Skip to main content
sharethis

หลังจากนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความเห็นส่วนตัวกรณียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านทางหน้าเฟซบุ๊คของเขา http://www.facebook.com/notes/korn-chatikavanij/mum-mxng-swn-tw-khdi-yd-thrphy/339730144729  เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่้ผ่านมา ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ล่าสุด วันนี้ (5 มีนาคม) เขาได้เขียนถึงกรณีดังกล่าวอีกครั้ง ในหัวข้อ "ขออธิบายเพิ่มเติมถึงจุดยืน…จากใจ" โดยขอให้ผู้ที่เข้าใจผิดว่าเขาสนับสนุนการปฏิวัติ ลองกลับไปอ่านบทความของเขาอีกครั้งหนึ่ง เพราะไม่มีตอนไหนในบทความที่เขียนเช่นนั้นแม้แต่นิดเดียว

ทั้งนี้ นายกรณ์ ยืนยันด้วยว่า ความคิดที่เขาต้องการสื่อมากที่สุดในบทความก่อนหน้านั้น ไม่ใช่เรื่องว่าควรยึดทรัพย์เท่าใด แต่คือประโยคที่ว่า “ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ ความยุติธรรมก็จะปรากฏเสมอ โดยไม่ต้องมีคนมายัดเยียดให้กับเรา ด้วยการปฏิวัติหรืออื่นๆ เราทำได้เองแต่เราทำไม่ได้ บทเรียนนี้ผมคิดว่าเป็นบทเรียนสำคัญจากคดีนี้ครับ” และ “เพราะผมไม่แน่ใจว่า พวกเราชาวไทยได้เรียนรู้ในเชิงลึกจากเรื่องราวทั้งหมดนี้หรือไม่”

0 0 0

ขออธิบายเพิ่มเติมถึงจุดยืน…จากใจ
กรณ์ จาติกวณิช

ผมยอมรับว่าผมคาดไม่ถึงว่า บันทึกความรู้สึกของผมในเรื่องคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกทักษิณ จะได้รับความสนใจมากถึงขนาดนี้ และแน่นอนที่สุดก็มีทั้งผู้ที่อ่านแล้วเข้าใจคลาดเคลื่อนและผู้ที่มีเจตนาพยายามบิดเบือนความหมาย

อยากให้ทุกคนที่เข้าใจผิดว่าผมสนับสนุนการปฏิวัติ กรุณากลับไปอ่านบทความของผมอีกครั้งหนึ่งนะครับ เพราะไม่มีตอนไหนในบทความที่เขียนว่าอย่างนั้นแม้แต่นิดเดียว

ผมอยากเล่าเพิ่มเติมนะครับว่าคืนวันที่ 19 กันยายน 2549 (ในคืนปฏิวัติ) ระหว่างที่ผมยังตรวจสอบรัฐบาลในฐานะสส.ฝ่ายค้านอยู่นั้น ผมรับทราบข่าวด้วยความเศร้าหมอง และผมจำได้ว่าภรรยาของผมพูดกับผมว่า “เขาปฏิวัติ เพราะเธอไม่สามารถเอาผิดคนขี้โกงได้”

ผมจำได้ว่าผมนั่งไตร่ตรองในสิ่งที่ภรรยาของผมพูด และได้คิดว่าถึงแม้ว่าผมได้พยายามแล้วที่จะกระตุ้นกลต. สรรพากร ปปง. ฯลฯ แต่ก็ล้มเหลว จึงสมควรที่จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิวัติที่ได้อ้างเรื่องทุจริตคอรัปชั่นเป็นเงื่อนไขและสาเหตุ และนับแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างที่ผมทำนั้นเป็นการแสดงความรับผิดชอบและพยายามป้องกันไม่ให้การปฏิวัติเกิดขึ้นอีก

ดังนั้นถ้าท่านใดยังคิดว่าผมนิยมการปฏิวัติ กรุณาช่วยกลับไปอ่านบทความเดิมของผมอีกครั้งนะครับ และผมขอยืนยันความคิดที่ผมต้องการสื่อมากที่สุดในบทความนี้ ไม่ใช่ว่าผมคิดว่าควรยึดเงินเท่าโน้นเท่านี้ แต่คือประโยคนี้ครับ “ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ ความยุติธรรมก็จะปรากฏเสมอ โดยไม่ต้องมีคนมายัดเยียดให้กับเรา ด้วยการปฏิวัติหรืออื่นๆ เราทำได้เองแต่เราทำไม่ได้ บทเรียนนี้ผมคิดว่าเป็นบทเรียนสำคัญจากคดีนี้ครับ” และตามด้วย “เพราะผมไม่แน่ใจว่า พวกเราชาวไทยได้เรียนรู้ในเชิงลึกจากเรื่องราวทั้งหมดนี้หรือไม่” ขอให้ท่านอ่านแล้วคิดกันเองแล้วกันครับ

ท้ายนี้ผมอยากจะฝากไว้ว่า ภูมิต้านทานการปฏิวัติที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริงคือการมีรากฐานของนิติรัฐหรือการที่สังคมให้ความเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายซึ่งคล้องจองกับที่ท่านนายกอภิสิทธิ์กล่าวไว้ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “หากว่าสังคมไม่เคารพกฎหมาย ก็ไม่มีจุดจบ” ตัวผมเองอยากจะพูดต่อว่า “หากว่าสังคมไม่เคารพกฎหมาย ประเทศไทยคงปกครองด้วยกฎหมู่”

“Post hoc ergo propter hoc”

 

....................................
ที่มา: http://www.facebook.com/notes/korn-chatikavanij/khx-xhibay-pheim-teim-thng-cudyncak-ci/344208509729

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net