กระทรวงทรัพย์ฯ สั่งปิดกิจการสูบน้ำเกลือที่โคราชไร้ผล เกิดหลุมยุบหลุมสอง

ระยะเวลาผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน แต่กลับมีเหตุการณ์หลุมยุบเกิดขึ้นซ้ำสองในบริเวณใกล้เคียงกับหลุมเดิม ห่างกันประมาณ ๕ เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๕ เมตร ส่วนหลุมเดิมนั้นก็มีการพังทลายของดินเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ในที่ดินของนางสุข ชอบรัก อายุ ๖๒ ปี ในเขตหมู ๔ บ้านหนองราง ต.ค้างพลู อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา

หลังจากเป็นข่าวใหญ่โตของการเกิดหลุมยุบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มีสำคั่งให้ ๓ กระทรวงคือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทยดำเนินการ

๑. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) จัดงบประมาณเพื่อตรวจสอบโครงสร้างชั้นดินในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง

๒. พิจารณาการใช้อำนาจทางกฎหมาย ให้ผู้ประกอบกิจการปิดกิจการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบว่าเหตุนั้นเกิดจากการประกอบกิจการจริงหรือไม่

๓. ตรวจสอบผลกระทบของชาวบ้าน

แต่ก็มีเพียงกระทรวงทรัพยากรฯเท่านั้นที่เข้าไปทำการเอ็กซเรย์พื้นที่ และได้พบว่าได้พื้นดินบริเวณใกล้เคียงหลุมยุบนั้นเป็นโพรงใต้ดินกินพื้นที่ยาวประมาณ ๑ กิโลเมตร ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการสูบน้ำเกลือ จึงมีคำสั่งให้หยุดกิจการการสูบน้ำเกลือชั่วคราว ๓๐ วัน แต่ก็ไม่เป็นผลใดๆปัจจุบันยังคงมีการสูบน้ำเกลือใต้ดินอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ในเรื่องการฟ้องคดีซึ่งมีคำพิพากษาจากศาลปกครองโคราชออกมาแล้วว่า 

 “ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดท้องที่ที่อนุญาตให้ตั้งโรงงานทำเกลือสินเธาว์และโรงงานสูบหรือนำน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๓๔ เป็นการออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อกำหนดท้องที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งโรงงานทำเกลือสินเธาว์ และโรงงานสูบน้ำเกลือหรือน้ำนำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน มิใช่เป็นการออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อกำหนดจำนวนโรงงานแต่ละประเภท หรือชนิดตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎกระทรวงฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๑๒) และบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวงดังกล่าว ที่จะอนุญาตให้ตั้งหรือขยาย หรือที่จะไม่อนุญาตให้ตั้งหรือขยายในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง จึงไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบทบัญญัติในมาตรา ๓๓(๑) แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๑๒ และเป็นประกาศที่ออกโดยไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด  เนื่องจากไม่ได้นำประกาศดังกล่าวไปให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ก่อนที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๓๔ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่มาตรา ๓๓(๑) แห่งพระราชบัญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้กำหนดไว้ จึงทำให้ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดท้องที่ที่อนุญาตให้ตั้งโรงงานทำเกลือสินเธาว์และโรงงานสูบหนือนำน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๓๔ ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีลักษณะที่ผิดพลาดอย่างชัดแจ้งและร้ายแรง ซึ่งในทางกฎหมายถือเสมือนว่าไม่มีการออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดท้องที่ที่อนุญาตให้ตั้งโรงงานทำเกลือสินเธาว์และโรงงานสูบหรือนำน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๓๔ ศาลจึงไม่จำเป็นต้องมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับดังกล่าว เพราะประกาศฉบับดังกล่าวย่อมไม่มีผลบังคับตามกฎหมายอยู่ในตัว ทั้งนี้ โดยเทียบคียงตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขแดงที่ อ.๔๗/๒๕๔๖” แต่ก็ยังคงอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์ของหน่วยงานรัฐต่อไป

เช่นนี้แล้วชาวบ้านในพื้นที่เห็นว่ายังไม่มีการดำเนินการใดๆที่คืบหน้าและเป็นธรรมต่อชาวบ้านเลย ชาวบ้านในพื้นที่จึงได้รวมตัวกันใน ๔ อำเภอซึ่งมีการทำเกลือของโคราช คือ อ.โนนไทย โนนสูง พระทองคำ และขามทะเลสอ เพื่อต้องการที่จะเรียกร้องโดยหวังผลให้มีการปิดตัวของกิจการทำเกลือในโคราชทั้งหมดไม่ว่าจะต้ม ตาก หรือขายน้ำเกลือก็ตาม และห้ามทำการขนย้ายน้ำเกลือเข้ามาต้มหรือตากในโคราชอีกด้วย
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท