Skip to main content
sharethis

สืบพยานโจทก์คดี “ดา ตอร์ปิโด” นำฝูงชนล้อมบ้านพระอาทิตย์ ปราศรัยโจมตี ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ เมื่อต้นปี 50 นักข่าว-ช่างภาพ-รปภ.เอเอสทีวีขึ้นเบิกความ ขณะที่จำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่แล้วในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีด้วย

       
       
2 ก.ค.52  ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา ศาลนัดสืบพยานโจทก์ 5 ปาก ในคดีดำที่ อ.3634/2551 ซึ่งพนักงานอัยการยื่นฟ้องนางสาวดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดา ตอร์ปิโด ข้อหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ พยายามบุกรุกและหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการป่าวประกาศ กระจายเสียง จากเหตุการณ์ที่ดารณีได้นำประชาชนในกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อต่อต้านเผด็จการ (นปก.) ในขณะนั้นราว  50-70 คน เดินทางไปชุมนุมล้อมบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ถ.พระอาทิตย์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสถานีเอเอสทีวี เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.50 โดยมีทั้งผู้ที่เดินเท้า ขับขี่มอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และดารณีได้ใช้เครื่องกระจายเสียงบนรถสามล้อกล่าวโจมตีนายสนธิ
 
นายประเวศ ประภานุกูล ทนายความของดารณีระบุถึงขั้นตอนของการพิจารณาคดีว่า การพิจารณาคดีในครั้งนี้เป็นการนัดสืบพยานต่อเนื่องก่อนจะมีคำพิพากษาในลำดับต่อไป โดยในวันที่ 2-3 ก.ค.นี้จะเป็นการสืบพยานโจทก์ และวันที่ 9-10 ก.ค.จะเป็นการสืบพยานจำเลย นอกจากนี้ทางทนายจำเลยได้ขอหมายเรียกให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้เสียหายมาเบิกความในฐานะพยานจำเลยด้วย แต่ทนายความของนายสนธิได้ทำหนังสือปฏิเสธกลับมาโดยระบุเหตุผลว่านายสนธิอยู่ระหว่างพักฟื้นจากการถูกลอบยิง และเนื่องจากนายสนธิเป็นผู้เสียหาย การมาเป็นพยานให้จำเลยไม่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อจำเลย
       
ทั้งนี้ ดารณีถูกคุมตัวในทัณฑสถานหญิงกลางตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.51 ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยศาลปฏิเสธการให้ประกันตัว และมีการสืบพยานโจทก์ไปแล้วเมื่อวันที่ 23-24 มิ.ย. กำหนดสืบพยานจำเลยวันที่ 28 ก.ค.และ 5 ส.ค.52 โดยศาลมีคำสั่งให้การพิจารณาคดีทั้งหมดอย่างปิดลับ (ดูเพิ่มเติมที่ ดา ตอร์ปิโด ร้องอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ถูกพิจารณาคดีแบบปิดลับ)  หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 25 ก.ย.51 มีการฟ้องคดีหมิ่นประมาทนายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งกำลังพิจารณาคดีอยู่ในขณะนี้อีกคดีหนึ่ง และต่อมาวันที่ 4 ธ.ค.51 มีการสั่งฟ้องคดีหมิ่นประมาท พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร ด้วย ซึ่งจะมีการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยในวันที่ 25-28 ส.ค.นี้

เว็บไซต์เอเอสทีวี ผู้จัดการ ได้รายงานการสืบพยานโจทก์ในครั้งนี้ว่า เจ้าหน้าที่ฑัณสถานหญิงได้เบิกตัว ดารณีมาฟังการสืบพยานโจทก์ด้วย ขณะที่อัยการโจทก์นำพยานเข้าเบิกความ จำนวน 3 ปาก ซึ่งนายชัยรัตน์ คุณหิรัญ ช่างภาพของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี พยานปากแรกเบิกความว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 23.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมราว 100 คน ได้เดินทางจากสนามหลวงมาปิดล้อมที่บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด หรือบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ ซึ่งผู้ชุมนุมเดินทางมาทั้งรถแท็กซี่ และรถโดยสารสามล้อเครื่องติดเครื่องขยายเสียง และได้กลิ่นสุราจากผู้ชุมนุมบางส่วน แต่ตนจำไม่ได้ว่าขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อทนายจำเลยถามว่าขณะนั้นมีทหารอยู่ในสำนักงานหรือไม่ เขาเบิกความว่าไม่แน่ใจ
       
พยานคนดังกล่าวเบิกความต่อว่า ตนเห็นดารณีใช้ไมโครโฟนด่าทอนายสนธิ ลิ้มทองกุล ด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ขว้างปาขวดน้ำและก้อนหินเข้ามายังด้านในสำนักงานบ้านเจ้าพระยา ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 คน ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจนเลือดไหล จนต้องนำตัวไปปฐมพยาบาล และจากเหตุการณ์ดังกล่าวตนได้บันทึกภาพไว้ จากนั้นจึงนำมาให้ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีบันทึกลงแผ่นดีวีดีเป็นหลักฐาน
       
ต่อมา นายพิสิษฐ์ เอี่ยมสะอาด ผู้รับมอบอำนาจจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล และบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด เบิกความปากที่สองว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2550 ได้รับมอบอำนาจดังกล่าว จากนั้นจึงนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายจำนวนหลายภาพ แผ่นดีวีดีจำนวน 2 แผ่น และหนังสือร้องทุกข์ ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อดารณี เนื่องจากได้นำม็อบจากสนามหลวงเข้ามาในถนนพระอาทิตย์ และด่าทอนายสนธิ และข่มขู่ไม่ให้พนักงานบริษัทฯ ออกมาข้างนอก รวมทั้งผู้ชุมนุมบางส่วนยังมีการเขย่ารั้วบ้านเจ้าพระยา และขว้างปาขวดน้ำและก้อนหินเข้าไปด้านใน ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้ความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา
       
ด้าน นายสิทธิราช ขจรนาม ซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) พยานปากที่สาม เบิกความว่า ขณะเกิดเหตุตนเข้าเวรรักษาความปลอดภัยกับเพื่อนอีก 1 คน เห็นกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาจากสนามหลวงฝั่งถนนพระปิ่นเกล้า จำนวนประมาณ 100 คน หลายคนอยู่ในอาการมึนเมาสุรา และจำได้ว่าจำเลยเป็นคนที่ถือไมโครโฟนด่าทอนายสนธิ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ขว้างปาก้อนหินมาโดนเพื่อน รปภ.ที่เข้าเวรคู่กันได้รับบาดเจ็บที่ขมับขวา มีเลือดไหล และหลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงสลายตัวไป
 
 
 
 
ที่มาบางส่วนจากเว็บไซต์เอเอสทีวี ผู้จัดการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net