ตั้ง "สมัชชาประชาชนเพื่อปฎิรูปประเทศไทย" หวังแก้ปัญหาฝังลึก

นพ.นิรันดร์ระบุต้องยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเรื่องอุดมการณ์ทางการเมือง แม้รัฐบาลจะชนะที่ราชประสงค์ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ด้านรสนาระบุต้องสร้างทางเลือกให้ประชาชนที่ราชประสงค์ ภาคประชาชนเตรียมตั้งคณะกรรมการปฎิรูปประเทศไทย หวังเจรจาทุกฝ่าย หลีกเลี่ยงความรุนแรง หันหน้าแก้ปัญหาประเทศ

 

(25 เม.ย.53) ในการประชุมเครือข่ายเตรียมการก่อตั้งสมัชชาประชาชนเพื่อปฎิรูปประเทศไทย จัดขึ้นที่ห้อง LT1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางสาวนาตยา แวววีรคุปต์ ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า การประชุมวันนี้มีเจตนารมณ์ว่าจะเป็นการเตรียมก่อตั้งสมัชชาประชาชนเพื่อปฎิรูปประเทศไทย โดยมีเป้าหมายให้ปัญหาของประชาชนจริงๆ ถูกนำมาเปิดเผยในพื้นที่สาธารณะและแก้ปัญหาได้มากที่สุด โดยไม่ต้องไปเดินในท้องถนน

นางสาวนาตยา กล่าวด้วยว่า ในภาวะวิกฤตเช่นนี้หมดเวลาแล้วที่จะไปพึ่งพิง หรือให้ตัวแทนแก้ปัญหา ปัญหาของชาวบ้านต้องแก้ได้ด้วยตัวเอง

การประชุมครั้งนี้มีเครือข่ายประชาชนเข้าร่วมกว่า 100 คน โดยมีผู้เข้าร่วมที่มีชื่อเสียง ได้แก่ นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีต ส.ว.เชียงราย นางสมลักษณ์ หุตานุวัตร อนุกรรมการส่งเสริมและประสานเครือข่าย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านเศรษฐกิจยุคสารสนเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เป็นต้น

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้รัฐบาลและแกนนำ นปช. ได้ถลำลึกเข้าสู่ความรุนแรง มีการระเบิดที่สี่แยกคอกวัวและสีลม และมีการพยายามสร้างความชอบธรรมของทั้งสองฝ่ายในการเผด็จศึกอีกฝ่ายหนึ่ง เราต้องรู้ว่าความรุนแรงที่รัฐจะจัดการกับผู้ชุมนุม ถ้าชนะที่ราชประสงค์ แต่ประเทศไทยพ่ายแพ้ได้ บทเรียนจากพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อเสียงปืนแตกมันไปดังที่บ้านนอกนะครับ ขณะนี้เราต้องยอมรับว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเรื่องอุดมการณ์ทางการเมือง แม้จะชนะที่ราชประสงค์ แต่ถ้าคนยังมีอุดมการณ์และต้องการต่อสู้ ก็ไม่อาจหยุดยั้งความรุนแรงได้ หรืออาจจะมีการฉวยโอกาสรัฐประหารได้

ดังนั้น เวทีของเราวันนี้จึงต้องหาทางว่าเราจะหลุดพ้นจากความรุนแรงได้ ต้องเสนอทางออกของทั้งสองฝ่าย ว่าจะต้องมาร่วมกันแก้ปัญหาของประเทศไทย ถ้าแกนนำ นปช. ไม่มีเบื้องหน้าหลังกับคุณทักษิณ ไม่มีประเด็นแอบแฝงก็ต้องยอมรับข้อเสนอ เช่นเดียวกัน หากฝ่ายการเมืองมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาก็ต้องมาร่วมกันแก้ปัญหาในประเด็นเหล่านี้ นี่คือสิ่งที่ภาคประชาชนต้องออกมารุก เพราะประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่ว่า 6 ต.ค.19, 14 ต.ค.16, พ.ค.35 ประชาชนก็ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง หรือไม่ก็ถูกปล้นชัยชนะ นี่เป็นวิกฤตการณ์การเมืองของทุกระบบ ซึ่งต้องไม่ใช่ความรุนแรง แต่ต้องกลับมาแก้ปัญหาใหม่

ด้านนางสาวรสนา กล่าวว่า นอกจากปัญหาระยะยาวแล้ว ต้องแก้ปัญหาระยะสั้นด้วย เรากำลังเชิญชวนให้ประชาชนที่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ไปอยู่ที่ราชประสงค์ เห็นเส้นทางใหม่ว่าเราสามารถมาแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อบอกรัฐบาลว่ามีอะไรบ้างที่เป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนและปฎิรูปบ้านเมือง และต้องชวนข้าราชการและทหารมาฟังด้วย เพราะความรุนแรงนั้นนอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ยังก่อให้เกิดความซับซ้อนของปัญหาด้วย สำหรับตัวดิฉันเองนี่เป็นวิกฤตความล้มเหลวของระบบตัวแทน แต่มันทำให้เกิดการพัฒนาของการเมืองภาคพลเมืองอย่างเข้มแข็ง ที่ผ่านมาการปฏิรูปการเมืองของเรานั้นเป็นเฉพาะเรื่องการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ เวลานี้เรากำลังจะผ่าทางตันของวิกฤตการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น นี่อาจจะเป็นโอกาสของการที่การเมืองของประชาชนจะเติบโตขึ้นมา เราไม่ได้ปฎิเสธรัฐบาลตัวแทน แต่ต้องทำให้เกิดการปฎิรูปการเมืองที่เป็นประโยชน์ของประชาชน การที่รัฐบาลบอกว่าให้ม็อบจบก่อน แล้วค่อยจัดการปัฐญหาเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะพรุ่งนี้ไม่เคยมาถึง แต่ต้องทำขณะนี้

ทั้งนี้ ผลของการเสวนา ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้น เพื่อนำเสนอปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทย 6 ประเด็น ได้แก่ ปัญหาที่ดิน การกระจายทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรม คนไร้สัญชาติ ความรุนแรง ปัญหาเด็กเยาวชน และปัญหาสื่อสารมวลชน ซึ่งที่ประชุมมองเห็นว่า เป็นปัญหารากฐานของประเทศ ที่ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท