Skip to main content
sharethis
เทพไทอ้างแผนตากสิน 2 มี 60 ประเด็น ดำเนินการแล้ว 40 ประเด็น กำลังดำเนินการ 20 ประเด็น ชี้การโฟนอินของทักษิณทุกเวทีคนเสื้อแดงถือว่าตรงตามแผนตากสิน 2 โฟนอินปลุกปั่นทำให้คนคลั่ง เป็นการขยายความขัดแย้งคนในชาติ ชี้ทักษิณออกนอกประเทศไปเอง ไม่มีใครขับไล่ไสส่ง อยากกลับไทยกลับเองได้ ไม่ต้องอาศัยคนสกลนคร-ศรีษะเกษ หรือคนจังหวัดไหน

เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ (27 มิ.ย.52) รายงานว่า นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีแผนตากสิน 2 ออก มาโดยไม่ปรากฏชัดว่ามาจากแหล่งไหน ซึ่งเป็นที่สนใจของทุกฝ่ายรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งตนได้นำแผนดังกล่าวมาวิเคราะห์ดู โยไม่สนใจถึงแหล่งที่มาว่ามาจากไหน แต่สนใจในเนื้อหาว่าพฤติกรรมนั้นสอดคล้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อ ไทยมากน้อยเพียงใด 

นายเทพไท กล่าวหาว่า พบว่าแผนตากสิน 2 มี 60 ประเด็น ดำเนินการไปแล้ว 40 ประเด็น เช่น ยุทธศาสตร์หลัก 7 ข้อ คือ การรวมพลังทุกชนชั้นขับไล่รัฐบาลล้มล้างอำมาตยาธิปไตย และสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ลดบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เพียงสัญลักษณ์ของประเทศ ล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 2550 กลับมาใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 พร้อม สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มมวลชนรากหญ้าซึ่งเป็นฐานสำคัญของกลุ่ม สุดท้ายคือการแก้ไขกฎหมายทุกฉบับที่เป็นอุปสรรคต่อการกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และสนับสนุนให้กลับสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง
 
นายเทพไท กล่าวหาว่า แผนตากสิน 2 กำลังอยู่ในขั้นระหว่างดำเนินการอีก 20 ประเด็น อาทิ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในสถาบันตุลาการที่จะให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาควบคุมและ กำหนดนโยบายได้ การจัดตั้งกลุ่มสื่อมวลชน คอลัมนิสต์วิเคราะห์ข่าวเพื่อสนับสนุนกลุ่มและทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง โดยมีค่าตอบแทนเป็นรายเดือนในรูปแบบเดียวกับกลุ่ม 18 อรหันต์ เป็นต้น
 
นายเทพไท กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. วันที่ 27 มิ.ย. ว่า หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าการชุมนุมจะสอดคล้องกับแผนดังกล่าวหรือไม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ แกนนำ นปช.ออกมาประกาศรับรองว่าจะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ไม่ใช้ยุทธวิธีดาวกระจายและไม่ยืดเยื้อ ซึ่งตนอยากเรียกร้องให้แกนนำ นปช.รักษา คำพูดและยึดมั่นในคำที่ประกาศไว้เพราะหลายครั้งที่ประกาศแล้วแต่การปฏิบัติ ไม่ตรงกัน โดยอ้างว่าเหตุเกิดจากมือที่สาม ทั้งนี้ท่าทีของรัฐบาลโดยฝ่ายความมั่นคงออกมาประกาศแล้วว่า จะดูแลและรักษาความสงบของผู้ชุมนุม จึงอยากให้ฝ่ายรัฐรักษากฎหมายโดยเคร่งครัดและสนับสนุนให้ใช้ตัวบทกฎหมายด้าน ความมั่นคงหากมีความจำเป็นจริงๆ รวมทั้งขอเรียกร้องผู้นำม็อบ ควบคุมม็อบให้อยู่ในวินัยอย่ายั่วยุ ใช้ความรุนแรงเพราะหากเกิดเหตุก็อย่าปัดว่าเป็นฝีมือของมือที่สาม เพราะหากแกนนำพร้อมนำผู้ชุมนุมมาชุมนุมก็ต้องพร้อมที่จะรับผิดชอบพฤติกรรม ใดๆที่เกิดจากกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย อย่างปฏิเสธไม่ได้อย่างที่ผ่านๆมา
 
นายเทพไท กล่าวอีกว่า เชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีผู้มาร่วมค่อนข้างจำกัด เพราะคาดว่าแกนนำ นปช.หวังผลว่าการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการชิมลางทางการเมืองเพี่อที่จะนัดชุมนุมต่อมาอีกหลายครั้ง เนื่องจากมีการยืนยันจากแกนนำ นปช.ทั้งนายวีระ มุสิกพงษ์ และนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่าครั้งแรกจะชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ครั้งที่สองจะชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ครั้งที่สาม นัดที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบกและครั้งที่สี่จะปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคำประกาศจะสอดคล้องกับแผนในตากสิน 2 หรือไม่ ต้องติดตาม
 
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้โฟนอินมาที่เวทีหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษเมื่อคืนวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นรายชั่วโมงในหลายเวทีย่อยนั้น ก็ถือเป็นยุทธวิธีหนึ่งในแผนตากสิน 2 ที่มีการระบุว่า “จะใช้เวทีการชุมนุมทุกเวทีโดยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมาเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ” ส่วนนี้ตรงกัน แต่ส่วนตัวเห็นว่าการโฟนอินครั้งนี้เป็นการสร้างกระแสและหาเสียงให้กับผู้ สมัครของพรรคเพื่อไทยด้วยนอกจากหวังผลด้านอื่นแล้ว โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ได้พาดพิงใส่ร้ายรัฐบาลว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลที่ทำลายชาติ จึงอยากจะถามว่ารัฐบาลไหนกันแน่ที่ทำลายชาติ ทั้งการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 โดย คมช. ต่อรัฐบาลทักษิณ ก็เพราะรัฐบาลดังกล่าวทุจริตคอรัปชั่นหนักข้อ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 ของ รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นรัฐบาลนอมินีที่ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามทำร้ายประชาชนจนเสีย ชีวิตหลายคน ก็เป็นรัฐบาลที่เกี่ยวโยงสาวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ และล่าสุดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมาหรือที่รู้จักในชื่อสงกรานต์เลือดที่กลุ่ม นปช. นัดชุมนุมป่วนกรุงจนถึงขั้นใช้แผนเผาบ้านเผาเมือง สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขอถามว่ารัฐบาลไหนกันแน่ที่ทำลายชาติ และ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังม็อบดังกล่าวหรือไม่เพราะมีการโฟนอินปลุกปั่นให้ผู้ชุมนุมบ้าคลั่งและใช้ความรุนแรงขยายความขัดแย้งของคนในชาติเป็นความผิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ใช่หรือไม่ และเหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตัวเอง ถ้าเป็นลูกผู้ชายจริงกล้าทำต้องกล้ารับ
 
นายเทพไท กล่าวต่อว่า และการโฟนอินในช่วงเวลานี้ก็เช่นกันที่ขอให้คนใน จ.ศรีสะเกษ และสกลนครพาตัวเองกลับบ้าน โดยระบุออดอ้อนคนสกลนครหลังพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งซ่อมแล้วว่า ตัวเองอยู่แนวตะเข็บชายแดนไทยแล้วขอเพียงคนศรีสะเกษให้ช่วยตัวเองอีกครั้ง ที่จะนำตัวเองกลับเข้าสู่ประเทศไทย โดยระบุว่าตัวเองออกจากไทยมาร่วม 3 ปี คิดถึงประเทศไทยมาก ตนคิดว่าเป็นคำกล่าวที่บิดเบือนเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ต่างประเทศตลอด 3 ปี หากจำภาพที่ พ.ต.ท.ทักษิณก้มลงกราบจูบแผ่นดินแสดงละครสร้างภาพครั้งนั้น ก็อยู่ในช่วงที่รัฐบาลนอมินีของตัวเองบริหารประเทศอยู่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางออกนอกประเทศในช่วงที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองจะตัดสิน คดีการซื้อที่ดินย่านรัชดา โดยอ้างว่าจะขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปดูการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน นับแต่นั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้กลับมาประเทศไทยอีกเลยนับเวลาได้ไม่ถึง 2 ปี และเป็นวิถีทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณเลือกทางเดินของตัวเอง โดยไม่มีใครในประเทศไทยไปขับไล่ไสส่ง ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาไทยก็ไม่จำเป็นต้องให้คนสกลนคร ศรีสะเกษหรือคนจังหวัดใด พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถที่จะลิขิตชีวิตตัวเองได้ ถ้าจะกลับมาประเทศไทย ก็ขอให้กลับมาสู้คดีเพราะคุกไม่ได้มีไว้ขังแต่เฉพาะคนจน แต่มีไว้ขังคนที่ทำผิด แม้คุณจะรวยเป็นแสนล้านแต่ถ้าคุณกระทำความผิดกฎหมายก็ต้องเข้าคุก โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ขอเพียงแต่ให้กลับมาสู้คดี พ.ต.ท.ทักษิณก็เข้าสู่ประเทศไทยได้ โดยมาพิสูจน์ความจริง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net