เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย เครือข่ายอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรม (คัดค้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าหนองแซง) ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่งคอย เครือข่ายผู้ได้รับความเดือดร้อนจากบ่อขยะหนองปลาไหล, ห้วยแห้ง, กุดนกเปล้า และ เครือข่ายสิ่งแวดล้อมสระบุรี กว่า 100 คน ได้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย

 

โดยเริ่มเดินรณรงค์ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ใช้เส้นทางในตัวเมือง จ.สระบุรี ตั้งแต่หน้าค่าย ม.พัน 11 ถนนสุดบรรทัด เดินผ่านหน้าศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี เดินอ้อมตลาดเก่าถึงหน้าสถานีขนส่งสระบุรี มาสิ้นสุดที่แยกหัวถนนสุดบรรทัด ซึ่งเป็นถนนสายหลักของตัวเมืองสระบุรี

 

นายตี๋ ตรัยรัตนแสงมณี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า จัดการเดินรณรงค์ในวันสิ่งแวดล้อมไทย มานานนับสิบปีแล้ว ในกรุงเทพฯ กระทรวงสิ่งแวดล้อมก็จัดงานใหญ่โตที่เมืองทองธานี ใช้งบประมาณนับสิบล้านบาท แต่พวกเราเป็นกลุ่มประชาชนเล็ก ๆ ที่เดินรณรงค์เพื่อกระตุ้นเตือนให้ชาวจังหวัดสระบุรีร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม คนในจังหวัดสระบุรีหลายคนยังไม่รู้ว่า สระบุรีเป็นเมืองที่มีสิงแวดล้อมเสียติดอันดับ 2 ของประเทศในเรื่องฝุ่น

 

“และข้อมูลที่พวกเรา 4 เครือข่ายค้นมาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรีนั้น พบว่าสถิติคนป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจของสระบุรีทั้งจังหวัดมีถึงปีละ 30,000 คน คุณภาพน้ำในแม่น้ำป่าสักก็ไม่สามารถบริโภคได้ แต่ทุกวันนี้ประปาก็ยังสูบน้ำจากแม่น้ำป่าสักใช้ทำน้ำประปา ดังนั้นเราจึงรณรงค์ไม่ให้มีการก่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่ เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซที่จะสร้างที่ อ.หนองแซง สระบุรี และ อ.ภาชี อยุธยา เราเสนอว่าต้องควบคุมมลพิษจากโรงงานเก่าให้ได้ก่อน และหน่วยราชการต้องตรวจมลพิษสะสมทั้งในอากาศ น้ำ สิ่งแวดล้อมให้หมด ก่อนที่จะอนุมัติให้สร้างโรงงานเก่า ถ้าหน่วยราชการมีแต่อนุมัติโรงงานใหม่ไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดมลภาวะแย่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่” นายตี๋กล่าว

 

ตลอดการรณรงค์ ขบวนชาวบ้านได้ชูป้ายรณรงค์ และแจกใบปลิว ให้ช่วยกันลดโลกร้อนด้วยการ ลด หรือ เลิกใช้ถุงพลาสติก ด้วย โดยมีประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ในตลาดสระบุรีให้ความสนใจกิจกรรมนี้เป็นอย่างมาก