Skip to main content
sharethis

กลุ่มสมัชชาสังคมก้าวหน้าชุมนุมหน้าสถานทูตมาเลเซีย ประจำประเทศไทย เรียกร้องให้ทางการมาเลเซียปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมเนื่องจากการประท้วงกฎหมายความมั่นคงภายใน จี้ยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายในที่อนุญาตให้มีการจับกุมประชาชนที่คัดค้านรัฐอย่างไร้ขอบเขตและไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม

 

วันนี้ (13 ส.ค.) เวลาประมาณ 10.30น. นักกิจกรรมจำนวน 10 คนจากกลุ่มสมัชชาสังคมก้าวหน้า ซึ่งเป็นองค์กรแนวร่วมระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและองค์กรเลี้ยวซ้าย ชุมนุมหน้าสถานทูตมาเลเซีย ประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมเนื่องจากการประท้วงกฎหมายความมั่นคงภายใน (ISA) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยกลุ่มสมัชชาสังคมก้าวหน้าได้อ่านแถลงการณ์ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ตะโกนเรียกร้องให้มาเลเซียยุติการใช้กฎหมายความมั่นคงภายใน รวมถึงได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลมาเลเซียผ่านเอกอัครราชทูตดาโต๊ะ ฮัสนี ไซ บิน ยาค๊อบ โดยมี Raui Chanderan เจ้าหน้าที่สถานทูตมาเลเซีย ออกมารับหนังสือ

พัชณีย์ คำหนัก ผู้ประสานงานกลุ่มสมัชชาสังคมก้าวหน้า กล่าวว่า ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 ส.ค. มีนักกิจกรรมฝ่ายซ้ายถูกจับกุมจากการประท้วงกฏหมายความมั่นคงภายในซึ่งเป็นเครื่องมือของรัฐบาลเผด็จการ ทางกลุ่มจึงออกมาเพื่อแสดงความสมานฉันท์ และเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม ซึ่งนอกจากผู้ชุมนุมแล้ว ก็มีลูกๆ ของผู้ชุมนุมด้วย

นอกจากนี้ เธอยังเรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียหยุดปราบปรามผู้ประท้วง เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงความเห็นและสิทธิการรวมตัว ซึ่งเป็นการไม่เคารพสิทธิมนุษยชน

พัชณีย์ กล่าวว่า กฏหมายความมั่นคงภายในถูกใช้มากว่า 50 ปีเพื่อทำลายผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล โดยที่นักสิทธิมนุษยชนในมาเลเซียก็พยายามประท้วงการใช้เครื่องมือของเผด็จการนี้มาตลอด

สำหรับข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย พัชณีย์กล่าวว่า รัฐบาลไทยไม่ควรทำเหมือนกับที่รัฐบาลมาเลย์ทำ โดยควรหยุดละเมิดสิทธิกับผู้รักประชาธิปไตยอย่างคนเสื้อแดงและนักกิจกรรม

 

จดหมายถึงรัฐบาลมาเลเซีย

ถึง เอกอัครราชทูตดาโต๊ะ ฮัสนี ไซ บิน ยาค๊อบ
สำเนาถึง นายกรัฐมนตรี
สำนักนายกรัฐมนตรี
ประเทศมาเลเซีย

เรื่อง ขอให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมประท้วงกฎหมายความมั่นคงภายใน
เรียน ท่านเอกอัครราชทูตมาเลเซีย ประจำประเทศไทย

เราในนาม “สมัชชาสังคมก้าวหน้า” มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงกฎหมายความมั่นคงภายในกลา งกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2552 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระบองทุบตีผู้ชุมนุม เพื่อสลายการชุมนุม และจับกุมผู้ชุมนุมกว่า 60 คน

การชุมนุมดังกล่าวต้องการเรียกร้องกดดันให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมายความมั่นคง ภายในเพราะกฎหมายนี้อนุญาตให้จับกุมประชาชนผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ อย่างไร้ขอบเขต โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางศาล และมีการจับกุมประชาชนไปแล้ว 17 คนภายใต้กฎหมายนี้ โดยรายหนึ่งเป็นเด็กอายุ 16 ปีถูกคุมขังมาเป็นเวลาถึง 8 ปี แม้จะมีกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนได้ออกมาคัดค้านกฎหมายดังกล่าวหลายครั้ง แต่นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย นาจิบ ราซัค ได้แสดงจุดยืนที่จะปกป้องกฎหมายความมั่นคงภายใน

เรายืนยันสิทธิในการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นเพราะเป็นสิทธิพื้นฐาน ที่ระบุไว้ในหลักสิทธิมนุษยชนสากล แต่รัฐบาลของประเทศมาเลเซียและเจ้าหน้าที่รัฐกลับไม่อนุญาตให้เดินขบวน และกล่าวหาว่าเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ ซ้ำยังใช้กำลังล้อมปราบ และจับกุมผู้ชุมนุม 438 คนรวมถึงชนกลุ่มน้อยชาวอินเดียด้วย ซึ่งแม้จะได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่ยังคงเหลือผู้ชุมนุมจำนวน 63 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวและถูกตั้งข้อหา “รวมตัวกันผิดกฎหมาย” มีโทษจำคุกถึง 1 ปีและปรับ ในจำนวนนี้มีลูกๆ ของผู้ชุมนุมรวมอยู่ด้วย

เราในนาม “สมัชชาสังคมก้าวหน้า” ผู้รักเสรีภาพและต่อต้านอำนาจเผด็จการขอประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐและ รัฐบาลที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม สลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง จับกุมตัว และขอคัดค้านกฎหมายความมั่นคงภายในที่ทำลายผู้มีความคิดเห็นต่าง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการใช้อำนาจเผด็จการคุกคามประชาชน

เราขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่เหลืออย่างไม่มี เงื่อนไข และขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดละเมิดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม หยุดทำร้ายรังแกผู้ชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยเพื่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายในที่อนุญาตให้มีการจับกุมประชาชนที่คัดค้าน รัฐอย่างไร้ขอบเขตและไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะทำตามข้อเรียกร้องของเรา

ด้วยความเคารพ
สมัชชาสังคมก้าวหน้า
11 สิงหาคม 2552

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net