Skip to main content
sharethis
จากกรณี พนักงานสอบสวน สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ออกหมายเรียก แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรวมอยู่ด้วย เพื่อเข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนหลายข้อหา จากกรณีบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง
 
วันที่ 5 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายกษิต ภิรมย์ แล้วว่าต้องไปตามหมายเรียก โดยจะขอดูสำนวนอัยการ ส่วนการสั่งฟ้องหรือไม่ก็เป็นเรื่องตามกระบวนการที่ต้องพิจารณากันไป โดยนายกฯได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่า นายกษิต ยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ และกระบวนการยุติธรรมต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีสิทธิพิเศษ
"ผมจะตัดสินเอง โดยไม่ต้องรอคำสั่งฟ้องหรือกระบวนการทางกฏหมาย ผมจะพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนจะปรับนายกษิตออกจากคณะรัฐมนตรีหรือไม่ อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ ขอให้นายกษิตได้ชี้แจงตามกระบวนการทางกฏหมายก่อน" นายกรัฐมนตรี ระบุ
 
ด้านนายกษิต ภิรมย์ ซึ่งติดภารกิจอยู่ประเทศกาตาร์นั้น นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ นายกษิต ทราบเรื่องถูกออกหมายเรียกในคดีบุกรุกสนามบินแล้ว และพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย โดยยืนยันจะไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะได้หารือกับนายกรัฐมนตรีแล้ว
 
ส่วนนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และโฆษกการเมือง กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า  นายกษิตได้เตรียมทนายเพื่อรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในการชี้แจงพนักงานสอบสวนว่าการไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในครั้งนั้นเป็นการไปในฐานะวิทยากรเท่านั้น
 
ด้านนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ความเห็นกรณีตำรวจออกหมายเรียก นายกษิต ภิรมย์ ว่า นายกษิตพูดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ถ้าถูกแจ้งข้อหาก็จะลาออก ดังนั้น จึงต้องดูสปิริตขอนายกษิตว่าจะทำตามคำพูดหรือไม่ และนายกรัฐมนตรีควรจะขอให้นายกษิตได้พิจารณาตัวเอง เพื่อออกไปสู้คดี เพื่อความสง่างาม และยังทำให้กฎ 9 ข้อของนายกรัฐมนตรี มีความศักดิ์สิทธิ์
 
“นี่ไม่ใช่คดีลึกลับซับซ้อน และนายกษิตก็ยอมรับไปร่วมชุมนุมด้วย ข้อเท็จจริงไม่มีการโต้แย้ง และสามารถพิสูจน์ได้ง่าย ทั้งภาพถ่าย และข้อสรุปความเสียหายของกระทรวงคมนาคม กว่า 20,000 ล้านบาท ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงควรจะพิจารณา
 
"นายกรัฐมนตรีก็ควรใช้มาตรฐานเดียวกัน ผมเห็นว่าหากนายกษิตอยู่ในตำแหน่งต่อไป ยิ่งเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ที่ภูเก็ตในเดือนนี้” นายนพดล กล่าว
 
 
............................................ 
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐ,  มติชน, ข่าวสด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net