Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

                                                                      "เพราะฉันขบถ ฉันจึงมีชีวิตอยู่“
                                                                                                       อัลแบร์ กามู 
 

คงไม่มีใครปฏิเสธกันหรอกว่า สื่อมวลชน ในโลกปัจจุบัน มีอิทธิพลสำคัญในการกำหนดชีวิตผู้คนในหลายมิติหลายด้าน

เพราะว่า บทบาทของสื่อมวลชน ได้เสนอ ‘ความจริง’ ไม่ว่า ’ความจริง’ นั้นจะ ‘จริง’หรือไม่ ? ก็ตาม ‘ความจริง’ นั้นจะถูกปรุงแต่งอย่างไร แต่ก็เป็น ‘ความจริง’ ที่ถูกสร้างขึ้น ถูกตอกย้ำ บ่อยๆซ้ำๆ จนกลายเป็นความคิดความเชื่อของผู้คนไปโดยไม่รู้ตัวว่า เป็น ‘ความจริง’ และผู้คนก็ยังหลงเชื่อกันว่า ตัวเองมีเสรีภาพ ที่จะเชื่อที่จะเลือก

แม้ว่า โดยแท้แล้ว ย่อมมีชุดความจริงหลายชุด แต่สื่อมวลชนมักสร้างชุดความจริงชุดเดียว เพื่อครอบงำผู้คน อยู่เสมอ

เรื่องราวต่างๆของชีวิตผู้คน ก็ย่อมเป็นเช่นนั้น

การต่อสู้ทางการเมืองในสังคมการเมืองไทย ก็เป็นเช่นนั้น ซึ่งสื่อมวลชนไทย ภายใต้อำนาจและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องทางตรงทางอ้อมของผู้บริหาร ได้กำหนดให้สื่อมวลชนในอำนาจบัญชาการของเขาเสนอชุดความจริงชุดเดียว ที่เอื้อประโยชน์ให้กับระบอบอำมาตย์ ซึ่งมีกระบวนการทั้งเปิดเผย แยบยล ซ่อนเงื่อน และเนียนๆ

อาทิ การเลือกที่จะเสนอบางส่วนของข่าวทั้งหมด การเลือกนักวิชาการฝ่ายเดียวกัน การตัดต่อบทสัมภาษณ์ตัดต่อข่าว ปั้นข่าว การสรุปงานเวทีสัมมนา การตั้งคำถามนำของผู้ดำเนินรายการ ฯลฯ เพื่อให้ความชอบธรรมกับระบอบอำมาตย์ เพราะสื่อมวลชนมีจุดยืนฝ่ายอำมาตยาธิปไตย

ในโลกอุดมคิตที่ควรจะเป็นนั้น สื่อมวลชนควรมีจุดยืนในการเสนอข่าวสารข้อเท็จจริง อย่างเป็นกลาง เที่ยงธรรม รอบด้าน

ในโลกอุดมคิตที่ควรจะเป็นนั้น สื่อมวลชนเติบโตพร้อมๆกับสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย สื่อมวลชนจึงควรรักหวงแหนประชาธิปไตย

ในโลกแห่งความเป็นจริง มีสื่อมวลชนไม่น้อยหลงใหลเป็นปลื้มกับระบอบเผด็จการทหาร

ในโลกแห่งความเป็นจริง สื่อมวลชนจำนวนมากมีส่วนเปิดทางให้ความชอบธรรม เผด็จการทรราชย์เข่นฆ่าประชาชนผู้เรีกยร้องเสรีภาพ ความยุติธรรมและประชาธิปไตย

ในโลกแห่งความเป็นจริง มีสื่อมวลชนทำหน้าที่ สร้างข่าว ปั้นสาร ตกแต่งเนื้อหาเพื่อปกป้องแก้ต่างให้กับอำนาจทมิฬเถื่อนเข่นฆ่าประชาชนผ็มีสองมือเปล่าต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

กระนั้นก็ตาม ผู้มีอาชีพทำหน้าที่ สื่อมวลชนจำนวนมาก พวกเขาเข้าสู่วงการนี้ ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยอุดมคติ มีความหวัง ความใฝ่ฝันที่จะร่วมสร้างสังคมอุดมคติ สังคมที่มีความเสมอภาค สังคมที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

เส้นทางเลือก สื่อมวลชน น่าจะเป็นเส้นทางหนึ่งที่ทำให้ชีวิตมีความคุณค่า หาความหมายได้ตราบที่ยังมีลมหายใจในโลกใบนี้ และวงการสื่อก็น่าจะมีเสรีภาพให้ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง

แต่โลกสื่อมวลชนที่เป็นจริงในสังคมไทยนั้น อำนาจกับรวมศูนย์เฉกเช่นกลไกราชการของระบอบอำมาตย์เช่นกัน มีการบังคับบัญชาลำดับชั้น มีการรวมศูนย์ทิศทางข่าวของคนเพียงน้อยนิด มีเส้นสายอุปถัมป์ในวงการ ฯลฯ 

ผู้สื่อข่าวภาคสนามมักไร้ซึ่งอำนาจเสนอข่าวที่ตัวเองพบเจออย่างแท้จริง แต่อำนาจกลับอยู่ที่บรรณาธิการที่นั่งอยู่ในห้องแอร์ผู้ฟังคำสั่งของเจ้าของ/นายทุนไม่กี่คนอย่างจงรักภักดี สื่อมวลชนไม่มีสิทธิโต้แย้งบรรณาธิการได้ เมื่อบรรณาธิการเลือกข่าวบางอย่างปฏิเสธข่าวบางด้าน เพื่อรับใช้ระบอบอำมาตย์ 

นักสื่อสารมวลชน หลายคน มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี แต่ไม่มีสิทธิที่จะคิดเห็นแย้งกับบรรณาธิการ

การจัดโครงสร้างองค์กรของสื่อมวลชน จึงไม่เป็นประชาธิปไตย ยังล้าหลังค่ำครึและอนุรักษ์นิยม

นักอุดมคติสื่อมวลชนไม่น้อย จึงสิ้นไร้ความหวัง

ทางเดียวเท่านั้นสำหรับ นักอุดมคติต้องต่อสู้ ต้องต่อต้าน ต้องรวมตัวกันสร้างพลังต่อรองกับผู้บริหารกับเจ้าของสื่อและบรรณาธิการข่าวต่างๆ

เพราะนักสื่อสารมวลชน ไม่ใช่เครื่องจักรกล 

เพราะผู้สื่อข่าว หาใช่หุ่นยนต์ แต่เป็นมนุษย์ ที่มีชีวิต จิตใจ ที่ต้องมีเสรีภาพ

เพราะนักสื่อสารมวลชนส่วนใหญ่รักประชาธิปไตย มีความใฝ่ฝันที่แสนงาม

เพราะนักข่าว จำนวนมากรับไม่ได้ที่ทรราชย์สั่งฆ่าประชาชน

อย่าปล่อยให้วิญญาณขาดหายไป

เพราะ “ฉันขบถ ฉันจึงมีชีวิตอยู่”

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net