เทพไทชี้รัฐประหารไทยต่างจากฮอนดูรัส เพื่อไทยไม่ควรนำมาเปรียบเทียบ

โฆษกประจำตัวมาร์คอัดคนเสื้อแดงล่าชื่อถวายฎีกา เตือนให้ระวังกระแสค้าน ชี้ทักษิณโฟนอินออกวิทยุเป็นไปตามแผนตากสิน 2 โต้เพื่อไทยกรณีร้องยูเอ็นตรวจสอบ คมช. ชี้เป็นการชักศึกเข้าบ้าน ลั่นไทยต่างจากฮอนดูรัส เพราะมีการจาบจ้วงสถาบัน-คนในชาติแตกแยกจึงมีการปฏิวัติ บอกไม่เข้าใจการเคลื่อนไหวของเพื่อไทยเพราะทักษิณเคยบอก “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ”

 

 

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อ 1 ล้านชื่อเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้นับวันยิ่งมีกระแสคัดค้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนทั้งประเทศไม่ยินยอมให้คนเพียงไม่กี่คนมาก้าวล่วงพระราชอำนาจได้ เชื่อว่าหลังจากนี้กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการปรับยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวใหม่ คาดว่าจะออกมาในลักษณะแยกกันเดินร่วมกันตี อาจจะมีการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศ  
 
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดชัดเจนแล้วว่าทนอยู่เบื้องหลังลิ่วล้อไม่ได้เพราะทำงานล่าช้า จึงได้ออกมาประกาศเองว่าจะโฟนอินผ่านรายการวิทยุชุมชนใน จ.อุดรธานี ทุกวันจันทร์เพื่อตอบโต้รายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยอมสำนึกในความผิดที่ตัวเองได้กระทำต่อสังคมและชาติไทยไว้ ก็เป็นการดีจะได้เห็นธาตุแท้กัน ซึ่งทุกความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นไปตามแผนตากสิน 2 ที่มีการนำมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ จากพฤติกรรมดังกล่าวจึงขอให้ประชาชนคนไทยทั้งชาติที่อยู่ในประเทศ และต่างประเทศใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดูว่า สอดคล้องเหมาะสมเพียงใดที่คนบางกลุ่มยังกล้าใช้เกมการเมืองโยงถึงสถาบัน เบื้องสูง โดยไม่คิดว่าจะเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจของสถาบัน แล้วจะยังให้การสนับสนุนคนกลุ่มนี้อีกหรือ  
 
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยไปยื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิวัติรัฐประหารของ คมช. ว่าไม่ชอบธรรม และขอให้ช่วยคืนอำนาจให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยยกกรณีเทียบเคียงกับการปฏิวัติรัฐประหารของกลุ่มทหารและสมาชิกรัฐสภาของประเทศฮอนดูรัสว่า พรรคเพื่อไทยไม่ควรที่จะหยิบยกกรณีการปฏิวัติในฮอนดูรัสมาเปรียบเทียบกับการ ปฏิวัติรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีความแตกต่างในเหตุผลที่ต้องการกระทำอย่างสิ้นเชิง
 
เพราะผู้นำฮอนดูรัสมีพฤติกรรมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตนเองสามารถสืบทอดอำนาจได้อย่างต่อเนื่อง จึงสร้างความไม่พอใจให้คนในชาติ ทหารจึงเข้ายึดอำนาจและตั้งรัฐบาลรักษาการณ์โดยไม่มีการคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่กรณีของประเทศไทย หลังรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชั่น ออกนโยบายมีผลประโยชน์ทับซ้อน แทรกแซงองค์กรอิสระ ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงที่สุด จึงนำมาซึ่งความแตกแยกของคนในชาติ จนถูกปฏิวัติ และคืนอำนาจให้ประชาชนใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยโดยการเลือกตั้ง และมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว 3 รัฐบาล ซึ่ง 2 ใน 3 รัฐบาลก็เป็นรัฐบาลนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ 
 
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ตนจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงยกเหตุการณ์นี้มาเคลื่อนไหว ร้ององค์กรระหว่างประเทศ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นความสำคัญของยูเอ็นซ้ำยังสบประมาทผ่านคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยวิพาทคำว่า "ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ" แต่วันนี้กลับต้องให้ลิ่วล้อออกมาดำเนินการแทน เป็นพฤติกรรมชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน หรือหวังแต่สร้างกระแสชิงพื้นที่ข่าวรายวัน ทั้งที่เคยยื่นข้อเรียกร้องทางการเมืองผ่านองค์กรต่างๆแล้วแต่ก็ไม่ประสบผล สำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนตัวจึงเชื่อว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเพียงการแก้เกี้ยวทางการเมือง มากกว่าหวังผลในทางปฏิบัติ เพราะทางยูเอ็นก็คงไม่เข้ามาแทรกแซงกิจการการเมืองภายในประเทศต่างๆ เพราะผิดวัตถุประสงค์การก่อตั้งองค์กรนี้
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท