Skip to main content
sharethis

กลุ่มองค์กรชาวบ้านและเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนจากพื้นที่ต่างๆ ในสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง รวมตัวหน้าศาลกลาง จ.สงขลาทวงถามความคืบหน้าและเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายคดียิง “สิทธิชัย แพทย์พงศ์ อุปนายกสมาคมรักษ์ทะเลไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส

 
 
เวลา 10.00 น. วานนี้ (14 ธ.ค.) กลุ่มองค์กรชาวบ้านและเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนจากพื้นที่ต่างๆในจังหวัดสงขลา และใกล้เคียง รวมตัวกันในนามเครือข่ายประชาชนผู้ต้องการความสงบสุขในบ้านเมือง จังหวัดสงขลารวมตัวหน้าศาลกลางจังหวัดสงขลาทวงถามความคืบหน้าและจี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายคดียิงเจ้าหน้าเอ็นจีโออาการเจ็บสาหัส
 
นายมานะ ช่วยชู เลขาธิการองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) กล่าวว่าวันนี้เราต้องมาชุมนุมเรียกร้องที่ศาลากลางจังหวัดอีกครั้ง หลังจากที่ได้มีตัวแทนเดินทางมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 52 เพื่อเรียนร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน เพื่อจับกุมคนร้ายผู้ยิงนายสิทธิชัย แพทย์พงศ์ อุปนายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย ซึ่งเป็นสมาชิกองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ เป็นผู้ที่ทำงานเพื่อผู้ด้อยโอกาสในสังคมและทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีผลงานในการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์และฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มแม่บ้าน
 
นอกจากนั้นนายสิทธิชัย ได้นำเอาประสบการณ์จากการทำงานไปขยาย สร้างกิจกรรมช่วยเหลือสังคมในบ้านเกิดของตัวเองคือที่บ้านสวนพลู หมู่ 6 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนสามารถทำให้ชุมชนแก้ไขปัญหาสำคัญๆ ได้จากการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ จัดตั้งกลุ่มสหกรณ์ร้านค้า สนับสนุนการรวมกลุ่มซื้อน้ำยาง จนทำให้เป็นชุมชนต้นแบบในการพัฒนาระดับตำบล ระดับอำเภอ การจัดตั้งกลุ่มต่างๆ ส่งผลให้มีผู้สูญเสียประโยชน์ นายสิทธิชัยเอง ได้รับข่าวการปองร้ายมาตลอด จึงพยายามระมัดระวังตัว นอกจากนั้นยังได้แจ้งความไว้กับ สภ.อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 50
 
จนกระทั่งวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านถูกประกบยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าหมู่บ้านทรัพย์ปรีชา ถนนลพบุรีราเมศวร์ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่เจ้าหน้าตำรวจในพื้นที่กลับไม่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อติดตามและจับกุมผู้ร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย
 
ซึ่งเมื่อวันที่ 4 นายอัครพล บุญนิตย์ ปลัดจังหวัดสงขลา เป็นตัวแทนขอมารับหนังสือแทน โดยรับปากว่าเป็นผู้รับเรื่องไว้ให้และจะดำเนินการต่อไป และ พล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รับปากว่า จะเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบคดีนี้ และตั้งคณะทำงานใหม่เป็นกรณีพิเศษ เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เท่าที่ได้ติดตามดูเห็นว่าเป็นคดีที่พิสูจน์ได้ มีปัจจัยแวดล้อมบ่งบอกค่อนข้างชัดเจน รวมถึงผู้บาดเจ็บเองก็รู้ตัวอยู่ว่าตนเองตกอยู่ในภาวะไม่ปลอดภัยและแจ้งความไว้ตั้งแต่ปี 50 ภายใน 10 วันนี้จะต้องมีความคืบหน้าแน่นอน
 
ในวันนี้ทางญาติ พี่น้อง ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนกลุ่มออมทรัพย์บ้านสวนพลู หมู่ 6 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ และเพื่อร่วมงาน องค์กรประชาชน จึงเดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าและทวงถามการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะครบ 10 วันตามที่รับปากยังไม่มีการดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาทั้งที่ชี้แจงว่ามีปัจจัยแวดล้อมบ่งบอกค่อนข้างชัดเจน เพราะเหตุเกิดท่ามกลางสายตาของผู้คนและแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก แล้วทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ดำเนินการใดๆเลย
 
ในการมาทวงถามความชอบธรรมในวันนี้ นามเครือข่ายประชาชนผู้ต้องการความสงบสุขในบ้านเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งต่างได้รับความทุกข์แสนสาหัสจากสถานการณ์ความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพตลอดถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตั้งแต่สัตว์เลี้ยง อาทิ วัว ถูกขโมยในเวลากลางวันแสกๆ มอเตอร์ไซค์สูญหาย ปัญหายาเสพติดขยายแพร่หลายทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ร้ายไปกว่านั้นมีอาชญากรรมฉกชิงวิ่งราว จี้ ปล้น รวมไปถึงมีการเข่นฆ่ากันอย่างอุกอาจ โดยคดีความส่วนใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายมาได้น้อยมาก ประชาชนต้องหวาดผวากับภัยรอบตัว ไร้ที่พึ่ง ไม่ได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง เราจึงต้องผจญกับการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างหวาดผวา ว่าเมื่อไหร่ภัยนั้น จะเกิดขึ้นกับตัวเรา กับลูกเมีย ญาติพี่น้องหรือเพื่อนบ้าน ข่าวคราวการลักขโมย จี้ ปล้น หรือประชาชนถูกฆ่ามีไม่เว้นแต่ละเดือน และคดีอุกฉกรรจ์ทั้งหลายก็เงียบหายไปกับสายลม
 
จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วยราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในจังหวัดสงขลา ได้ทบทวนตัวบุคคลที่หย่อนยานในการทำหน้าที่ ละเลยไม่เอาใจใส่ต่อความเดือดร้อนของประชาชน ให้พ้นไปจากการดำรงตำแหน่งในบทบาทหน้าที่ในตำแหน่งนั้นๆ โดยเร็ว และขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวจังหวัดสงขลาทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ได้ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ในฐานะพลเมือง ที่จะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบสังคมที่เราอยู่อาศัยร่วมกัน อย่าดูดาย อย่าเอาตัวรอดเฉพาะตัว เฉพาะกลุ่ม อย่างเกรงกลัวอำนาจเถื่อน อำนาจมืดที่กำลังครอบงำสังคมเราอยู่ในปัจจุบัน เพื่อสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นกับเมืองสงขลาของเราร่วมกัน
 
โดยมีการยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยมีนายอัครพล บุณยนิตย์ ปลัดจังหวัดสงขลามารับหนังสือแทนเนื่องจากผู้ว่าราชการติดภารกิจอยู่อ.สะเดาไม่สามารถเดินทางกลับมารับรับหนังสือทัน ข้อเรียกร้องหนึ่งให้กวดขันติดตามผู้ร้ายที่กระทำการยิงนายสิทธิ แพทย์พงศ์ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 52 มาดำเนินคดีโดยเร็ว
 
สองให้ตั้งกรรมการสอบสวนและลงโทษแก่ข้าราชการหน้าห้องของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องด้วยการเดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด ในวันที่ 4 ธ.ค. นั้นได้มีการประสานงานอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร แต่หน้าห้องของท่านไม่ได้ดำเนินการต่อให้ท่านได้ทราบ เพื่อจะได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดท่านใด หรือผู้ใดรับเรื่องราวความเดือดร้อนจากผู้ใหญ่บ้าน บิดา ญาติๆ และเพื่อนร่วมงานของนายสิทธิชัย สามให้ตั้งกรรมการสอบสวนความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของนายธำรงค์ เจริญกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด ด้วยในวันที่ 4 ธ.ค. 52 ที่ทางผู้ใหญ่บ้าน บิดา ญาติๆ และเพื่อนร่วมงานของนายสิทธิชัย แพทย์พงศ์ นายธำรงค์ เจริญกุล มีการประชุมอยู่ในห้องทำงาน ได้มีข้าราชการไปแจ้งให้ทราบ 2 ครั้ง ว่ามีผู้ใหญ่บ้าน บิดา ฯลฯ มารอยื่นหนังสือ ชาวบ้านยินดีรอจนกว่าท่านจะเสร็จการประชุม
 
แต่ปรากฏว่าเมื่อท่านประชุมเสร็จเดินออกจากห้องประชุมไปโดยไม่แยแส ไม่ใส่ใจประชาชนที่รอพบอยู่หน้าห้อง นับเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งผู้ทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชนเลย และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ควรจะทำ สี่ขอให้ย้ายนายอำเภอหาดใหญ่ ออกจากพื้นที่โดยด่วน เพราะไม่มีความสามารถในการสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ กรณีเกิดคดีความขึ้นหลายครั้ง ทั้งปล้น ฆ่ากันตายใน ต.ฉลุง หลายครั้ง ความตั้งใจในการทำงาน หากปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อไปก็จะเกิดผลเสียต่อชุมชนและภาพพจน์อันดีของหน่วยงาน
 
และยื่นหนังสือตำรวจภูธรภาค 9 ขอให้ย้ายข้าราชการตำรวจออกนอกพื้นที่ ได้แก่ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา , สารวัตรสอบสวนและทีมงาน สถานีตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา , สารวัตรป้องกันปราบปรามและทีมงาน สถานีตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา , นายตำรวจผู้รับผิดชอบโรงพักทุ่งตำเสา ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในฐานะที่หย่อนยานในการทำหน้าที่ ไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนยาเดือดร้อน ไม่ใส่ใจต่อปัญหาอาชญากรรม การลักขโมย ปัญหายาเสพติด ตลอดถึงการฆ่ากันดังกรณีของนายสิทธิชัย แพทย์พงศ์ เป็นต้น ซึ่งพล.ต.ต.สุขใจ ญาณวัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้รายงานว่ามีเวลานี้มีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผกก.สภ หาดใหญ่ จว.สงขลา และพ.ต.ท.จักรชัย โชติบุตร รองผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ไปปฏิบัตราชการที่กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 9 มีกำหนด 30 วันตั้งแต่วันที่ 5 เป็นต้นไป และให้พ.ต.อ.สาคร ทองมุณี รองผู้กำกับการตรวจภูธรจ.สงขลา รักษาการผกก.สภ หาดใหญ่แทนและพ.ต.ท.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ รองผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ จว.สงขลา เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใสและเป็นธรรม
 
โดยตลอดทั้งวันมีการผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบดำเนินการจับคนร้าย และช่วงบ่ายมีการเคลื่อนขบวนเข้าสู่อำเภอหาดใหญ่ เพื่อแจกเอกสารให้ประชาชนให้หาดใหญ่รับทราบถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก และขบวนไปสิ้นสุดที่ สภ.อ.หาดใหญ่ เพื่อกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่เร่งดำเนินการจับกุมคนร้าย มาลงโทษให้ได้และวางพวงหรีดก่อนแยกย้ายกันกลับ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net