วันนี้ (22 มิ.ย. 52) ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ในคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จัดเวทีชี้แจงร่างประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) และร่างมาตรฐานเทคนิคกิจการบริการชุมชน (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ฉบับชั่วคราว และชี้แจงขั้นตอนการเตรียมการเพื่อลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุชุมชน โดยมีศาสตราจารย์ประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นประธาน
แถลงการณ์
“ขอให้รัฐปกป้องสิทธิการสื่อสารของชุมชนและเร่งผลักดันให้เกิดการปฏิรูปสื่อ”
ตามที่ กฎหมายพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ได้ให้อำนาจแก่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เพื่อจัดทำร่างหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) นั้น
บัดนี้ คณะอนุกรรมการฯชุดดังกล่าว ได้จัดเวทีชี้แจงร่างประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการออกใบอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ในวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2552 ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุชุมชนทั่วประเทศนั้น
เครือข่ายสื่อภาคประชาชนภาคเหนือ เครือข่ายวิทยุชุมชนจาวล้านนา เครือข่ายวิทยุชุมชนภาคเหนือ 17 จังหวัด สหพันธ์วิทยุชุมชนแห่งชาติ และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ ได้ประชุมหารือร่วมกัน ในวันที่ 20-21 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งมีความกังวลต่อขั้นตอนและกฎเกณฑ์ในการให้ใบอนุญาตแก่วิทยุชุมชน ดังนี้
1. การที่อนุกรรมการฯ ให้วิทยุที่ไม่ใช่วิทยุชุมชนทดลองออกอากาศได้ 300 วัน นับจากวันที่ได้แจ้งความประสงค์ โดยไม่มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เช่น กำลังส่งกระจายเสียง (วัตต์) อาจส่งผลกระทบต่อวิทยุชุมชนที่ขึ้นทะเบียนตามหลักเกณฑ์ใบอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ซึ่งมีกำลังส่งกระจายเสียงน้อยกว่า เป็นต้น
2. การประกาศของคณะอนุกรรมการฯ เรื่องขั้นตอนการให้ใบอนุญาตแก่วิทยุชุมชนไม่ชัดเจน โดยเฉพาะการรับลงทะเบียนแจ้งความประสงค์การประกอบกิจการวิทยุชุมชน ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้แก่ผู้ดำเนินงานวิทยุชุมชนได้
ดังนั้น เครือข่ายสื่อภาคประชาชนภาคเหนือ และเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนตามรายชื่อแนบท้ายนี้ จึงมีข้อเสนอแนะต่อขั้นตอนและกฎเกณฑ์การให้ใบอนุญาตแก่วิทยุชุมชน ดังนี้
1. คณะอนุกรรมการฯ และกทช. ควรมีมาตรการคุ้มครองวิทยุชุมชนที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุชุมชนชั่วคราว ให้สามารถส่งกระจายเสียงได้ โดยไม่ถูกวิทยุอื่นๆรบกวน หรือเบียดทับ เนื่องจากวิทยุชุมชนมีกำลังส่งกระจายเสียงที่น้อยกว่าวิทยุประเภทอื่นๆ
2. คณะอนุกรรมการฯ และกทช. ควรกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้วิทยุประเภทอื่นๆ ที่มิใช่วิทยุชุมชน ทดลองออกอากาศได้ 300 วัน ภายใต้กรอบที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้สิทธิในการสื่อสารของภาคประชาชน
3. คณะอนุกรรมการฯ และกทช. ควรใช้หลักเกณฑ์การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนชั่วคราว โดยอยู่บนพื้นฐานของการส่งเสริมสิทธิในการสื่อสารของภาคประชาชน เช่น การตรวจสอบรายการ โดยให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตวิทยุชุมชนนั้น ต้องบันทึกเทปรายการเป็นเวลา 30 วัน อาจเป็นภาระแก่ผู้ดำเนินงานวิทยุชุมชนได้ ดังนั้น คณะอนุกรรมการฯ และกทช. ควรมีความยืดหยุ่นในการบังคับใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วย เป็นต้น
4. คณะอนุกรรมการฯ และกทช. ควรเร่งผลักดันให้เกิดการปฏิรูปสื่อโดยเร็ว ทั้งสื่อของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้ใช้สิทธิตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปีพุทธศักราช 2550 ในการใช้คลื่นความถี่อย่างเท่าเทียม และเป็นธรรม
ด้วยความเชื่อมั่นต่อพลังแห่งการปฏิรูปสื่อ
เครือข่ายวิทยุชุมชนจาวล้านนา
เครือข่ายวิทยุชุมชนภาคเหนือ 17 จังหวัด
เครือข่ายสื่อภาคประชาชนภาคเหนือ
สหพันธ์วิทยุชุมชนแห่งชาติ
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ
มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม
22 มิถุนายน 2552
|
- กทช.
- คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
- คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ
- คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
- นที ศุกลรัตน์
- มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม
- วิทยุชุมชน
- สหพันธ์วิทยุชุมชนแห่งชาติ
- เครือข่ายวิทยุชุมชนจาวล้านนา
- เครือข่ายวิทยุชุมชนภาคเหนือ 17 จังหวัด
- เครือข่ายสื่อภาคประชาชนภาคเหนือ
- เครือข่ายสื่อภาคเหนือ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)