1 ธ.ค. 52 - ที่ทำเนียบรัฐบาลโฆษกรัฐบาล ยืนยันรัฐบาลไทยไม่ได้ยกเลิกให้เงินกู้กัมพูชา เตรียมส่งหนังสือไปยืนยันวันนี้ พร้อมย้ำรัฐบาลไทยยังต้องการดำเนินความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ต้องยืนบนพื้นฐานที่ถูกต้อง ชี้กรณีเขมรกร้าวเพราะรับข้อมูลคลาดเคลื่อน

นาย ปณิธาน วัฒนายากร  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์ของประเทศกัมพูชา รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า ถ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเป็นนายกรัฐมนตรี และมี นายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปัญหาความสัมพันธ์ของไทยกับกัมพูชาจะยังไม่ดีขึ้น ว่า รัฐบาลไทยยืนยันว่า ต้องการดำเนินความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา และยินดีให้ความร่วมมือในโครงการต่าง ๆ หากไม่กระทบต่อผลประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ และยืนบนพื้นฐานที่ถูกต้อง

ต่อกรณีที่ สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า ต้องการให้ไทยมีรัฐบาลชุดใหม่ จึงจะช่วยให้ 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น นายปณิธาน กล่าวว่า ถือเป็นความเห็นของ สมเด็จฮุน เซน ไม่ต้องการวิจารณ์ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ข้อมูลคลาดเคลื่อน ซึ่งไทยต้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

“สมเด็จฮุน เซน ได้ตรวจสอบมายังรัฐบาลไทยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไทยได้ยกเลิกโครงการให้เงินกู้แก่กัมพูชาในการสร้างถนนหมายเลข 68 หรือไม่  ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทยได้ติดต่อกลับไปเพื่อยืนยันว่า ครม.ไทยไม่ได้ยกเลิกโครงการนี้ และแจ้งต่อสมเด็จฮุน เซน ว่า จะทำหนังสือเรื่องนี้ถึงทางการกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ภายในวันนี้ (1ธ.ค.) ส่วนกัมพูชาจะกู้เงินต่อไปหรือไม่  ก็เป็นสิทธิ์ที่สมเด็จฮุน เซน จะพิจารณา” นายปณิธาน กล่าว

สำหรับกรณีที่ นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของ นายศิวรักษ์ ชุติพงศ์ วิศวกรไทย ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุม ไปขอความช่วยเหลือจากพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่ากระทรวงการต่างประเทศให้ความช่วยเหลือล่าช้า นั้น นายปณิธาน กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศต้องทำตามขั้นตอน และกฎหมายระหว่างประเทศ  ขอยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมเต็มที่ในการช่วยเหลือคนไทย ทั้งการจัดหาทนายความ และการขอเข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ในเรือนจำ

“รัฐบาลก็ยินดีที่มีคนไทยกลุ่มอื่น ๆ ให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ  แต่ขอให้มาทำงานร่วมกับรัฐบาลในการช่วยเหลือ และไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง หรือถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง นอกจากนี้ ถ้าใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการติดต่อโดยตรงไปยังกัมพูชา จะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของไทย” นายปณิธาน กล่าว

ต่อข้อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยสามารถช่วย นายศิวรักษ์ ออกมาได้ จะถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลหรือไม่  นายปณิธาน กล่าวว่า ไม่  ถ้าคนไทยได้กลับมาเมืองไทย ไม่ว่าใครจะช่วย เราก็ยินดี และไม่ว่าอย่างไรต้องผ่านกระบวนการของรัฐบาลไทยอยู่ดี เอกชนไม่สามารถดำเนินการระหว่างประเทศได้ เพราะเรื่องนี้เป็นขั้นตอนทางการทูต จึงไม่รู้สึกกังวลอะไร

ที่มาข่าว: สำนักข่าวไทย