Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2553 ถึงการวิเคราะห์ทิศทางการเมืองในปี 2553 นี้ โดยมี ศ.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ คณบดีสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และ ไชยันต์ ไชยพร จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมวิเคราะห์

โดย ศ.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ คณบดีสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มองว่า ความขัดแย้งทางการเมืองจะยังคงมีอยู่ต่อไป เนื่องจากกลุ่มที่สนับสนุน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ประกาศชัดว่าจะกดดันรัฐบาลทุกวิถีทางให้มีการยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่คำว่าจะไม่ก่อความรุนแรง เนื่องจากเห็นว่าใครก่อความรุนแรงก่อนจะเสียเปรียบ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และรัฐบาลก็จะรับมือด้วยการประกาศใช้ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

ศ.สมบัติ บอกอีกว่า การเมืองปี 2553 มีจุดเปราะบางอีก 2 จุด คือ 1. หากมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และ 2. หากศาลมีการสั่งยกฟ้องคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท. ทักษิณ ก็จะทำให้ผู้สนับสนุนมีความฮึกเหิม เกิดความมั่นใจในการกดดันรัฐบาลมากขึ้น แต่ถ้าหากรัฐบาลผ่านพ้นจากสองข้อดังกล่าวไปได้ ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่จนครบวาระ

แต่ถ้าหากรัฐบาลเกิดการยุบสภาเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยก็จะหาเสียงเรื่องการนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ รวมทั้งการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ และหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แม้ว่าจะมีความชอบธรรมที่จะดำเนินการในเรื่องที่กล่าวมา แต่จะเกิดปัญหาใหม่ คือมีคนคัดค้าน และทำให้การเมืองไทยจะกลับไปอยู่ในวังวนเดิมอีก

ด้านนาย ไชยันต์ ไชยพร จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่าหากประชาธิปัตย์ถูกตัดสินยุบพรรค พรรคการเมืองที่เคยอยู่กับประชาธิปัตย์ก็จะหันไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ละหากพรรคเพื่อไทยได้ เป็นรัฐบาล เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงจะยุติลง

ขณะที่หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล การเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญและการติดตามเรื่องการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุมต่อต้านอีกครั้งและจะมีความยืดเยื้อ ขณะเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดง หรือนปช. ที่เป็นคนทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาก็จะออกมาชุมนุมด้วย ทำให้เป็นประเด็นที่มีความขัดแย้งรุนแรงมากกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ไชยันต์ให้ความเห็นอีกว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจถึงขั้นจลาจลและกลายเป็นสงครามกลางเมืองได้

ไชยันต์กล่าวอีกว่า หาก ประชาธิปัตย์ไม่ถูกตัดสินยุบพรรค การเมืองจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก เสื้อแดงก็จะยังชุมนุมต่อไปแต่ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ โดย พ.ต.ท. ทักษิณ จะยังคงเดินทางไปๆ มา ๆ กัมพูชาเพื่อสร้างแวงโหมกระพือให้กับการเคลื่อนไหวของเสื้อแดง แต่ส่วนตัวไชยันต์เชื่อว่าทักษิณจะไม่กล้ากลับประเทศไทยจริง ๆ อย่างที่ปล่อยข่าวลือออกมา

ไชยันต์เปิดเผยอีกว่า การตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท. ทักษิณ ที่จะมีขึ้นในเดือน ก.พ. 2553 จะไม่เป็นปัจจัยส่งผลต่อการล้มรัฐบาลของกลุ่มเสื้อแดง แต่จะยังคงชุมนุมอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อรักษาความนิยม สำหรับการเลือกตั้งที่อาจจะมีขึ้นวันใดวันหนึ่ง

โดยไชยันต์บอกว่าปัจจัยที่จะทำให้รัฐบาลประชาธิปัตย์อยู่จนครบวาระขึ้นอยู่กับการบริหารงานเพื่อแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ หากรัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่สำเร็จจะทำให้ภาพลักษณ์ตกต่ำ การอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยย่อมได้รับการสนับสนุนจากประชาชน การยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่ก็จะเกิดขึ้น และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยยังคงได้คะแนนเสียงมากที่สุดในสภา แต่ไม่น่าจะมากเกินครึ่งสภา
 

ที่มา : โพสต์ทูเดย์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net