(26 เม.ย.53) เวที นปช. ที่ราชประสงค์ประกาศเมื่อเวลา 11.42น. ขอให้ระดมพลไปช่วยปกป้องสถานีวิทยุเพื่อประชาชน FM 97.25 เมกะเฮิร์ตซ์ ที่สมุทรปราการด่วน เนื่องจากได้ข่าวว่าตำรวจจะเข้ามาปิดสถานี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศจากเวทีกลาง ผู้ชุมนุมกว่า 250 คนได้เดินทางไปเฝ้าหน้าสถานีวิทยุชุมชนดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ที่โจนาธานแมนชั่น จ.สมุทรปราการ โดยมีกิจกรรมคือการนั่งฟังการถ่ายทอดเสียงจากเวที นปช. ที่ราชประสงค์

ต่อมา เวลา 16.10น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ 4 นาย นำโดย พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ พร้อมชนะ เดินทางมายังสถานีฯ เพื่อแจกใบปลิวเตือนผู้ชุมนุม มีข้อความว่า "พื้นที่นี้ห้ามชุมนุม ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน" โดยระบุด้วยว่า การชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเป็นความผิดตามกฎหมาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมต่างแสดงความไม่พอใจเมื่อเห็นข้อความดังกล่าว บ้างตะโกนว่า "แค่นี้ติดคุกสองปี ปรับสี่หมื่น ปิดสนามบินปรับห้าร้อย" บ้างฉีกและขยำใบปลิวทิ้ง

ด้าน "วุฒิ โมเดล" ผู้จัดรายการสถานีวิทยุเพื่อประชาชน FM 97.25 เมกะเฮิร์ตซ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 เม.ย. เป็นต้นมา มีการส่งสัญญาณรบกวนการออกอากาศ เป็นเสียงที่ทำให้แสบแก้วหู โดยจากการสำรวจพบว่า น่าจะมาจากแถวๆ ศาลากลาง ปากน้ำ แถวสรรพาวุธ และแถวๆ สื่อย่านบางนา ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลรับผิดชอบโดยหยุดกระทำพฤติกรรมเหล่านี้

"นี่เป็นยุคที่มืดมนที่สุดของเมืองไทยในการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน" เขากล่าวและแสดงความไม่เห็นด้วยกับการปิดกั้นสื่อ โดยมองว่า ไม่แฟร์ เพราะรัฐบาลมีสื่อหลายช่อง บางช่องมาจากภาษีของเราด้วยซ้ำ แม้แต่เมื่อมีคนกล่าวหาเราในชีวิตประจำวัน เราก็ต้องการชี้แจงความจริง แต่นี่รัฐปิดหูปิดตาและไม่ให้เราชี้แจงเลย อย่างที่แกนนำพูดว่าน่าจะเปิดโอกาสให้เราบ้าง แต่วันนี้เหมือนตอนพฤษภาทมิฬที่ปิดกั้นสื่อและออกข่าวฝ่ายเดียว ทั้งนี้ เขามองว่า เมื่อยิ่งบีบยิ่งยิ่งบังคับ ก็จะทำให้ประชาชนยิ่งแสวงหา วันนี้รัฐจึงล้มเหลวในการปิดกั้นสื่อ

"วุฒิ โมเดล"

เมื่อถามว่า คิดอย่างไรต่อข้อกล่าวหาว่าสื่อแดงเป็นสื่อที่ปลุกปั่น "วุฒิ โมเดล" กล่าวว่า อยากให้ไปดูเอเอสทีวี หรือสื่อของพันธมิตรฯ วันนี้ก็มีการบอกว่า ถ้านายกฯ อภิสิทธิ์ไม่บังคับใช้กฎหมายกับคนเสื้อแดงก็จะออกมากระทำเอง อยากถามรัฐบาลกลับว่า ทำไมไม่มีการทักท้วงติติงพันธมิตรฯ ซึ่งออกมาในนามคนหลากสี นี่เป็นการเลือกปฎิบัติหรือไม่

เขาบอกว่า ถ้าจะอ้างว่าเราปลุกปั่น เอเอสทีวีก็ยิ่งปลุกปั่นกว่า ทั้งยังระดมให้คนทำผิดกฎหมาย ของเรามีแนวทางชัดเจนว่าไม่ละเมิดกฎหมาย แตกต่างจากม็อบบางม็อบ

ด้านเครือวัลย์ อิ่มมโนทัย แม่บ้านวัย 53 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุม แสดงความเห็นต่อคำถามว่า คิดอย่างไรที่รัฐบาลระบุว่า ต้องปิดสื่อที่ก่อให้เกิดการปลุกปั่นว่า สมองเรามี ไม่ใช่สมองฝ่อ ว่าควรรับฟังอะไร หากจะบอกว่าแกนนำปลุกปั่นนั้นไม่ใช่ เพราะเขาให้เราคิดเอง พิจารณาไตร่ตรองเอง ไม่ได้มาจูงจมูกเรา ที่มานี่ก็เสียค่ารถกันเอง เวลาไปชุมนุมที่ราชประสงค์ก็นั่งรถไฟฟ้าไปเอง ซื้ออาหารกินเอง

"เราต้องชั่งใจ ฟังหลายๆ ปากเพื่อพิจารณาว่าจริงหรือไม่" เธอกล่าวและว่า การรับสื่อแดงทำให้ได้รับรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ต้องให้เรารับทั้งสองข้าง ให้รับฟังด้านเดียว เราไม่รับ