เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2553 เวลา 17.00 น.นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยกล่าวว่าการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมีประชาชนเข้าร่วมและสนับสนุนมากขึ้น เพราะเสนอปัญหาของประเทศได้ตรงใจคนคือความไม่เป็นประชาธิปไตยและความเป็นสองมาตรฐาน ที่สำคัญยังเป็นเพราะการต่อสู้นี้เป็นการต่อสู้โดยสันติวิธี แต่การต่อสู้ที่ใช้สันติวิธีนี้เป็นเรื่องยากต้องอาศัยคนจำนวนมาก ประชาชนจึงจำเป็นต้องใช้ความอดทน อดกลั้น ไม่ยอมใช้ความรุนแรงใดๆ และยังต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่าอาจต้องใช้เวลากว่าบ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตย
นายจาตุรนต์กล่าวด้วยว่า “ผมอยากจะฝากความเห็นไปยังรัฐบาลว่าต้องล้มเลิกความคิดที่จะพยายามทำให้สังคมเข้าใจว่าประชาชนที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นพวกนิยมความรุนแรงเพื่อจะได้ปราบปรามในที่สุด รัฐบาลไม่ควรสนใจแต่จะเอาชนะคะคานเป็นครั้งๆ ไปอย่างที่ทำอยู่ควรจะทำความเข้าใจว่าสาเหตุต้นตอของปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทยอยู่ที่ไหน”
“การที่รัฐบาลบริหารงานล้มเหลว มีการทุจริต คอรัปชั่นมากและไม่ได้พยายามแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมืองนั้น ยิ่งอยู่นานไปก็ยิ่งสะสมปัญหามากขึ้นทุกที รัฐบาลอาจเอาตัวรอดไปได้เพราะมีบางฝ่ายช่วยอุ้มชูอยู่ แต่นับวันคนไม่ยอมรับก็ยิ่งมากขึ้นและวิกฤตของสังคมไทยก็จะยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น”
“นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะยุบสภาต่อเมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญ แก้กติกาให้เป็นที่ยอมรับกันเสียก่อน ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญแม้แต่มาตราเดียวเท่ากับต้องการอยู่ในอำนาจให้นานที่สุดโดยไม่สนใจแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศแต่อย่างใดเลย” นายจาตุรนต์กล่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)