Skip to main content
sharethis
 
         
24ต.ค.52 นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯการรถไฟฯ (รฟท.) กล่าวว่า พรุ่งนี้(25ต.ค.)รฟท.จะเปิดเดินรถสายยาวผ่าน อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาถึง อ.สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสได้ รวมทั้งจะเปิดเดินรถท้องถิ่นจากหาดใหญ่ไปสุไหงโก-ลกได้เช่นกัน ส่วนสาเหตุที่เปิดเดินรถไป 3 จังหวัดใต้ช้า เนื่องจากภายหลังนำหัวรถจักรคืนจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้ว ก็ได้นำรถเข้าตรวจสภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินรถ ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า การเปิดเดินรถเข้าไปพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีข้อจำกัด ต้องปรึกษาหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อเตรียมความพร้อมเขตทางรถไฟ และอาณัติสัญญาณให้ปลอดภัยที่สุด โดยจะไม่เริ่มดำเนินการช่วงเวลากลางคืน ตามมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่
         
ด้านนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เรียกประชุร่วมกับฝ่ายซ่อมบำรุง และแกนนำสหภาพรถไฟหาดใหญ่ เพื่อสรุปความคืบหน้าการซ่อมหัวรถจักร และแผนการเดินรถไฟขบวนท้องถิ่นว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในขบวนใดบ้าง โดยเฉพาะกำหนดเวลาที่มีการเรียกร้องให้เปิดบริการให้ทันวันจันทร์ที่ 26 ต.ค.นี้ โดยระหว่างประชุมเป็นไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากสหภาพฯยังยืนข้อเรียกร้องเดิมที่ต้องนำหัวรถจักรชนิดพิเศษพร้อมอุปกรณ์ที่สมบูรณ์เข้ามาวิ่งให้บริการในพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถทำข้อตกลงร่วมกันได้ ส่งผลให้จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดวิ่งได้แม้แต่ขบวนเดียว
        
"หากสามารถสรุปข้อตกลงร่วมกันได้โดยเร็ว โอกาสที่จะเปิดการเดินรถไฟได้บางส่วนภายในวันจันทร์นี้ (26 ต.ค.) ก็มีความเป็นไปได้สูง โดยขณะนี้พยายามให้ทุกฝ่ายเจรจาหาข้อยุติร่วมกันเพื่อคลี่คลายปัญหาไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนหนักไปกว่านี้" นายทนงศักดิ์ กล่าว
         
แต่หลังจากที่ต้องเวลาเจรจากันตลอดทั้งวันนานกว่า 8 ชั่วโมงระหว่าง นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนของผู้ว่าการรถไฟ กับแกนนำสหภาพฯ รถไฟหาดใหญ่ เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องของการเปิดเดินรถไฟขบวนท้องถิ่นในภาคใต้ แต่สุดท้ายยังล้มเหลวเนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ส่งผลให้ในวันพรุ่งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่ารถไฟขบวนท้องถิ่นในภาคใต้จะยังคงหยุดให้บริการต่อไป
       
นายทะนงศักดิ์ เปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟหาดใหญ่ ในหลายเรื่องผู้บริหารในระดับท้องถิ่นไม่มีอำนาจในการตัดสินใจโดยเฉพาะข้อตกลงที่เป็นปัญหาภายในระหว่างการรถไฟกับพนักงานซึ่งยังไม่สามารถสรุป และเรื่องของปัญหาที่เกี่ยวกับข้อกฎหมาย ซึ่งเป็นอำนาจการตัดสินใจของผู้ว่ารถไฟ
       
อย่างไรก็ตามยังคงยืนยันว่าหากขบวนรถและพนักงานพร้อมก็จะเปิดเดินรถทันทีโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ต้องให้ทางสหภาพรถไฟหาดใหญ่ไปเจรจากับพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง
       
ด้านนายประชาวิวัฒน์ บัวศรี รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่ประเทศไทยสาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า แนวโน้มการเดินรถไฟขบวนท้องถิ่นในภาคใต้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะยังคงหยุดเดินรถต่อไป เนื่องจากข้อเรียกร้องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินรถไฟโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมถึงข้อเรียกร้องที่จะไม่ติดใจเอาผิดทางวินัย ทางแพ่งและอาญากับพนักงาน ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้ว่าการรถไฟ ที่สำคัญในการประชุมในวันนี้ทางผู้ว่าการรถไฟได้แต่งตั้งคณะทำงานที่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจมาแก้ปัญหา
       
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันที่ 24 ตุลาคม เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีการเปิดให้บริการขบวนรถสายยาว ทั้งขาขึ้นและขาล่องเพิ่มขึ้นอีก 2 ขบวน จากเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดบริการ 6 ขบวน รวมเป็น 8 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนขาล่องจากกรุงเทพฯ 4 ขบวน คือรถเร็ว 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก, รถเร็ว 169 กรุงเทพฯ-ยะลา, รถด่วนพิเศษ 35 กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ, รถด่วนพิเศษที่ 41 กรุงเทพฯ-ยะลา และขาขึ้นจากสถานีหาดใหญ่อีก 4 ขบวน คือรถเร็ว 170 ยะลา-กรุงเทพฯ, รถเร็ว 172 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ, รถด่วนพิเศษ 36 บัตเตอร์เวอร์ธ-กรุงเทพฯ และรถด่วนพิเศษที่ 42 ยะลา-กรุงเทพฯ ส่งผลให้มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น

นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) สาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า ทางสหภาพฯพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เดินรถไฟตามปกติ หากผู้บริหารปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง ทั้งเรื่องของการซ่อมหัวรถจักรให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และนำหัวรถจักรชนิดพิเศษกลับมาใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายทีมวิศวกรและช่างจากส่วนกลางพร้อมอุปกรณ์ระบบป้องกันคนขับหมดสติ หรือวีจีแลนท์ อยู่ระหว่างการเร่งมือซ่อมหัวรถจักรทั้ง 15 หัวที่โรงรถจักรหาดใหญ่ เพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด คาดว่าในวันที่ 24 ตาคม จะมีความชัดเจนในส่วนของขบวนรถท้องถิ่น ว่าจะเปิดวิ่งได้เมื่อใด
 
ก่อนหน้านี้ ในการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ที่โรงแรมดุสิตธานี อ.หัวหิน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ประชุมได้หารือกันถึงปัญหาการที่สหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย ประท้วงฝ่ายบริหาร โดยการหยุดเดินรถไฟในภาคใต้ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันทั่ว โดยที่ประชุมใช้เวลาหารือกันไม่นานนัก โดยไม่ได้วิเคราะห์เบื้องหน้าเบื้องหลังของการประท้วงที่เกี่ยวโยงกับการเมือง หรือ ข้อเสนอของประธาน สหภาพ รฟท.ที่จะให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนามาเป็นคนกลางเจรจามาหารือกันแต่อย่างใด
 
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้รายงานเพียงว่า ข้ออ้างของ สหภาพรฟท. ที่ระบุว่า หัวจัรกรถไฟมีปัญหาความไม่ปลอดภัยในการบริการประชาชนนั้น จากการที่ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมดูหัวจักรรถไฟที่ภาคใต้ ความจริงแล้วมีหัวจักรรถไฟอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ 4 ตัว ซึ่งเป็นตัวใหม่สุด ใช้มาเพียง 12 ปี ส่วนเรื่องข้อเสนอ จะให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท.นั้น ไม่รู้จะสอบประเด็นไหน เพราะเรื่องที่ร้องเรียนมามีแต่ประเด็นเก่า ๆ ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ตนจะพยายามแก้ไขสถานการณ์หาทางให้สหภาพ รฟท. เปิดการเดินรถให้ได้ภายใน 2 วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า ในการดำเนินการกับพนักงาน รฟท. ที่ก่อการนั้น ถ้าใครกระทำผิดก็ไม่ควรจะไปละเว้น ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ถ้าใครทำผิดต้องว่ากันไปตามกระบวนการ และกฎหมาย ไม่ให้มีการผ่อนปรนกัน และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นขอให้ทางรมว.คมนาคม ต้องรีบชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้เข้าใจเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
 
ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวเสริมว่า นอกจากที่ทางกระทรวงคมนาคม จะชี้แจงการแก้ปัญหาแล้ว เท่าที่ตนฟังความคิดเห็นของประชาชนและสื่อต่างๆ ที่ออกมา อยากจะให้ชี้แจงมากไปกว่าเรื่องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อยากให้พูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงภายใน รฟท. หรือการปฏิรูปองค์กร รฟท. ให้ประชาชนได้เข้าใจด้วยว่า ควรจะทำอย่างไรบ้าง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกรณ์ พูดเช่นนี้ นายกรัฐมนตรี จึงได้รีบออกมาติงว่า เรื่องการปฏิรูป รฟท.เอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้มีคนออกไปให้ความเห็นในเชิงว่ารัฐบาลเป็นคนส่งสัญญาณให้เกิดม็อบเพื่อที่จะแปรรูป รฟท. อยู่แล้ว ถ้ายิ่งออกไปพูดตอนนี้ จะกลายเป็นเรื่องสับสน และทำให้ฝ่ายสหภาพ รฟท.เอาไปอ้างได้ และไหน ๆ เรื่องการปฏิรูป รฟท. จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.อยู่แล้วในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ค่อยเอาไว้ไปพูดกันในตอนนั้น
 
ส่วนในวันที่ 22 ต.ค. ที่ บก.ป. นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายยุทธนา ทัพเจิรญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนพนักงาน ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพการรถไฟ โดยนำบันทึกข้อตกลงสภาพการจ้างระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับสหภาพแรงานรัฐวิสาหกิจรถไฟฯ ปี 2544,2545,2552 และ พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 มาประกอบการร้องทุกข์
 
นายสาวิทย์ กล่าวว่า สาเหตุที่เข้าแจ้งความเนื่องจากผู้ว่า รฟท. ไม่ทำตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง และเป็นเหตุให้การให้บริการประชาชนไม่ปลอดภัย จึงมีความจำเป็นต้องทำการซ่อมแซมอุปกรณ์รถจักรดีเซลที่มีกว่า 12 รายการให้เสร็จสิ้นก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดกรณีเช่นที่สถานีเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ที่มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งในจำนวนนี้มีสมาชิกสหภาพฯด้วย
 
 “การปล่อยปละละเลยเช่นนี้จะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นตามมาอีกอย่างแน่นอนถ้าหากยังไม่มีการซ่อมแซมแก้ไขให้ถูกต้อง” นายสาวิทย์
 
 
 
เรียบเรียงจาก เว็บไซต์มติชน เว็บไซต์คมชัดลึก เว็บไซต์ASTV-ผู้จัดการ และเว็บไซต์ไทยรัฐ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net