ความเคลื่อนไหว 26 พ.ค. 2553

"สุรชัย-แดงสยาม"พร้อมตั้งเวทีหลังเลิกพ.ร.ก. ตร.คุมเข้มแกนนำนปช.นครศรีฯ
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมตั้งเวทีปลุกขวัญคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯว่า มีความพร้อมอยู่แล้ว รอแต่เพียงว่า รัฐบาลยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อไรตั้งทันที เพราะถือเป็นความชอบธรรม เป็นสิทธิที่จะทำได้ การตั้งเวทีเพื่อนำคนเสื้อแดงที่ขวัญเสียไม่รู้ว่าจะไปทางใด ไม่รู้จะเชื่อใคร ให้มาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และเดินไปในทิศทางเดียวกัน
  
ผู้สื่อข่าวรางานว่า เมื่อเย็นวันที่ 25 พฤษภาคม  ตำรวจกองปราบ พร้อมตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เข้าค้นบ้านของนายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ดกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.) ที่ อ.ทุ่งใหญ่ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีคำสั่งด่วน ให้ตำรวจในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช วางกำลังตามสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงที่มีบ้านอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช เพราะเกรงว่า จะมีแกนนำกลุ่มก่อการร้ายที่กำลังหลบหนีอาจลงมาซ่อนตัวใน จ.นครศรีธรรมราชได้

"ส.ว.สหรัฐ" เตรียมเยือนเกาหลีใต้-ไทย-พม่า ดูสถานการณ์ขัดแย้งในเอเชีย
(26 พ.ค.) จิม เวบบ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชีย ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตผู้ทรงอิทธิพลในวุฒิสภาสหรัฐ และมีแนวทางสนับสนุนให้สหรัฐฯ เข้ามีส่วนเกี่ยวข้องในเอเชียเพิ่มมากขึ้น ประกาศเมื่อวันอังคารว่า จะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ ไทย และพม่า ระหว่าง 29 พฤษภาคม-6 มิถุนายน ซึ่งเขาจะพบปะกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและผู้นำธุรกิจต่างๆ

แถลงการณ์ระบุว่า การที่เกาหลีเหนือยิงตอร์ปิโด รวมทั้งการเกิดความไม่สงบในไทย และสถานการณ์ในพม่า ตอกย้ำความจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องเพิ่มพันธะกรณีต่อภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกันเขาได้กล่าวหาจีนว่าล้มเหลวที่จะแสดงความเป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบต่อความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ ถึงเวลาแล้วที่สหรัฐฯ กับชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนต่างๆ จะร่วมเรียกร้องให้จีนแสดงความรับผิดชอบ เพื่อปรับปรุงเสถียรภาพและความรุ่งเรืองของภูมิภาคเอเชีย

นายเวบบ์กล่าวว่า อิทธิพลของจีนเติบโตอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั่วเอเชีย แต่น่าเสียดายว่าพฤติกรรมของจีนไม่ได้แสดงความรับผิดชอบ ที่เป็นที่คาดหวังจากผู้นำระดับภูมิภาคหรือระดับโลก เขาซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเวอร์จิเนียแสดงความวิตกด้วยว่า ความพยายามทางการฑูตของสหรัฐในเอเชียมีเงินทุนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นภัยต่อความสามารถของสหรัฐฯ ที่จะปกป้องผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า เอเชียตะวันออกกำลังประสบกับความสับสนอลหม่านอย่างมาก ในช่วงเดียวกับที่จีนกำลังขยายอิทธิพลอย่างมาก หากสหรัฐฯ จริงใจที่จะสร้างนโยบายทางการฑูตในเชิงรุกแบบฉลาด สหรัฐต้องเริ่มด้วยการจัดหาเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นให้กับบรรดานักการทูตของตน

โฆษก ก.ท่องเที่ยว-กีฬา โต้ "เฟสต้า"ผ่านสื่อ จวกให้ข่าวทำลายน้ำใจ ท้ายุบแยก 2 กระทวงเลยดีกว่า
เมื่อเวลา 13.00 น.นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีของ นายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยว (เฟสต้า) ว่า การพูดถึงกรณีการนำเสนอยุบกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอีกทั้งยังพาดพิงถึง ท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตนขอเรียกร้องให้ภาคเอกชนติดต่อสื่อสานมาโดยตรง ขณะเดียวตนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คุณเจริญให้ข่าวไป ให้ข่าวในฐานะส่วนตัวหรือในฐานนะโฆษกเฟสต้า ซึ่งในส่วนองค์รวมเป็นการมอบหมายหรือเป็นมติออกมาจริงหรือไม่อย่างไร

นายวัชระกล่าวต่อว่า ตนขอความเป็นธรรมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่า ทั้งตัวรัฐมนตรี ผู้บริหาร สไตล์การทำงานอาจจะต่างกัน เอกชนอาจจะชอบหรือพึงพอใจในการทำงานหรือบุคลิกหรือรูปแบบการทำงานแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ตนอยากเรียกร้องให้มองที่ผลลัพธ์ ของการทำงานมากว่า อย่างใน 1 ปีที่ผ่านมาในอดีต ด้านของ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ปฏิบัติหน้ารัฐมนตรี ที่สามารถพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่งว่าทำงานได้ผล แน่นอนว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องวัดกันที่ตัวเลขของนักท่องเที่ยว

นายวัชระกล่าวอีกว่า เราเองในฐานะของกระทรวงเราต้องฟังทุกฝ่ายที่เป็นองค์ประกิอบรวมของการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง เนื่องจากองค์มีทั้งที่มีกฎหมายรองรับและไม่มีกฎหมายรองรับในเรื่องของห้างที่ต่างๆ รวมถึงเราคงไม่สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของใครคนใดคนหนึ่งเพื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ ซึ่งขณะนี้เรามีภาระที่หนักหนามากพออยู่แล้ว เรามาช่วยกันทำงานดีกว่า ดีกว่ามานั่งให้ข่าวในลักษณะที่ทำลายน้ำใจกัน

นายวัชระกล่าวเสริมว่า สำหรับข้อเสนอที่จะยุบกระทรวงการท่องเที่ยวตนเห็นด้วยว่า ถ้าอยากจะยุบภาระกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวควรจะยุบแยกไปเลย จากที่ท่องเที่ยวและกีฬาให้แยกออกเป็น 2 กระทรวงดีกว่า

"ปณิธาน" เผย 29 พ.ค.นี้ รัฐบาล เชิญสื่อ-ทูตต่างประเทศ ฟังแจงแนวทางหลังม็อบ
วันนี้ (26 พ.ค.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเชิญทูตานุทูตและตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศและสื่อต่างประเทศ เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเพื่อที่จะชี้แจงแนวทางและมาตรการการควบคุมสถานการณ์หลังการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในเวลา 13.00 น.วันที่ 29 พ.ค.ที่ตึกสันติไมตรีว่า ตอนนี้ส่งหนังสือเชิญไปแล้วเพื่อรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริงและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากนายกฯ และ ครม.ที่เกี่ยวข้อง โดยจะชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่มีข้อสงสัย และรับฟังทูตานุทูตและตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศเกี่ยวกับแผนฟื้นฟู เยียวยาประเทศไทยและการดูแลช่วยเหลือคนไทย รวมถึงคนต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบ

นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า ในวันนั้นนายกฯจะรับทราบแนวทางและข้อแนะนำของต่างประเทศ รวมทั้งจะเป็นสิ่งสำคัญที่ต่างประเทศจะเข้าใจและยอมรับประเทศไทยเพื่อที่จะได้มีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของต่างประเทศอีกครั้ง

ในวันเดียวกันนี้ เวลา 10.00 น.นายอีริค จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาหารือสองชั่วโมง ทั้งนี้ นายสุเทพปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า ให้สัมภาษณ์วันละครั้งพอแล้ว เมื่อถามว่าผลการหารือกับนายอีริค จี จอห์น เป็นเช่นใด นายสุเทพ กล่าวว่า ดี

ศาลออกหมายจับ "อริสมันต์" คดีหมิ่น "อภิสิทธิ์"
09.00 น.ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยและสืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดำที่ อ.4177/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 11 และ 17 ตุลาคม 2552 นายอริสมันต์ขึ้นปราศรัยเวทีชุมนุมคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และที่ทำเนียบรัฐบาล กล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ เป็นต้นเหตุทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงพระประชวร และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการปล้นอำนาจประชาชน เป็นผู้สั่งการให้ฆ่าประชาชน

แต่ปรากฏว่า นายอริสมันต์ จำเลย ซึ่งขณะนี้ยังหลบหนีหมายจับคดี ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไม่ได้เดินทางมาศาล ขณะที่นายวาสุเทพ ศรีโสดา ทนายความของนายอริสมันต์ ก็ไม่ได้เดินทางมาศาลเช่นกันโดยไม่ได้แจ้งขัดข้อง ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับนายอริสมันต์ จำเลย เพื่อมาพิจารณา

ก่อนหน้านี้นัดสอบคำให้การครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นายวาสุเทพ ศรีโสดา ทนายความของนายอริสมันต์ ได้ยื่นคำร้องขอศาลเลื่อนนัด พร้อมแถลงหากศาลนัดสอบคำให้การ ยืนยันจะนำตัวจำเลยมาศาลได้ โดยทนายความจำเลยได้แถลงเตรียมพยานนำสืบต่อสู้คดีไว้รวม 5 ปาก ใช้เวลา 2 นัด ซึ่งศาลได้กำชับให้ทนายความนำตัวจำเลยมาศาลตามกำหนดนัด ไม่เช่นนั้นจะออกหมายจับตัวจำเลยมาพิจารณาคดี โดยศาลได้กำหนดนัดสืบพยานโจทก์ไว้แล้ววันที่ 25 , 28- 29 มิ.ย.นี้ และสืบพยานจำเลยวันที่ 5-6 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ศาลอนุญาตกองปราบฯ ควบคุมตัว 5 แกนนำ นปช. เพิ่มอีก 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ศานิตย์ มหถาวร รองผู้บังคับการกองปราบปราม ได้นำสำนวนขอขยายเวลาการควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รวม 5 คน ที่เข้ามอบตัวต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตามหมายจับข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จากกรณีเป็นผู้นำการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ โดยในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 มาด้วย แต่เป็นการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการทั้งหลาย เพื่อใม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง หรือเพื่อให้เกิดการร่วมมือในการระงับเหตุร้ายแรง ซึ่งจะครบกำหนด 7 วัน ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ แต่การดำเนินการยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากเหตุการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงยังไม่ระงับไป ซึ่งผู้ถูกควบคุมเป็นบุคคลระดับแกนนำ หากได้รับการปล่อยตัวอาจออกไปก่อเหตุฉุกเฉินร้ายแรงขึ้นได้อีก ความจำเป็นดังกล่าวจึงขออนุญาตควบคุมตัวต่อไปมีกำหนด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมถึง 1 มิถุนายนนี้ โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า มีความจำเป็นต้องควบคุมตัวต่อ จึงอนุญาตให้ขยายเวลาควบคุมตัวตามที่ร้องขอ

มท.1 เผยจับ นปช.อีสาน 80 คน อุบลฯ มากสุด ตั้ง กก.สอบผู้ว่าฯ ปล่อยม็อบเผาศาลากลางหวังสร้างใหม่
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ถึงการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่า ขณะนี้ยังไมมีข่าวรายงานด้านไม่ปกติ มีเพียงกรณีความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เท่านั้น ส่วนกระแสข่าวที่แกนนำคนเสื้อแดงอย่างนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง อยู่ระหว่างการหลบหนีในภาคอีสานนั้น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจมากกว่า ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดมีหน้าเพียงให้ความร่วมมือทางด้านข่าวสารเท่านั้น อย่างไรก็ตาม  ที่ผ่านมามีการจับแกนนำคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดได้หลายคน โดยเฉพาะจังหวัด 4 จังหวัดคือ จ.ขอนแก่น จ.อุบลราชธานี จ.มุกดาหาร และ จ.อุดรธานี สามารถจับกุมแกนนำรวมรวมทั้งสิ้น 70-80 คน แต่จังหวัดที่จับได้มากที่สุดคือ จ.อุบลฯ ประมาณ 40 คน

เมื่อถามว่ามีคำสั่งให้ผู้ว่าฯ ดำเนินการปิดวิทยุชุมชนของคนเสื้อแดงภายในสัปดาห์นี้ นายชวรัตน์ กล่าวว่า  ตนไม่ได้สั่ง เพราะเป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ  ขณะนี้รอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย รายงานว่ามีการปิดสถานีวิทยุชุมนุมที่มีการปุกระดมหรือยัง เมื่อถามว่าการปิดวิทยุชุมชนไม่ได้ เท่ากับว่าเก้าอี้ผู้ว่าฯยังไม่ปลอดภัยใช่หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า การสั่งปิดต้องขึ้นอยู่กับเนื้อหาของวิทยุชุมชนว่ามีเนื้อหาปลุกระดมหรือไม่ หากมีเพียงการเผยแพร่ข่าวสาร หรือเปิดเพลงเพื่อความบันเทิงก็สามารถเปิดได้ เพราะกระทรวงมหาดไทยสนับสนุนวิทยุชุมชนอยู่แล้ว เพื่อให้ข้อมูล หากเป็นวิทยุชุมชนของคนเสื้อแดง แต่เปิดเพลงหรือนำเสนอเรื่องความบันเทิงเท่านั้น ก็สามารถที่จะดำเนินการต่อได้ เพราะถือว่าผ่อนคลายความเครียดให้กับประชาชน

เมื่อถามว่า นับจากนี้หากมีการเผาศาลากลางจังหวัดอีก ผู้ว่าฯ ก็จะถูกเรียกตัวมาช่วยราชการที่กระทรวงอีกหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า “ครับ คิดว่าถ้าย้ายมาแล้วมีผลงานเป็นที่พอใจของกระทรวง หากถึงช่วงโยกย้ายข้าราชการ ก็ยังมีโอกาสย้ายไปที่ไหนก็แล้วแต่ แต่อาจจะไม่ใช้ย้ายกลับพื้นที่เดิม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ที่ถูกขอตัวมาช่วยราชการ ก็ยังดำรงตำแหน่งยังไม่ขาดจากการเป็นผู้ว่าฯ”

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าผู้ว่าฯ บางรายปล่อยปละละเลยให้มีการเผาศาลากลาง เพื่อต้องการสร้างศาลากลางจังหวัดแห่งใหม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องว่ากันไป หากเป็นจริงก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย  เพราะศาลากลางจังหวัดไม่ได้สร้างด้วยเงินหนึ่งบาท หรือสองบาท แต่สร้างด้วยเงินเป็นร้อยๆ ล้าน

ตร.กองปราบบุกอายัดตัว "ลูกน้องเสธ.แดง" ถึงเตียง รพ.วชิระ ก่อนส่งรักษาต่อ รพ.ตำรวจ
(26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาการ ผบก.ป.สั่งการพนักงานสอบสวน พร้อมกำลังตำรวจกองปราบปรามเดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิรพยาบาลเพื่ออายัดตัว นายจรัญ หรือ ยักษ์ ลอยพูล อายุ 40 ปี ลูกน้องของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หลังได้รับการประสานงานจาก สน.สามเสน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

เมื่อไปถึงพบว่านายจรัญ นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าวเนื่องจากถูกยิงที่ขาซ้ายและแขนขวาได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดย พ.ต.ต.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ พงส.(สบ2) บก.ป. ได้นำหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ 117/53 วันที่ 21 พ.ค.53 ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปขออายัดตัวก่อนจะส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ

สำหรับนายจรัญ นั้นเคยถูกตำรวจ บก.ป.จับกุมพร้อมกับ พล.ต.ขัตติยะ ว่าที่ ร.ต.สุรภัศ จันทิมา นายมงคล สารพัน นายจักรชลัส คงสุวรรณ นายเริงฤทธิ์ ตุ้มทองคำ นายสุวิทย์ คีรีรักษ์ หลังให้การช่วยเหลือนายพรวัฒน์ ทองสมบูรณ์ หรือ “เคทอง” หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังถูกตำรวจกองปราบปรามตรวจค้นรถตู้ที่ทั้งหมดใช้เป็นพาหนะพบอาวุธปืน อีกหลายกระบอกจึงถูกดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และร่วมกันให้การช่วยเหลือซ่อนเร้นนายพรวัฒน์ ต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัวออกมาต่อสู้คดี ระหว่างนั้นก็เข้าร่วมการชุมนุมจนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และถูกออกหมายฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดังกล่าว

แฉ "ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง" โดนเด่งเหตุแก้ปัญหาช้า แถมมีเปลี่ยนข้อหาพกพาอาวุธให้ "นปช."
(26 พ.ค.53) พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) เปิดเผยถึง กรณีที่มีค่ำสั่งให้ พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ไปปฏิบัติราชการ เป็น ผกก.ฝอ.บก.น.4 และให้ พ.ต.อ.ศิวโรจน์ สุขัคคานนท์ ผกก.ฝอ.บก.น.4 ไปรักษาราชการแทน ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ว่า ในท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง มีปัญหาเรื้องรังมานานหลายเรื่อง ซึ่ง ผกก.ผู้ดูแลโรงพัก ไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ปัญหาแรกเป็นเรื่องที่ปล่อยให้ภรรยาและครอบครัวตำรวจเล่นแชร์ลูกโซ่ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท จนมีเรื่องฟ้องร้องแจ้งความกันเองภายในโรงพัก และปัญหาที่ปล่อยให้ตำรวจในโรงพักไปข่มขู่ทวงหนี้นอกระบบกับประชาชน ทำให้ประชาชนหวาดกลัว ซึ่งผู้บังคับบัญชามีความเห็นว่าไม่สามารถบริหารงานในพื้นที่ได้จึงมีคำสั่งลงมา

เมื่อถามว่า กรณีที่ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ไม่ควบคุมการสอบสวนสำนวนการสอบสวน ตามประกาศ ศอฉ.อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ใช่กรณีที่ปล่อยให้คนเสื้อแดงนำยางรถยนต์เข้ามาใน กทม.และมีการเปลี่ยนข้อหาพกพาอาวุธให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า คงไม่ใช่กรณีนี้เพียงอย่างเดียว เรื่องที่มีการเปลี่ยนข้อหานั้นไม่น่าจะใช่ แต่ในการจับกุมคนเสื้อแดงที่พกพาอาวุธในวันนั้น ตนทราบว่าทางพนักงานสอบสวนของโรงพักเพียงแค่เปรียบเทียบปรับแล้วปล่อยตัวไป จึงเรียกผกก.มาชี้แจง ซึ่งได้ความว่าไม่ทราบเรื่อง ซึ่งถือว่าไม่ไม่ควบคุมการสอบสวนสำนวนการสอบสวน ตามประกาศ ศอฉ. แต่อย่างไรก็ตามได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มดังกล่าวไปตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

ที่มาเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์, เนชั่นทันข่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท