ผู้ประท้วงในฮอนดูรัสเสียชีวิตอีกสอง รายหนึ่งถูกแทงปริศนา

นอรา เดอ คอร์ตินาส ประธานกลุ่มมารดาแห่งพลาซ่า เดอ มาโย (Mothers of the Plaza de Mayo) ของอาร์เจนติน่า พูดคุยกับกลุ่มผู้สนับสนุนเซลายาในการชุมนุมที่กรุงเตกูซิกัลปาวันที่ 2 ส.ค. โดยคอร์ดินาสมาอยู่ในฮอนดูรัสเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนช่วงที่มีเหตุการณ์รัฐประหาร

(AP Photo/Arnulfo Franco)

พิธีศพในวันที่ 2 ส.ค. เพื่อรำลึกถึงโรเจอร์ วัลเลโร ครูผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมในวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ภาพบนฝาผนังด้านหลังเป็นภาพจิตรกรรมเพื่อสดุดีอาชีพครู

(AP Photo/Arnulfo Franco)

ผู้เข้าร่วมแสดงความเคารพศพของโรเจอร์ วัลเลโจ ที่ถูกยิงเมื่อวันที่ 29 ก.ค. จนต้องเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลในห้องฉุกเฉิน ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา

(AFP/Orlando Sierra)

กลุ่มหนุนเซลายาเสียชีวิตอีกสอง รายหนึ่งถูกแทงปริศนา

ครูผู้สนับสนุนเซลายาคนหนึ่งที่ชื่อโรเจอร์ วัลเลโจ เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 1 ส.ค. จากการที่เขาเข้าร่วมประท้วงปิดถนนในกรุงเตกูซิกัลปาของฮอนดูรัสเมื่อวันพฤหัสฯ (29 ก.ค.) ที่ผ่านมา โดยเขาได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงและส่งตัวเข้ารักษาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พยาบาลสองรายในห้องฉุกเฉินระบุว่าเขาเสียชีวิตขณะอยู่ที่โรงพยาบาล

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ตำรวจและทหารได้ทำการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนเซลายาหลายร้อยคน ซึ่งทางช่างภาพของรอยเตอร์ในที่ประท้วงเห็นตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและยิงปืนในการสลายการชุมนุม แต่ทางตำรวจออกมาแถลงในทางตรงกันข้ามว่าพวกเขาไม่ได้ยิงกระสุนที่ทำให้วัลเลโจได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม จากเหตุสลายการชุมนุมดังกล่าวยังมีผู้ประท้วงถูกจับกุมหลายสิบราย และอย่างน้อยอีกหนึ่งรายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากกระสุนปืน

ต่อมาในวันอาทิตย์ (2 ส.ค.) ผู้สนับสนุนเซลายาหลายร้อยคนรวมถึงเซียวมารา ภรรยาของเซลายา พากันมาเข้าร่วมในพิธีรำลึกถึงโรเจอร์ วัลเลโจ ผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ส.ค. แต่หลังจากเสร็จพิธีแล้วก็พบว่ามีครูอีกคนหนึ่งคือ มาร์ติน ฟลอเรนซิโอ ริเวอรา ถูกแทงจนเสียชีวิต ซึ่งทางกลุ่มสนับสนุนเซลายาบอกว่าเป็นฝีมือของผู้สนับสนุนรัฐประหาร

ยูโลจิโอ ชาเวซ ผู้นำกลุ่มองค์กรครู บอกกับ AFP ว่า เขาถูกแทง 27 ครั้งจนเสียชีวิตหลังจากที่เขาออกจากพิธีรำลึกถึงวัลเลโจ

"แบบเดียวกับที่พวกเขาสังหารเพื่อนพ้องของเราในเอล ปาไรโซ" ผู้นำกลุ่มองค์กรครูกล่าว โดยเขาหมายถึงเหตุการณ์ที่มีผู้สนับสนุนเซลายาคนหนึ่งถูกทุบตีและแทงเสียชีวิตในเขตพรมแดนติดนิคารากัวเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา

ผู้ประท้วงยังไม่ถอย ประกาศเดินขบวนอีกห้าวัน

กลุ่มสนับสนุนเซลายาบอกว่าพวกเขาจะมีการเดินขบวนติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน ในสองเมืองหลักภายในประเทศ เริ่มจากวันพุธ (5 ส.ค.) ที่จะถึงนี้ แม้ว่าทางการฮอนดูรัสจะขู่ว่าจะใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้ชุมนุมก็ตาม โดย ฮวน บาราโฮนา จากกลุ่มต้านรัฐประหารในฮอนดูรัส (National Resistance Against the Honduras Coup) บอกกับ AFP ว่าจะมีการเดินขบวนสองกลุ่มจากประชาชนทั่วประเทศ โดยกลุ่มหนึ่งจะไปที่เมืองซาน เปโดร ซูลา อีกกลุ่มหนึ่งจะไปที่กรุงเตกูซิกัลปา

เซลายาปัด ไม่ได้ซ่องสุมกองกำลัง

มานูเอล เซลายา ประธานาธิบดีฮอนดูรัสที่ถูกยึดอำนาจ ออกมาบอกในวันเสาร์ (1 ส.ค.) ว่า เขาจะกลับคืนสู่ตำแหน่งด้วยวิถีทางสันติ และยังได้ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้กำลังขับเคลื่อนกองกำลังติดอาวุธในแถบชายแดนของนิคารากัว

โดยเซลายาให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ของฮอนดูรัสว่า เขาไม่ได้กำลังจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ แม้ว่าเขามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นก็ตาม นอกจากนี้เซลายายังได้แสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของวัลเลโจ ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

มิเชลเลตตีตรึงกำลังตำรวจทหารตามชายแดน แสดงความไม่พอใจฑูตสหรัฐฯ ไปพบกับเซลายา

ทางด้านของโรเบอร์โต มิเชลเลตตี ผู้นำชั่วคราวของฮอนดูรัสเปิดเผยว่าเขาจะจัดให้กลุ่มตำรวจและทหารตรึงกำลังอย่างหนาแน่นไว้ที่ชายแดนทางตอนใต้ของฮอนดูรัส เพื่อเตรียมสกัดกั้นหากกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของเซลายามีการเคลื่อนไหว โดยผู้นำชั่วคราวยังได้กล่าวอีกว่าหากเซลายาเข้ามาในพรมแดนของฮอนดูรัสเขาจะถูกจับกุม

นอกจากนี้ มิเชลเลตตี ยังได้แสดงท่าทีไม่พอใจต่อสหรัฐฯ ในกรณีที่เอกอัครราชฑูตสหรัฐฯ ประจำฮอนดูรัส ฮิวโก ลอเรนส์ เดินทางไปแถบชานแดนนิคารากัวเพื่อพบกับเซลายาในวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยกล่าวผ่านสถานีวิทยุ HRN ของฮอนดูรัสว่า พวกเขารู้สึกแปลกใจต่อท่าทีของเอกอัครราชฑูตสหรัฐฯ ขอร้องให้เขาพิจารณาให้ดี และเตือนว่าฑูตสหรัฐฯ ไม่สามารถแทรกแซงเหตุการณ์ในฮอนดูรัส

"ไม่มีประเทศไหนหรือประชาชนคนใดในโลกจะมีอำนาจมากพอที่จะเปลี่ยนพวกเรา" มิเชลเลตตีกล่าว

แปลและเรียบเรียงจาก

Ousted Honduran Leader's Supporters Vow New Protests , AFP , Nasdaq , 03/08/2009

Ousted Honduran president vows peaceful resistance , Gabriela Donoso , Reuters , 01/08/2009

ข่าว