Skip to main content
sharethis

ครม.ขอเปิดประชุมรัฐสภา 16-18 ก.ย. หารือแก้รธน. ด้าน 40 ส.ว.ขู่ถอดถอนส.ส.-ส.ว.ลงชื่อแก้ รธน. ส่วนพันธมิตรฯ ยันค้านแก้ รธน.ถึงที่สุด ขณะที่พรรคเพื่อไทยเล็งแก้ ม.390 ศาลฎีกาการเมือง

(8 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.45 น. นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ ครม. ถึงระเบียบวาระในสภาฯ โดยนายกรัฐมนตรี ได้หารือถึงรายงานของคณะกรรมการสมานฉันท์เกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่าน่าจะเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา โดยใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 ในกรณีที่มีเรื่องสำคัญ นายกรัฐมนตรีสามารถแจ้งขอให้มีการเปิดประชุมรัฐสภา โดยไม่มีการลงมติได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี แจ้งต่อ ครม. ว่าท่านได้ทำหนังสือไปถึงประธานสภาฯแล้ว ในวันเดียวกันนี้ และคาดว่าในสัปดาห์หน้าน่าจะเปิดประชุมรัฐสภาได้ นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่าน่าจะเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 16-18 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ นายกฯได้บอกเหตุผลที่เสนอขอให้เปิดประชุมรัฐสภาเพื่อหารือ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอยากจะให้สมาชิกรัฐสภาได้หารือกันอย่างกว้างขวาง เพื่อจะได้หลากหลายทางความคิดเห็น

นายวัชระ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในที่ประชุม ครม. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ได้อภิปรายสนับสนุนแนวความคิดของนายกฯอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ทางนายกฯ ยังได้สอบถามความเห็นในประเด็นในข้อกฎหมายด้วยว่า การที่นายกฯ เสนอขอให้เปิดประชุมรัฐสภา เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวจะมีปัญหาข้อกฎหมายตาม ม. 122 เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ขัดกันหรือไม่ ซึ่งทางคุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ชี้แจงว่า เท่าที่พิจารณาแล้ว คิดว่าสามารถทำได้ เนื่องจากไม่ได้ถือว่าเป็นการดำเนินการ ที่เข้าข่ายผลประโยชน์ส่วนตน หรือเป็นเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่า

มีรายงานว่า ในการประชุม ครม. วันนี้ ก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ ได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า จากการที่คระกรรมการสมานฉันท์ฯ ได้มีรายงานเสนอ ครม. ประกอบกับมีสมาชิกรัฐสภาประสงค์จะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เพื่อเป็นการเป็นการระดมความคิดเห็นที่หลากหลายในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครม. ควรที่จะได้ขอเปิดอภิปรายในเรื่องดังกล่าวตาม ม.179 ของรัฐธรรมนูญ โดยคาดว่าจะมีการประชุมรัฐสภา ระหว่างวันที่ 16 -18 ก.ย.

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบส่งหนังสือถึงประธานรัฐสภา เพื่อขอให้เปิดการประชุมร่วมรัฐสภา ตามมาตรา 179 เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยคาดว่าประธานรัฐสภาจะเปิดประชุมได้ในวันที่ 16 ก.ย. ทั้งนี้ ยืนยันว่า การเปิดอภิปรายทั่วไปครั้งนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เนื่องจากยังมีความเห็นต่างจำนวนมาก

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถสร้างความปรองดองภายในชาติได้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐธรรมนูญไม่ใช่เงื่อนไขเดียวของปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าการใช้เวทีของสภาจะสามารถหาคำตอบให้กับประชนได้

นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 190 จะไม่ส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบคดีปราสาทเขาพระวิหาร ที่ป.ป.ช. กำลังดำเนินการอยู่

ขณะที่เมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า เป็นธรรมดาของสังคมที่จะต้องมีทั้ง 2 ฝ่าย มีฝ่ายเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยมีคอมมิวนิสต์และฝ่ายประชาธิปไตย และเมื่อถามว่า ฝ่ายคอมมิวนิสต์คือฝ่ายไหน นายชัยตอบว่าอยู่ที่สื่อจะมอง เพราะสื่อเป็นผู้วินิจฉัยที่ดีที่สุด

เมื่อถามถึงการกำหนดวันเปิดประชุมสภาว่า เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 8 ก.ย.หรือไม่ นายชัย ตอบว่า เคยบอกนายกฯ ก่อนที่จะมีมติในวันนี้ ว่าจะให้โอกาสประชุมสภา ในวันที่ 16-18 ก.ย. รวม 3 วัน เพื่อให้ ส.ส. และ ส.ว.ได้อภิปรายอย่างเต็มที่ โดยกำหนดเวลาคนละครึ่งชั่วโมง 20 นาที และ 10 นาที แล้วแต่อัธยาศัย หากใครพูดดีประชาชนก็วินิจฉัยว่าดี ใครพูดไม่ดี ในการเลือกตั้งสมัยหน้าก็คงตกไป

เมื่อถามว่าจะมาการหยิบยก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าหารือด้วยหรือไม่ นายชัย ตอบว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม มีการเสนอสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เสนอรัฐสภา ก็ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอน เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนเรื่องความปลอดภัยยังไม่ได้มีการประสานกับหน่วยงานใด เพราะยังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาล แต่เมื่อได้รับเรื่องแล้ว จึงจะลงรับเรื่อง และวินิจฉัยโดยจะปรึกษากับประธานวุฒิสภาว่า จะทำอย่างไร

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ อาจจะเพิ่มวันอภิปราย นายชัย ตอบว่า สำหรับตนอภิปรายหนึ่งเดือนก็ได้ แต่เชื่อว่าในเวลา 3 วัน น่าจะเรียบร้อย คงจะไม่มีอะไร ต่างคนต่างได้ออกความคิดเห็น เมื่อถามว่า การ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนับสนุนในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญจะกลายเป็นปัญหาในการประชุมร่วมหรือไม่ นายชัยตอบว่า ยังไม่ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะสนับสนุนหรือไม่ ต้องฟังจากการอภิปราย จึงจะรู้ เรื่องนี้จะชี้นำไม่ได้

นายบุญจงวงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ยืนยันชัดเจนว่า การแก้รัฐธรรมนูญต้องเป็นไปตามประชาธิปไตย พรรคสนับสนุน หากเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกในสภาเห็นด้วย เพราะรัฐธรรมนูญจะต้องแก้ไขให้เป็นไปตามประชาธิปไตย ให้สามารถบริหารประเทศไปได้ด้วยดี และที่สำคัญมาตรา 190 จำเป็นที่จะต้องแก้ไขอย่างแน่นอน

40 ส.ว.ขู่ถอดถอน ส.ส.-ส.ว.ลงชื่อแก้รธน.
ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว. และ ส.ส. ล่ารายชื่อยื่นร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ต่อประธานรัฐสภา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ได้หารือกับนักกฎหมายแล้วเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ซึ่ง ส.ส.จำนวน 1 ใน 4 สามารถยื่นเรื่องเพื่อถอดถอนต่อประธานวุฒิสภาได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 และ 271 เพื่อให้ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป

นายสมชาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถยื่นเรื่องร้องต่อ ป.ป.ช. ตามมาตรา 272 และ 274 หาก ป.ป.ช. พิจารณาว่าผิดจริง ส.ส. และ ส.ว. ที่ร่วมเซ็นชื่อ ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที หรืออาจนำไปสู่การพ้นจากตำแหน่ง เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่าผิด อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีประชาชนไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ในวันที่ 11 ก.ย.นี้

นายสมชาย กล่าวต่อว่า มี ส.ว.บางคนที่ร่วมลงชื่อ ถูกข่มขู่ จาก ส.ว.เลือกตั้ง ระหว่างขอให้เซ็นชื่อ ร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ว่าถ้าไม่ร่วมลงชื่อหากแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนของ ส.ว.สรรหา จาก 3 ปี เป็น 6 ปีได้ อย่าหน้าด้านอยู่เป็น ส.ว.อีก จึงอยากให้เพื่อน ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อไปไต่ตรองตรวจสอบข้อกฎหมายให้ดี ในฐานะเป็น ส.ส.และส.ว.สามารถเสนอแนะแนวทางได้ แต่ใช่ไปร่วมลงชื่อแก้ไขเสียเอง เกรงว่าจะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน คิดว่า ส.ว.และ ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อ รู้อยู่แล้วว่า แก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะควรจะตั้ง ส.ส.ร. 3 ขึ้นมา การเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้เห็นว่าเกมนี้มีผู้อยู่เบื้องหลังที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้เป็นหมากรุก เพื่อเดินรุกฆาตรัฐบาลให้ขาดเสถียรภาพ จนต้องยุบสภาในที่สุด จะเห็นว่าขณะนี้มีหลายเหตุการณ์ที่รุมเร้ารัฐบาล ทั้งเรื่อง ป.ป.ช. ตัดสินคดีสสายการชุมนุม 7 ตุลา และ ในวันที่วันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการตัดสินคดีกล้ายางของ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย

พธม. ค้านแก้ รธน. ทุกวิถีทาง- เตรียมล่ารายชื่อ 2 หมื่นชื่อยื่นประธานรัฐสภา
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ เค.ยู.โฮม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีการสัมมนาพรรคการเมืองใหม่ โดยมีตัวแทนจากสาขาพรรคทั่วประเทศเข้าร่วม ระดมความเห็น จากนั้นเวลา 13.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ พร้อมด้วยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ได้แถลงข่าวถึงจุดยืนพันธมิตรฯต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายสนธิ กล่าวว่า จุดยืนของพันธมิตรฯไม่เคยเปลี่ยนแปลงเราจะต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกวิถีทาง โดยขั้นแรกจะเข้าชื่อให้ครบ 2 หมื่นชื่อ ภายในวันที่ 7 ต.ค.นี้ที่จะมีการจัดงานรำลึกวีรชนนั้นจะได้อย่างแน่นอน และจะยื่นถอดถอนทันที ตนอยากจะเตือนสติ สว. สส. ว่าทุกอย่างเป็นเรื่องอนิจจังทั้งหมด ดูได้จากผลการตัดสินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ว่าการกระทำอะไรเพื่อหวังผลส่วนตัวนั้น นอกจากจะผิดกฎหมายแล้วจะต้องถูกสาปแช่งด้วย

เพื่อไทยเล็งแก้ รธน.ม.390 ศาลฎีกาการเมือง
นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค กล่าวภายหลังการประชุม ส.ส.ว่า ที่ประชุมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นตามคณะกรรมการสมานฉันท์ ส่วนกรณีที่รัฐบาลกำหนดให้เปิดประชุมร่วมกันของ 2 สภา เพื่อพิจารณารับฟังรายงานของคณะกรรมการสมานฉันท์นั้น พรรคจะขอฟังรายละเอียดทั้งหมดก่อนว่าจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของพรรค มีประเด็นแก้ไข มาตรา 278 ที่เปิดโอกาสให้สามารถอุทธรณ์คดีในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 309 ด้วย

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯจะถอดถอนส.ว.และส.ว.ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าเป็นการแก้ไขเพื่อตัวเองนั้น ฝ่ายกฎหมายของพรรคพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถถอดถอนได้ ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯขู่จะชุมนุมปิดล้อมสภาหากมีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่เป็นอะไร เพราะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯเคยโดนมาแล้ว หากมาปิดอีกทีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯจะได้ปีนกำแพงสภาหนีบ้าง
 

 

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ (1, 2, 3) และเว็บไซต์คมชัดลึก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net