Skip to main content
sharethis

สธ.ยันจัดสรรงบกองทุนบริการสาธารณสุขคนรอพิสูจน์สถานะ 4.5 แสนคนตามรายหัว ไม่ได้ใช้หนี้แทนโรงพยาบาลที่มีปัญหา ปัญหาการบริหารกองทุนสุขภาพคนไร้สถานะ ด้าน สปสช.พร้อมสนับสนุนจัดการระบบข้อมูล

5 เม.ย.53  นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการบริการจัดการกองทุนบริการสาธารณสุขเพื่อประชาชนที่รอพิสูจน์สถานะบุคคล จำนวน 457,409 คน ว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ( สป.) ไม่ได้เป็นผู้เสนอเป็นผู้บริหารจัดการกองทุน แต่เนื่องจากในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการทักท้วงเกี่ยวกับกฎหมายของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ระบุชัดว่า มีหน้าที่ดูแลคนที่มีสัญชาติไทย หากให้ สปสช.ดำเนินการอาจจะเกิดข้อโต้เถียงในอนาคตได้ จึงควรให้เป็นงบประมาณกลาง โดย สป.เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งการบริหารจัดการยังคงใช้ระบบเดียวกับ สปสช.โดยหลักการจะกระจายงบตามจำนวนของประชากรในพื้นที่ต่างๆ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้หนี้แทนโรงพยาบาล
       

“บุคคลรอพิสูจน์สถานะได้รับจัดสรรงบประมาณค่าเหมาจ่ายรายหัวปีละ 2,067 บาท โดยในปีนี้งบประมาณ 2553 สถานพยาบาลที่ประสบปัญหาจะได้รับการจัดสรรครึ่งหนึ่ง คือ 1,033.5 บาทต่อหัวประชากร เนื่องจากการดำเนินการเป็นไปเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะเป็นการจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเต็มจำนวน โดยไม่หักในส่วนที่เป็นเงินเดือน”
นพ.ไพจิตร์ กล่าว
       
ต่อข้อถามว่า บางกลุ่มมีการเสนอให้ สปสช.เป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากมีระบบการจัดการและประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน โดยขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความเปิดช่องกฎหมาย นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า หากมัวแต่การตีความอาจจะช้าเกินไป และไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถดำเนินการได้เมื่อไหร่ วิธีการนี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว
       
ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ3% ของกองทุนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์
       

ทั้งนี้ บุคคลที่เข้าข่ายจะได้รับการคืนสิทธิการรักษาพยาบาลภายใต้กองทุนนี้จำนวนทั้งสิ้น 457,409 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.บุคคลที่ ครม.รับรองให้อยู่ในประเทศไทยถาวร ประมาณ 9 หมื่นคน 2.บุคคลที่ ครม.ผ่อนผันให้อยู่ชั่วคราวเพื่อรอพิสูจน์สถานะและมีแนวโน้มที่จะได้สัญชาติไทย 296,863 คน และ 3.นักเรียนที่ได้รับสิทธิเรียนฟรีตามนโยบายของรัฐบาล มีการทำทะเบียนและประวัติที่ชัดเจนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับบริการด้านการรักษา 70,513 คน
สปสช. กล่าวว่ายอมรับมติ ครม.ที่ให้สป.เป็นผู้บริหารจัดการกองทุน ซึ่งใช้หลังการเดียวกับสปสช. ดังนั้นสปสช.จึงพร้อมที่จะสนับสนุนด้านข้อมูล และระบบการจัดการกลุ่มบุคคลกลุ่มดังกล่าวซึ่งมีรายชื่อตามทะเบียนราษฎร์อยู่แล้ว รวมทั้งวิธีการคำนวณงบประมาณ ซึ่งจะง่ายกว่าหากสป.จะดำเนินการจัดทำระบบเองใหม่ทั้งหมด ซึ่งไม่คุ้มค่า ส่วนงบบริหารจัดการที่จะใช้

 
 
ที่มา: ASTV-ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net