Skip to main content
sharethis


ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวน 20 คนที่เข้าไปตรวจค้นในอาคารรัฐสภานำอาวุธที่เข้าไปยึดมาจากเจ้าหน้าที่ด้านในออกมาโชว์ให้คนเสื้อแดงและสื่อมวลชนถ่ายภาพก่อนจะไป แจ้งความดำเนินคดี

เวลา 12.10 น. ที่รัฐสภา มีรายงานข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาปิดล้อมรอบอาหารรัฐสภา มีคนจำนวนหนึ่งได้ปีนรั้วเข้าเพื่อยกเหล็กกั้นประตูออกก่อนจะพังประตูเข้ามาได้สำเร็จ ก่อนรถบรรทุกของเสื้อแดงจะขับเปิดทางเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในเดินถอยร่นกลับเข้าไปภายในอาคาร ขณะที่ผู้ชุมุนมได้กรูกันเข้ามาภายในบริเวณด้านอาคารรัฐสภาแล้ว แกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มนี้นำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง

เวลา 12.45 น. รถปราศรัยที่มีอริสมันต์เป็นแกนนำได้ออกมาจากรัฐสภา พร้อมทั้งชูระเบิดซึ่งคาดว่าอาจเป็นระเบิดควัน หรือระเบิดเพลิงที่ไม่ทำงานขึ้นโดยอ้างว่ารัฐบาลตั้งใจโยนใส่ฝูงชนด้านหน้า และเรียกร้องให้ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยนำหลักฐานดังกล่าวไปหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้เวลาครึ่งชั่วโมงรออยู่ด้านหน้าเพื่อให้หาคนปาระเบิดให้ได้ และขอให้เปิดประตูไว้เช่นเดิม โดยผู้ชุมนุมจะรักษากติกายืนอยู่ด้านหน้า แต่หากหาไม่ได้ถือว่าสิ้นสุดการเจรจา

เวลา 12.50 น.ตัวแทนจากรัฐสภาว่า พ.ต.ต.วิชัย สังประไพ พยายามหาที่มา และระบุเจ้าหน้าที่คงไม่ได้ใช้แบบนี้ และจะพยายามหาที่มาให้ได้ อย่างไรก็ตามขอให้คนเสื้อแดงพยายามรักษาความเป็นสันติวิธีไว้ให้ได้ แต่นายอริสมันต์กล่าวโต้ตอบว่า ให้พล.ต.อ.วิชัย เงียบและคนเสื้อแดงไม่ต่อรองแล้ว พร้อมยืนยันจะส่งตัวแทนเข้าไปจำนวน 20 คน เข้าไปในพ้นที่ของรัฐสภา เพื่อควานหาตัวนายสุเทพ และหากอยู่ต้องออกมาเจรจากับคนเสื้อแดง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ยินยอม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ กล่าวกับผู้ชุมนุมว่าบริเวณอาคารัฐสภาเป็นพื้นที่ของอำนาจนิติบัญญัติ ไม่สามารถให้ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปได้ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

13.00 น. ตัวแทนคนเสื้อแดง 20 คนได้เดินทางเข้าไปในรัฐสภาพร้อมเจ้าหน้าที่แล้ว หลังจากรองประธานสภา และนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.เพื่อไทย ออกมาเกลี้ยกล่อมแล้วแต่ไม่เป็นผล

เวลา 13.10 น.คนเสื้อแดงที่เข้าไปด้านในออกมาพร้อมกับอาวุธปืนเอ็มสิบหก และปืนสั้นอย่างละ 1 กระบอก โดยระบุว่ายึดมาได้จากเจ้าหน้าที่ด้านในรัฐสภา โดนายก่อแก้ว พิกุลทองปราศรัยกับผู้ชุมนุมให้ผู้ชุมนุมสงบสติอารมณ์  จะไม่มีการบุกไปในสภา จะยึดในสันติวิธี โดยไม่ตกหลุมพรางของผู้ยั่วยุที่ต้องการให้เกิดความรุนแรง และจะไม่ทำลายสถานที่ราชการ ไม่ยึดสถานที่ราชการอย่างที่พันธมิตรฯ ทำ พร้อมกล่าวเตือนผู้ชุมนุมระวังว่าจะซ้ำรอยกับสงกรานต์เลือดซึ่งคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำ

เวลา 13.15 น. มีรายงานข่าวว่า เฮลิคอปเตอร์รุ่นแบล็คฮอร์ค จำนวน 2 ลำ ได้บินออกจากกรมทหาราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) มุ่งหน้าไปยังพระที่นั่งวิมานเมฆ เพื่อรอรับบุคคลสำคัญที่ยังติดอยู่ในอาคารรัฐสภา ก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะบุกเข้าไปยังภายในอาคารรัฐสภา

จากนั้น เวลา 13.25 น. เฮลิคอปเตอร์รุ่นแบล็คฮอร์ค ได้เดินทางกลับมายัง ร.11 รอ. ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธีระชาติ ปางวิรุฬหรักษ ส.ส.ชุมพร ปชป. นายชุมพล จุณใส ส.ส.ชุมพร ปชป. นายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายไชยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อแผ่นดิน ร่วมเดินทางมาด้วย ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงร.11 รอ.นายสุเทพ ได้นั่งรถตู้เพื่อเดินทางไปเข้าร่วมประชุมกอ.รมน. ซึ่งมีนายกฯและผู้นำเหล่าทัพร่วมประชุมกันก่อนหน้านี้แล้ว

แกนนำแจงบุกเข้าสภาเพื่อทวงถามใครปาระเบิดเพลิง ส่งตัวแทนค้นพบอาวุธปืน ระเบิดในสภา

เวลาประมาณ 13.45 นาที นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. แถลงบนเวทีปราศรัยแยกราชประสงค์ว่า ขณะนี้ได้ให้สุพร อัตถาวงศ์ ขวัญชัย ไพรพนา และเจ๋ง ดอกจิก ไปเฝ้าสถานีไทยคมแล้ว เพราะเป็นห่วงว่าอาจใช้กำลังทหารไปจี้ เพื่อตัดสัญญาณพีเพิลชาแนล ที่สถานีขณะนี้มีเสื้อแดงนนทบุรีและละแวกใกล้เคียงรวมตัวกันด้านนอกเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน หากรัฐบาลกดดันให้ไทยคมตัดสัญญาณ สิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับไทยคมอย่างเดียว เพราะมีการเชื่อมสัญญาณกับต่างชาติอีกดวง รวมเป็น 2 ดวง ถ้าตัดเฉพาะไทยคมก็เป็นเรื่องในประเทศ แต่นี่จะรวมดาวเทียมต่างประเทศด้วย หากพีเพิลชาแนลจอดำ อีก 10 กว่าประเทศก็จะจอดำด้วย และรัฐบาลไทยจะเป็นจำเลยถูกฟ้องร้องค่าเสียหาย ซึ่งท้ายที่สุดก็ต้องใช้ภาษีอากรของประชาชนในการชดใช้

ณัฐวุฒิ กล่าวต่อเรื่องรัฐสภาว่า อริสมันต์กับคณะติดตามความเคลื่อนไหวอยู่บริเวณนั้น ปรากฏมีคนโยนระเบิดเพลิงมา 2 ลูก โชคดีที่ไม่ทำงาน จากนั้นจึงเรียกร้องให้คนรับผิดชอบดูแลสถานการณ์ตอบว่าตั้งใจโยนมาหรือไม่ ข่าวคราวที่ออกมาเป็นเพราะหลายฝ่ายตกใจ แต่ความจริงคนเสื้อแดงต้องการสอบถามข้อเท็จจริงกับนายสุเทพว่าใครจะรับผิดชอบระเบิดเพลิง และตอนท้ายได้ส่งตัวแทน 20 คนเข้าไปในสภา และได้พบอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 อาวุธปืนพก 9 มม. เท่ากับว่าที่รัฐบาลพูดตลอดว่ารับมือกับผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธก็เป็นความเท็จอย่างชัดเจน

ด้านอริสมันต์ กล่าวว่า ระเบิดดังกล่าวหากทำงานจะเป็นควันสีเขียว และทำให้ผู้ชุมนุมปวดแสบปวดร้อน อาจล้มลงทับกันก่อให้เกิดการเสียชีวิต ระเบิดดังกล่าวถูกปาออกมาระหว่างที่ตนกำลังจะขึ้นรถประกาศให้ประชาชนสงบแล้วจะนำทัพกลับ แต่เนื่องจากผู้ชุมนุมมีจำนวนมากเมื่อระเบิดถูกปาออกมาได้ตกลงบนท้องของคนคนหนึ่ง แล้วเขาจับไว้ได้เลยไม่กระทบกับพื้นและไม่แตก ทำให้สลักไม่ดีดขึ้น คาดว่าเมื่อเกิดความโกลาหล อาวุธปืนเอ็มสิบหกอาจต้องกราดออกมา และจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอ้างว่ามือที่สาม คนเสื้อแดงจึงต้องการทราบว่านายสุเทพสั่งให้โยนระเบิดเพื่ออะไร นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบรถโตโยต้าคันหนึ่งมีอาวุธปืนและระเบิดจำนวนมาก เราได้ขอให้เปิดประตูรัฐสภาแต่เจ้าหน้าที่พยายามขัดขืน แต่เจ้าหน้าที่อีกจำนวนได้ส่งกุญแจให้เปิดดังนั้นจึงเป็นการเปิดประตูเข้าไป ไม่ใช่การบุกพักประตูแต่อย่างใด
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net