Skip to main content
sharethis

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ลั่นตั้งด่านสกัด 100% ทั้งรถ-เรือ-BTS-ใต้ดิน ตัดน้ำตัดไฟสาธารณูปโภค ผู้ชุมนุมออกได้-เข้าไม่ได้ พร้อมเตรียมรถหุ้มเกราะ ผู้ชุมนุมยิงด้วยกระสุนยาง ส่วนอาวุธกระสุนจริงจะใช้ยิงขึ้นฟ้า ยิงป้องกันชีวิต ยิงผู้ก่อการร้าย

วันนี้ เวลา 11.30 น. ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก ศอฉ. แถลงภายหลังการประชุม ศอฉ. ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นประธานการประชุม

 

ลั่นจะปิดล้อมที่ชุมนุมตั้งแต่ 18.00 น.

โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา ทาง ศอฉ. ได้ดำเนินการตั้งด่านตรวจตราอาวุธควบคุมการผ่านเข้าออกในพื้นที่ของบุคคล ต้องสงสัย โดยขณะนี้ได้มีแนวทางการปฏิบัติเปลี่ยนไปโดยเป็นการกำหนดมาตรการในการปิด ล้อมสกัดกั้นพื้นที่แยกราชประสงค์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้

ส่วนพื้นที่ที่จะเกิดผลกระทบนั้น จะเริ่มทางด้านเหนือ โดยเริ่มตั้งแต่แยกราชเทวีไปตามถนนเพชรบุรี จนกระทั่งถึงแยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรี ลงมาทางทิศใต้ตั้งแต่แยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรีตามถนนวิทยุลงมา จนกระทั่งสี่แยกถนนวิทยุ เรื่อยมาตามถนนพระราม 4 จนไปถึงสี่แยกสามย่าน แล้วขึ้นไปทางเหนือบรรจบกับจุดเริ่มต้นตามถนนพญาไท จนกระทั่งถึงแยกราชเทวี ซึ่งจะเป็นลักษณะของกรอบสี่เหลี่ยม ดังนั้น กรอบสี่เหลี่ยมนี้จะเริ่มตั้งแต่ถนนพญาไท ถนนเพชรบุรี และถนนวิทยุก็จะมีการปิดการจราจรด้วย ยกเว้นถนนทางด้านทิศใต้ที่เป็นขอบทางด้านใต้คือ ถนนพระราม 4 จะไม่ปิดการจราจร ซึ่งจะเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม อีกทั้ง การปิดการจราจรริมขอบของพื้นที่ทั้งสามด้าน

 

ปิดทั้งทางน้ำทางบกรถใต้ดิน เฉพาะผู้ทำงานและพักอาศัยถึงจะเข้าได้

และพื้นที่ที่อยู่ในขอบสี่เหลี่ยมทั้งหมดจะปิดการจราจรทุกชนิด 100 % อาทิ รถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า BTS เรือตามคลองแสนแสบ รถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับพี่น้องประชาชนและกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถออกนอกพื้นที่ได้ แต่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ยกเว้นผู้ที่อยู่อาศัยและผู้ที่มีสถานที่ทำงานอยู่ในบริเวณนั้นจะได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าออกได้ โดยบุคคลที่มีที่พักอาศัยและทำงานในย่านดังกล่าวต้องเตรียมเอกสารหลักฐานที่เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่า ท่านอาศัยอยู่ในบริเวณเหล่านั้น ประกอบด้วย สำเนาทำเบียนบ้าน หรือบัตรประจำตัวพนักงาน ว่าทำงานอยู่ที่บริษัทไหน ตึก อาคารไหน ไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตามจุดต่างๆ ที่มีอยู่ทุกเส้นทางที่จะผ่านเข้าไปในพื้นที่สี่เหลี่ยม ไม่ว่าจะเป็นด่านใหญ่ ตรอกซอกซอยทั้งหลาย โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะมีเอกสารที่เป็นสติกเกอร์มอบให้โดยเป็นบัตรแสดงตน ในการผ่านเข้าออกให้กับผู้ที่อยู่อาศัยและทำงานในพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างเดียว ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถผ่านออกได้อย่างเดียว ไม่สามารถผ่านเข้าได้

 

ตัดน้ำตัดไฟ สาธารณูปโภคทุกชนิด

โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ในพื้นที่ที่มีการสกัดกั้นสมบูรณ์ 100% ที่ว่านี้ การบริการสาธารณะทุกชนิดทั้งไฟฟ้า ประปา การจราจร รถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน รถประจำทาง และเรือโดยสารจะมีการระงับตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยไม่ได้หมายความว่าทุกกรณีระงับตั้งแต่ 18.00 น. แต่ว่าส่วนใดที่สามารถดำเนินการได้ก็จะดำเนินการภายใน 18.00 น. ส่วนใดที่ยังไม่พร้อมก็จะต้องเตรียมการให้พร้อมแล้วก็จะดำเนินการทันทีที่ สามารถดำเนินการได้ ซึ่ง ศอฉ. ต้องการให้มาตรการการบริการสาธารณะทุกชนิดนั้น จะส่งผลกระทบและกดดันต่อกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อให้ยุติการชุมนุมแล้วออกจากพื้นที่โดยเร็ว และไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่พักอยู่อาศัยและทำงานในพื้นที่ เหล่านั้นนั้น ดังนั้น จะต้องมีการลงรายละเอียดกันค่อนข้างที่จะมาก จึงมีความจำเป็นที่จะระงับการบริการไม่พร้อมกัน ส่วนไหนที่มีความพร้อมก็จะดำเนินการก่อน

 

ศอฉ. ขอห้างร้านปิดกิจการชั่วคราวตั้งแต่ 14 พ.ค. จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย

"สำหรับการรับบริการสาธารณะดังกล่าวนั้น ทางศอฉ. จะมีการแจ้งเป็นประกาศของศอฉ.ในเวลา 13.00 น. ไม่เกิน 14.00 น. ของวันนี้ ชี้แจงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และหากประชาชนยังมีข้อสงสัยดังกล่าว ท่านก็สามารถที่จะติดต่อสอบถามข้อมูลสายด่วน โทร. 1555 ของกทม. ว่ามีผลกระทบต่อประชาชนหรือไม่อย่างไร การจำกัดการบริการสาธารณะที่ว่านั้นมีตรงพื้นที่ไหนบ้าง" โฆษก ศอฉ. กล่าว

โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ในวันนี้พรุ่งนี้ทาง ศอฉ. ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ อาทิ บริษัท ห้างร้าน เอกชน ทั้งหลายที่ประกอบการอยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยม โดยขอให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ปิดกิจการชั่วคราวและอนุญาตให้พนักงาน ลูกจ้างทั้งหลายหยุดงานในช่วงตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 53 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

 

ลั่นจะใช้รถหุ้มเกราะ ใช้กระสุนสงคราม

โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติเรื่อง การกระชับวงล้อมของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจมีความจำเป็นที่จะต้องกระชับวงล้อมเข้ามา โดยอาศัยรถเกราะหรือรถสายพานลำเลียงพล ซึ่งมีความจำเป็นในการใช้รถดังกล่าว โดยขอให้มองถึงวัตถุประสงค์ของเจ้าหน้าที่ในการใช้งาน อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ไม่ได้ต้องการนำอาวุธที่ร้ายแรงมาใช้ต่อพี่น้องประชาชน แต่ว่ารถเกราะ รถสายพานลำเลียงคนที่ว่านั้น มีเกราะในการที่จะป้องกันอันตรายจากอาวุธยิงต่าง ๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติภารกิจ ในขณะเดียวกัน เป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย ซึ่ง ศอฉ. มั่นใจว่า ภายในพื้นที่การชุมนุมนั้นได้มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายและมีอาวุธสงครามอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจใช้รถเกราะ แล้วมีการยิงอาวุธกระสุนสงครามเข้ามา ก็ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตอบโต้ด้วยอาวุธกลับไปเกินความจำเป็น โดยเป็นวัตถุประสงค์ของการใช้รถเกราะ

 

ทำตามเบาไปหาหนัก 7 ขั้นตอน ใช้อาวุธกระสุนจริง

โฆษก ศอฉ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระชับวงล้อมในวันนี้อาจจะมีความเป็นไปได้ ที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายภายในพื้นที่ชุมนุมจะเคลื่อนที่เข้าปะทะเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น สิ่งที่ได้เคยชี้แจงให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนหลักสากล ตามมาตรการจากเบาไปหาหนักทั้ง 7 ขั้นตอน และมีการใช้อาวุธกระสุนจริงด้วย

เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามเคลื่อนที่เข้ามายังเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ ตามขั้นตอนและขอให้หยุด หากไม่หยุดทางเจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กระสุนยาง ซึ่งยิงจากปืนลูกซอง ดังนั้น ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมยังเข้ามาอีกทางเจ้าหน้าที่คงไม่สามารถที่จะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมาได้ ที่มีการเข้ามาบุกยึดอาวุธของเจ้าหน้าที่และยึดยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ จึงทำให้เกิดเหตุร้ายได้ แต่การยิงนั้นประชาชนสามารถที่จะพิสูจน์จากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ได้ว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ต้องการที่จะมุ่งทำร้ายเอาชีวิตของพี่น้องประชาชน เพราะลักษณะท่าทางการยิง การควบคุมกรวยกระสุนสามารถแสดงออกได้อย่างชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายประชาชนถึงชีวิต เพียงแต่ต้องการที่จะหยุดยั้งการปฏิบัติที่ผิดกฎหมายและการพยายามเข้าถึงตัว เจ้าหน้าที่ของท่านให้ได้

 

ปืน M-16 TAR-21 ใช้ยิงขึ้นฟ้า ยิงป้องกันชีวิต ยิงผู้ก่อการร้าย

อาวุธปืนที่มีอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นปืนทาโว (TAR-21) ปืน M 16 จะมีใช้ใน 3 กรณีเท่านั้น คือ กรณีที่ 1 การยิงข่มขวัญขึ้นฟ้า กรณีที่ 2 มีการยิงเพื่อป้องกันชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่จะถุกทำร้ายหมายปองเอาชีวิตและ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่นได้ กรณีที่ 3 การยิงไปยังบุคคลที่มีอาวุธอยู่ในมือไม่ว่าจะเป็นปืน อาวุธสงคราม ปืนเล็กยาว ปืนสั้น ลูกระเบิด ซึ่งเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่นอน ก็จะมีการใช้อาวุธเหล่านี้ยิงไปยังบุคคลเหล่านั้นได้ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ติดอาวุธ พร้อมที่จะสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนและสามารถที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้

และอีกส่วนหนึ่งที่เราเรียกว่า คนแม่นปืนระวังป้องกัน ซึ่งเป็นอาวุธในลักษณะปืนเล็กยาวในแบบเดียวกันที่จะยิงผู้ที่เป็นผู้ก่อการร้าย โดยมีอาวุธปืน ลูกระเบิด และอาวุธสงครามอยู่ในมือที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ และจะไม่มีอาวุธหนักอย่างอื่นนอกเหนือไปจากนี้ จะไม่มีการใช้ลูกระเบิดขว้าง จะไม่มีการใช้เครื่องยิง M 79 เพื่อที่แสดงความบริสุทธิ์ใจของเจ้าหน้าที่อย่างแท้จริง ในส่วนกรณีทั้งหมดที่ได้แจ้งให้ทราบนั้น เป็นกรณีที่กระชับวงล้อมเข้าไปแล้วมีความพยายามของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหลาย ที่จะเข้าปะทะกับแนวด่านสกัดของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้หมายถึงการที่จะเข้าไปขอพื้นที่คืน ซึ่งเป็นเรื่องในอนาคตที่ตนขอไม่พูดถึง โดยในวันนี้เป็นแค่การกดดันพื้นที่สี่เหลี่ยมตามแนวเส้นขอบที่แจ้งให้ทราบไว้เท่านั้น

 

 

ที่มา: ศอฉ.เพิ่มมาตรการสกัดพื้นที่สี่เหลี่ยมเพื่อป้องกันกลุ่ม ผู้ก่อการร้ายก่อเหตุ, ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล, 13/5/2010, http://media.thaigov.go.th/pageconfig/viewcontent/viewcontent1.asp?pageid=471&directory=1779&contents=44615

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net