเอียบ จ.แพร่ ชาวเชียงม่วน จ.พะเยา ได้ร่วมกับสมัชชาคนจน ประชาชนและนักวิชาการเพื่อปกป้องป่าสักทองอันทรงคุณค่าและเหลืออ ยู่น้อยเต็มที มากว่า 20 ปี จนกระทั่งรัฐบาลสมัยนายกฯ ชวลิต มีมติ ครม. 29 เมษายน 2540 ให้ชะลอโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น รวมทั้งเขื่อนที่ยังไม่สร้าง 4 เขื่อนตามข้อตกลงกับสมัชชาคนจน

แต่เมื่อไม่นานนี้กลับมีความเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่เกิดขึ้น โดยมีความพยายามปลุกกระแสการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยอ้างสถานการณ์ความแห้งแล้งในเขตภาคเหนือตอนล่าง ทั้งที่ผลการศึกษาจำนวนมากบ่งชี้ว่าเขื่อนแก่งเสือเต้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งและน้ำท่วมในลุ่มน้ำยมอย่างมีประสิทธิภาพ

กรณีความขัดแย้งครั้งใหม่นี้ ถูกจุดชนวนโดยผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ที่เป็นข้าราชการระดับสูง ที่ถูกเรียกว่า “พ่อเมือง” แต่กลับมีพฤติกรรมสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ซึ่งควรเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลในการสอดส่องดูแลการกระทำอันจะก่อให้เกิดความขัดแย้งและทำลายทรัพยากรของชาติ

สมัชชาคนจนมี ข้อเสนอต่อรัฐบาลดังนี้
1.โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น เป็นโครงการที่จะทำลายผืนป่าสักทองธรรมชาติขนาดใหญ่อันทรงคุณค่าของโลก และทำลายวิถีชีวิตอันปกติสุขของประชาชนกว่า 3,000 ครัวเรือน เพื่อแลกกับการแก้ปัญหาความแห้งแล้งและน้ำท่วมที่ไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้นรัฐบาลต้องยกเลิกโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นทันที เพื่อยุติโครงการอัปยศนี้มิให้ก่อปัญหาต่อประเทศชาติต่อไป

2.ให้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบทางวินัยต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ในกรณีมีคำสั่งให้ลงชื่อและระดมคนเพื่อสนับสนุนเขื่อน แก่งเสือเต้น ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน

สมัชชาคนจนและ เครือข่าย ยืนยันจะคัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นอย่างถึงที่สุดและพร้อม ที่จะเคลื่อนไหวสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเพื่อปกป้องทรัพยากรอัน ทรงคุณค่าของโลกและวิถีชีวิตอันปกติสุขของประชาชนต่อไป

ประชาชนต้องกำหนด อนาคตตนเอ
สมัชชาคนจน
16 กรกฎาคม 2553

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โดยนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการ ครป. ออกแถลงการณ์ระบุการกระทำของผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ที่ให้มีการล่ารายชื่อสนับสนุนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้นไม่เหมาะสม ยืนยันพร้อมสนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวบ้าน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ที่ได้ใช้สิทธิชุมชนในการปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของชาติ อันเป็นการปฏิรูปการเมืองทางตรงของภาคประชาชนจนถึงที่สุด

 

 

แถลงการณ์คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย
กรณีนักการเมืองและผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสั่งสถานศึกษาล่ารายชื่อหนุนเขื่อนแก่งเสือเต้น

นับจากพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อสารมวลชนหลายสำนัก ว่าจะเร่งสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จังหวัดแพร่ ให้ได้ในสมัยที่ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรีนี้ โดยล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้มีบัญชาการให้ส่วนราชการ หน่วยงาน สถานศึกษา สำรวจความต้องการสนับสนุนให้สร้างแก่งเสือเต้น เพื่อรวบรวมข้อมูลตามต้องการเสนอรัฐบาล อันมาซึ่งการคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการในพื้นที่นั้น ครป.ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้องต่อกรณีดังกล่าว ดังนี้

1.เราเห็นว่า พฤติกรรมรับใช้นักการเมืองของนายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ที่สั่งระดมรายชื่อครูอาจารย์ นักเรียนและบุคลากรในสถานศึกษาที่ให้สนับสนุนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น น่าจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งเป็นการละเมิดต่อหลักสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตามมาตรา 66, 67 แห่งรัฐธรรมนูญ ปี 2550 และไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ.2551 มาตรา 78 ที่กำหนดว่า

“ข้าราชการพลเรือนสามัญต้องรักษาจรรยาข้าราชการตามที่ส่วนราชการกำหนดไว้ โดยมุ่งประสงค์ให้เป็นข้าราชการที่ดี มีเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นข้าราชการ โดยเฉพาะในเรื่อง ดังต่อไปนี้ (1) การยึดมั่นและยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง (2) ความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบ (3) การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ (4) การปฏิบัติหน้าที่โดยไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม (5) การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน”

2.เราเห็นว่า พฤติกรรมที่ไม่ปฏิบัติกฎหมายดังกล่าวของผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นการสร้างแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนที่ข้าราชการเลือกปฏิบัติต่อชาวบ้านด้วยการหลอกลวงเด็กนักเรียนสถานศึกษาซึ่งไม่มีข้อมูล ไม่รู้ปัญหาผลกระทบและความเป็นมาของการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่นักการเมืองทุกยุคทุกสมัยและข้าราชาการบางคน หวังผลประโยชน์จากงบประมาณของแผ่นดินการกระทำของผู้ว่าราชการดังกล่าวยิ่งจะตอกย้ำในการสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยให้ร้าวลึกลงในแผ่นดิน แม้นรัฐบาลจะหาทางปรองดองอย่างไร ก็ไม่อาจเยียวยาได้

3.เราเรียกร้องให้รัฐบาล โดยกระทรวงมหาดไทย ได้แต่งตั้งกลไกขึ้นมาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ โดยเร่งด่วนเพื่อไม่เป็นเยี่ยงอย่างต่อข้าราชการที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อ

4.เราเห็นว่า กรณีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น รัฐบาลโดยพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี หากจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการนี้ ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนผู้ได้รับผลกระทบ ด้วยการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อสุขภาพ มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นผ่าน “องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเฉพาะกาล” ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

ท้ายที่สุด ครป.ขอสนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวบ้าน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ที่ได้ใช้สิทธิชุมชนในการปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของชาติ อันเป็นการปฏิรูปการเมืองทางตรงของภาคประชาชน จนถึงที่สุด

ด้วยจิตสมานฉันท์และศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย
แถลงโดย นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย
16 กรกฎาคม 2553

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net