19 เม.ย. 53 - กลุ่มภาคประชาชนออกแถลงการณ์วอนทุกสีร่วมกดดันอภิสิทธิ์หยุดปราบเสื้อแดง คืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการยุบสภา หวั่นการใช้ความรุนแรงในการสลายชุมนุมจะซ้ำรอย 6 ตุลา ที่ทำให้ประชาชนต้องจับอาวุธลุกขึ้นสู้รัฐ
แถลงการณ์
ประชาชนทุกสีและทั่วโลกร่วมกดดันรัฐบาลอภิสิทธิ์
หยุดปราบปรามคนเสื้อแดง
คืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนทุกสี
วิกฤตแห่งความรุนแรงอาจจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งในการเมืองไทย ณ เวลานี้ เนื่องจากว่าขณะนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยนายสรรเสริญ แก้วกำเหนิด ได้แถลงถึงนโยบายของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่จะดำเนินการแข็งกร้าวเฉียบขาดมากขึ้น ประสานกับการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายต่างๆ ได้สนับสนุนรัฐบาลให้ปราบปรามประชาชนคนเสื้อแดงที่ต่อสู้ด้วยแนวทางสันติ อสิงหา และปราศจากอาวุธ
เราในฐานะส่วนหนึ่งขององค์กรประชาชนกลุ่มต่างๆ ข้างล่าง มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว มีข้อเรียกร้องต่อประชาชนคนไทยทุกสีและทั่วโลก มีความคิดเห็นดังนี้
1 ประชาชนคนไทยทุกสีและทั่วโลกร่วมกันเรียกร้องกดดันให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องหยุดนโยบายปราบปรามประชาชนโดยทันที เพราะไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ได้อย่างถูกต้องชอบธรรม มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งลุกลามจนยากประสานรอยร้าว และอาจกลายเป็นสงครามกลางเมืองที่ทุกส่วนไม่พึงปรารถนาให้เกิดขึ้นโดยใช่เหตุ
2 สังคมไทยเคยมีบทเรียนการปราบปรามประชาชนมาหลายครั้ง โดยเฉพาะการล้อมปราบในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่ทำให้ประชาชนต้องจับอาวุธลุกขึ้นสู้กับอำนาจรัฐ กว่าจะทำให้สังคมไทยกลับสู่ความสงบใช้เวลานานหลายปี จนกระทั่งสมัยรัฐบาลเกรียงศักดิ์ ชมมะนันท์ ได้ออกนโยบาย 66/23 และสังคมไทยก็เห็นพ้องต้องกันมาแล้วว่าต้องเปิดแนวทางการเมืองอย่างสันติวิธี ให้สิทธิเสรีภาพกับประชาชน ให้มีระบบการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยในที่สุด เป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมในโลกอารยะมากกว่าการนำไปสู่การต่อสู้กันด้วยอาวุธของประชาชนเมื่อไม่มีทางเลือก
3 ประชาชนคนไทยทุกสีและทั่วโลกร่วมกันกดดันให้รัฐต้องหยุดการใช้สื่อต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชน เพื่อตอกย้ำการสร้างภาพใส่ร้ายป้ายสีว่าคนเสื้อแดงซึ่งเป็นคนไทยมีความรักชาติรักประเทศเหมือนคนไทยทุกคนว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ไม่รักสถาบัน เหมือนกรณีก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เพื่ออ้างความชอบธรรมในการปราบปรามคนเสื้อแดง
4 ท่ามกลางความขัดแย้งที่หลายฝ่ายมีความคิดเห็นต่างกันนั้น วิถีการแก้ไขปัญหาตามระบอบประชาธิปไตยนั้น นายกรัฐมนตรีควรยุบสภา เพื่อคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนทุกกลุ่มไม่ว่าสีแดงหรือสีใดๆ ตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และจัดให้มีการเลือกตั้งโดยทุกกลุ่มทุกสีต้องยอมรับผลการเลือกตั้งตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย
5 การแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในครั้งนี้นั้น การรัฐประหารไม่ใช่ทางออกมีแต่สร้างปัญหาให้กับสังคมไทยมากขึ้น เราขอให้ประชาชนคนไทยทุกสีและทั่วโลกร่วมกันคัดค้านต่อต้านถ้าหากมีใครคิดฉวยโอกาสกระทำการรัฐประหาร และขอเรียกร้องให้ทหารชั้นผู้น้อยผู้ไม่มีผลประโยชน์ใดๆเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารต้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ไม่ชอบธรรมโดยทันที
1. เครือข่ายองค์กรชุมชนแก้ปัญหาที่ดินภาคอีสาน (คอป.อ.)
2. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านอนุรักษ์น้ำเซิน (คอซ.)
3. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านลุ่มน้ำปาว (คอป.)
4. เครือข่ายอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภูค้อ-ภูกระแต จังหวัดเลย
5. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ภาคอีสาน (คอส.)
6. แนวร่วมเกษตรกรภาคอีสาน (นกส.)
7. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ลุ่มน้ำโขง จังหวัดอุบลราชธานี
8. กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน (กสส.)
9. กลุ่มดงมูลเพื่อการพัฒนา จังหวัดกาฬสินธุ์
10. เครือข่ายอนุรักษ์ภูผาเหล็ก จังหวัดอุดรธานี
11. กลุ่มภูพานเพื่อการพัฒนา จังหวัดสกลนคร
12. เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน จังหวัดชัยภูมิ
13. กลุ่มประชาชนไทยแวงน้อย-แวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น
14. กลุ่มเยาวชนมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่น
15. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์น้ำพรมตอนต้น จังหวัดชัยภูมิ
16. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ลุ่มน้ำบัง จังหวัดนครพนม
17. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ยโสธร จังหวัดยโสธร
18. สหพันธ์เยาวชนอีสาน (สยส.)
19. แนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ (นกน.)
20. ชมรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาคเหนือตอนล่าง
21. เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู จังหวัดพิษณุโลก
22. เครือข่ายส่งเสริมสิทธิการจัดการทรัพยากรภาคเหนือตอนล่าง (คสปล.)
23. สหพันธ์เยาวชนคลองเตย (สยค.)
24. เครือข่ายองค์กรชุมชนคลองเตย
25. เครือข่ายชุมชนเมืองบ่อนไก่ กทม.
26. กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อรัฐสวัสดิการ
27. เครือข่ายอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนเขลาโคก จังหวัดร้อยเอ็ด
28. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
29. กลุ่มคนรุ่นใหม่ภาคใต้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)