Skip to main content
sharethis

“มหกรรมชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูวิถีการจัดการทรัพยากรโดยชุมชน” เริ่มแล้วที่เชียงใหม่ “จอนิ โอ่โดเชา” เปิดงานเสนอให้ชนเผ่าริเริ่มจัดการทรัพยากรผ่านโฉนดชุมชน ให้ช่วยเหลือตัวเองก่อนรอคนอื่น

  

 
วานนี้ (7 ส.ค.) เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย (ภาคเหนือ) ได้จัดงาน “มหกรรมชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูวิถีการจัดการทรัพยากรโดยชุมชน” ขึ้นที่ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จ.เชียงใหม่ มีตัวแทนชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่ภาคเหนือคือเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำปาง และน่านเข้าร่วม ประกอบด้วย ปกาเกอะญอ ม้ง เมี่ยน ลีซู ลาหู่ อาข่า ดาระอั้ง ไทใหญ่ ลัวะ มลาบรี และขมุ นอกจากนี้ยังมีนักศึกษา นักวิชาการ และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก
 
ส่วนภายในงานได้มีการแสดงวัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมืองจากตัวแทนชนเผ่าพื้นเมืองกลุ่มต่างๆ และการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการโดยจะเชิญผู้รู้ และผู้แทนจากฝ่ายต่างๆ มาร่วมเสวนา โดยงานจะจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 9 ส.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันสากลของชนเผ่าพื้นเมืองโลก
 
ทั้งนี้เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดงาน “มหกรรมชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย” เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 โดยมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมือง โดยอยู่บนหลักการพึ่งตนเองและการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่พอเพียง รวมไปการสะท้อนให้เห็นถึงความลำบากของชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยที่ถูกละเมิดสิทธิและได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในหลายๆ ด้าน
 
สำหรับงานในปีนี้นั้นได้เน้นไปที่การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของชนเผ่าพื้นเมืองและการเข้าถึงบริการจากรัฐ รวมไปถึงเพื่อเป็นการรณรงค์แนวคิดการจัดการที่ดินโดยชุมชนเผ่าพื้นเมืองในรูปแบบของโฉนดชุมชนบนพื้นที่สูง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาและเสริมสร้างกลไกการทำงานเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองทางภาคเหนือให้มีความเข้มแข็งและสามารถดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเฉลิมฉลองวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย
 
นายจอนิ โอ่โดเชา ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวเปิดงานว่า การจัดงานครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักๆ สามข้อ หนึ่ง ศึกษาวัฒนธรรมแต่ละเผ่าให้ดีกว่านี้ สองต้องรู้ว่าในระดับโลกมี 70 ล้านคนที่มีชาติพันธุ์ที่มีเผ่าพันธุ์ มีภาษาตัวเอง จะมีวันชนเผ่าโลกในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ สาม การจัดงานครั้งนี้ เราคุยเรื่องโฉนดชุมชนบนพื้นที่สูง ทำไมเราต้องมีโฉนดชุมชน ก็เพราะพื้นที่ของพวกเรายังถูกมองว่าผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นพวกเราต้องเข้าใจให้ชัดเจน ปกติหลายประเทศจะไม่ให้โฉนดแก่ปัจเจก แต่ก่อนเราเรียกร้องรัฐบาลว่ามีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับที่ การเรียกร้องที่ผ่านมาหลายครั้งก็มั่นใจว่ารัฐบาลจะให้เรา ผู้มีอำนาจจะให้เรา แต่ที่ผ่านมาเขาก็ให้ไม่เป็น ดังนั้นเราต้องจัดการพื้นที่ด้วยตัวเอง เราต้องสร้างกฎเกณฑ์ด้วยตัวเอง ให้นักวิชาการมาช่วยดู แล้วเราต้องมีใจในผืนดิน ไม่เช่นนั้นเราจะหนีจากที่ดิน ไปรับจ้างที่นู่นที่นี่ ต้องไม่ลืมจุดอ่อนพวกเรา บางคนเรียนจบสูงไม่กลับบ้านก็จะไปเป็นหนี้เป็นสินอีกแบบหนึ่ง
 
เมื่อชาวบ้านอย่างเราๆ ท่านๆ รับรองกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนแล้ว คนอื่นจะมารับรองเราทีหลัง หลายคนหวังว่าเขาจะรับรองเราให้ แล้วเราค่อยปฏิบัติแบบนี้มันผิด เพราะเรากินน้ำต้องรักษาน้ำ กินสรรพสิ่งต้องรักษาสรรพสิ่ง เรามาจัดงานอยู่ในโรงแรม โรงแรมก็ไม่ใช่ของเรา เราอาศัยเขาชั่วคราว เราต้องสร้างกฎเกณฑ์ของเราต้องเป็นคนดี ที่ดีขึ้น แล้วไม่ลืมช่วยเหลือตัวเอง รอแต่คนอื่นมาช่วยไม่ได้
 
ตอนนี้เราแพ้เทคโนโลยี ฝรั่งก็แพ้แบบหนึ่ง ไทยก็แพ้แบบหนึ่ง ประเทศไทยตามตำนานล้านนาเขาว่ามี 101 เผ่า แต่หลายคนไม่ได้พูดได้คุยภาษาตัวเองแล้ว บางคนใส่ชุดชนเผ่าชั่วคราวแล้วก็ถอดไป ขอบอกว่าพูดไปเรื่อยๆ อย่างแบบนี้อย่างพะตีจะทำไม่ได้ถ้าตัวเองไม่มีความภูมิใจ ถ้าไม่มีความภูมิใจเมื่อไหร่ภูมิปัญญาก็จะหายไปๆ ดังนั้นให้พิจารณาเอาเองนะกับคำว่ากินน้ำรักษาน้ำ อยู่ป่ารักษาป่า ก็เพราะคนขับเครื่องบินอย่างไรก็ดื่มน้ำเหมือนเดิม นายจอนิกล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net